เรื่องย่อ

ในฉากหลังของโลกสมัยมนุษย์ยุคหินนั้น มีครอบครัวมนุษย์ถ้ำตระกูลครู้ดส์ที่มี กรั๊ก ผู้เป็นพ่อ และเป็นหัวหน้าครอบครัวคือผูุ้คุมกฏต่างๆ ภายในบ้าน โดยเขามีความเชื่อที่ว่าครอบครัวจะปลอดภัยหากไม่ออกไปใช้ชีวิตนอกถ้ำ แต่กับ อี๊บ ลูกสาวคนโตของเขากลับไม่เห็นด้วยในข้อนี้ แล้วกลับมามองหาถึงอิสระที่จะได้ใช้ชีวิตข้างนอกโดยที่ไม่สนคำเตือนของพ่อที่พยายามจะฝังหัวเอาไว้ว่า “ของใหม่ไม่ดี ให้กลัวไว้ก่อน” จนกระทั่งวันหนึ่งเธอก็ตัดสินใจออกไปสำรวจภายนอก และนำไปสู่การผจญภัยครั้งใหม่ ในโลกที่กำลังจะล่มสลาย

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Croods นั้นน่าจะเหมาะกับหลายๆ คนกำลังอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากค่าย Disney/Pixar มาลองเป็นฟิลลิ่งด้วยค่ายอื่นๆ ดูบ้าง เรื่องนี้ก็จะตอบโจทย์มากๆ เพราะให้คุณภาพควบคู่ไปกับความบันเทิงเหมือนกัน แถมมุขตลกในหนังก็ฮาได้แบบขำสุดมากๆ มีครบรสเหมาะกับการนั่งดูร่วมกันทั้งครอบครัว เพื่อสนุกไปกับประเด็นครอบครัวในเรื่อง แต่สำหรับที่ต้องการประเด็นที่ลึกซึ้งกว่านี้แบบค่าย Pixar ก็อาจจะไม่เข้ากันสักเท่าไร ดังนั้นใครที่ชอบ Animation สายบันเทิงแบบ How to train your dragon, Kung Fu Panda ที่เน้นความบันเทิงเต็มอิ่ม กับประเด็นพอประมาณแล้ว ก็ถือว่าเรื่องนี้เหมาะเลย

• สายหนังแอนิเมชั่นชิงรางวัล
• สายหนังแอนิเมชั่นครอบครัว
• สายหนังแอนิเมชั่นค่ายดรีมเวิร์ค

รีวิว / สรุปเนื้อหา

อีกหนึ่ง Animation ชวนว้าวที่แม้ว่าจะไม่ได้มาจากค่ายที่โดดเด่นด้านคุณภาพเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดีอย่าง Pixar แต่กลับเป็นค่ายอย่าง Dreamworks Animation ที่มีผลงานสุดฮิตมามากมายไม่แพ้กัน แถมในบางเรื่องความบันเทิงก็ยังเรียกได้ว่าเต็มอิ่มกว่าเสียด้วย อย่างเรื่อง The Croods นี้ก็น่าจะเป็น Animation อีกเรื่องที่หลายคนก็หลงรัก กับธีมของเรื่องความเป็นครอบครัวของตัวละครในเรื่อง ที่ทำออกมาได้น่ารักจากทีมพากษ์ชื่อดังแต่ละคนไม่ว่าจะเป็น Nicholas Cage, Emma Stone, Ryan Reynolds และคนอื่นๆ ที่ต่างก็เข้ากับบทบาทที่ตัวเองพากษ์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเคมีการต่อบทก็ลื่นไหลกันมากๆ

ในส่วนของงาน Computer Graphic ก็เรียกได้ว่ามีการใส่ใจในรายละเอียดอยู่ไม่น้อย การ Animate ให้ตัวละครทำอะไรหลากหลายท่าทางจากการผจญภัยในเรื่อง ก็ล้วนแล้วแต่ลื่นไหลไม่มีติดขัด รวมถึงการออกแบบสีหน้าของตัวละคร ในแววตาต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดีจริงๆ จนทำให้เราเข้าใจอารมณ์ของตัวละครแต่ละตัวได้ดีขึ้นมาก จนเมื่อหนังนั้นพาคนดูเข้าไปสู่ในพาร์ทดราม่าที่ต้องดึงอารมณ์ ก็สามารถเรียกน้ำตาคนดูอย่างเราออกมา จากความผูกพันกับแต่ละตัวละครในเรื่องได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะในช่วงท้ายๆ ของเรื่องราว

นอกจากนี้จังหวะการดำเนินเรื่องต่างๆ ก็ทำออกมาได้สนุก ดูแล้วเข้าใจง่ายไปกับเรื่องราว ในขณะเดียวกันก็แทรกประเด็นต่างๆ ในเรื่องของความเป็นครอบครัวเข้ามาได้อย่างชวนอบอุ่นหัวใจ รวมถึงแนวคิดที่แตกต่างกันจากการใช้ชีวิตแบบเดิมแบบไม่เสี่ยง กับการกล้าที่จะก้าวออกไปสู่โลกใหม่ๆ แม้จะต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงก็ตาม อีกทั้งบรรดาตัวละครขโมยซีนในหนังก็มีหลายอย่างดี และก็ชวนเรียกเสียงฮา หรืออมยิ้มไปกับความน่ารักของพวกมันได้อยู่ไม่น้อยเลย โดยรวมจึงไม่แปลกใจนักที่มันจะเป็นอีกหนึ่ง Animation ชั้นดี จนมีภาคต่อมาโกยตังแฟนๆ ได้อีกในอนาคต