Step Up (2006)
สเตปโดนใจ หัวใจโดนเธอ
คะแนน
โกดังหนัง
ปลุกกระแสหนังเต้นให้กลับมาอีกครั้ง แม้เรื่องราวจะสูตรสำเร็จ แต่ก็มีการเล่าเรื่องที่สนุก พร้อมกับการเต้นแบบผสมผสานที่สนุกสุดๆ
คำคมจากภาพยนตร์
“ํI'm fighting for something that's real for the first time in my life!” “ฉันได้สู้เพื่อบางอย่างที่เป็นความจริงเป็นครั่งแรกในชีวิตของฉัน”
เรื่องย่อ
ไทเลอร์ เกจ วัยรุ่นข้างถนนที่มีพรสวรรค์ในการเต้น ที่ไปก่อเหตุวิวาทจนทำให้ศาลสั่งเขาต้องไปบำเพ็ญประโยชน์โดยการไปทำความสะอาด ในโรงเรียนสอนบัลเล่ต์แห่งหนึ่ง จนได้พบกับ นอร่า นักเรียนสาวที่บังเอิญเห็นพรสวรรค์ในการเต้นของเขาพอดี เลยเกิดอยากที่จะชวนเธอนั้นมาเป็นคู่เต้นในงาน ทำให้เกิดเป็นส่วนผสมของการเต้นฮิปฮอปที่ดุดันกับความอ่อนช้อยของบัลเล่ต์ก็ผลักดันให้ทั้งคู่ได้แสดงความสามารถอันโดดเด่นได้บนเวที แต่แล้วความแตกต่างและความฝันของทั้งคู่ก็เริ่มส่อแววถึงปัญหาในความสัมพันธ์
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Step Up นั้นเป็นหนังเต้นอีกเรื่องยุคนี้ ที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก และสำหรับที่ชอบหนังสายเพลง สายเต้นกันแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะพลาดหนังเรื่องนี้กันเลย เพราะนอกจากความสำเร็จในแง่ของความสำเร็จจากรายได้ของหนังและเป็นที่ชื่นชอบของคนแล้ว หนังยังเป็นตัวจุดกระแส Street Dance ขึ้นมาได้ฮิตระเบิดระเบ้อกันเลย ซึ่งถ้าคุณชอบหนังเต้นแต่ยังคาดหวังกับเรื่องราวอยูอย่าง Footloose (ได้ทั้งสองเวอร์ชั่น) หรือ High Strung แล้ว Step Up ภาคแรกก็เป็นหนัง
- สายหนังเต้น
- สายหนังดนตรี
- สายหนังฮิปฮอปสตรีทแดนซ์
รีวิว / สรุปเนื้อหา
หนังเต้นวัยรุ่นอีกเรื่องที่ตอนออกมานั้น ก็คงไม่มีใครคาดคิดว่าตัวหนังมันจะกวาดรายได้ทะยานให้กับค่ายได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ อีกทั้งยังเป็นหนังขวัญใจคนดูในปีนั้นอีกด้วย ด้วยทุนของหนังที่ใช้เพียงแค่ $12 ล้าน แต่กลับกวาดรายได้ทั่วโลกไปถึง $114 ล้าน เรียกได้ว่ากำไรอื้อซ่ากันเลยทีเดียว จนไม่แปลกใจนักที่หนังมีภาคต่อออกมาอีกมากมาย โดยใช้พล็อตที่คล้ายคลึงกับภาคแรกนี้เป็นอย่างมาก นั่นก็คือคอนเซปความรักของดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ได้มารักกัน เต้นด้วยกัน มีเหตุทะเลาะกัน ง้อกัน และกลับมารัก มาเต้นด้วยกันอีกครั้ง
ด้วยพล็อตเรื่องที่เป็นสูตรสำเร็จ ทำให้เราแทบจะเดาเรื่องราวและสิ่งที่จะเกิดขึ้นของหนังได้ตั้งแต่ต้นยันจบโดยที่ไม่มีอะไรผิดคาดมากนัก จุดขายของหนังเลยไปอยู่ที่การเต้นเสียส่วนใหญ่ ซึ่งหนังก็สามารถทำออกมาได้ดีมากๆ กับการออกแบบท่าเต้นที่ดูดุดันในแบบฮิปฮอปและสตรีทแดนซ์ เอามาผสมผสานกับความพริ้วไหวของบัลเลต์ได้อย่างลงตัว และสามารถดูเพลินไปกับทุกๆ ฉากที่เป็นการเต้นแบบนี้ จนกลายเป็นความแปลกใหม่ และจุดขายที่ทำให้มันโดดเด่นกว่าหนังเต้นในเรื่องอื่นๆ ที่เคยมีมาก่อนหน้านี้
ซึ่งก็ต้องชื่นชมดาราอย่าง Channing Tatum ที่ถ่ายทอดลีลาการเต้นออกมาได้เท่มาก และสามารถแจ้งเกิดจากหนังเรื่องนี้ได้อย่างเต็มตัวด้วยเสน่ห์อันเหลือล้นของเขา ในส่วนของนางเอกอย่าง Jenna Dewan เองก็แสดงฝีมือมาได้ดีไม่แพ้กันต่างกันที่ผลงานหลังจากนี้ของเธอดูท่าจะไปสายซีรี่ส์ซะมากกว่า แต่ด้วยความโรแมนติกในหนังที่ดูมีเคมีเข้ากันดีและสมจริงนั้น ส่วนนึงก็คงเกิดจากที่ทั้งคู่ได้มารักกันจริงๆ นอกจอ จนแต่งงานกันด้วย (อ่านเพิ่มเติมในเกร็ด) ทำให้แม้ว่า Step Up ในภาคแรกนั้น อาจไม่ได้มีท่าเต้น หรือฉากเท่ๆ มากที่สุด แต่ก็ต้องนับว่าเป็นภาคที่เรื่องราวกลมกล่อมที่สุด อีกทั้งยังมีบทเป็นชิ้นเป็นอันที่สุดแล้วจริงๆ
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Channing Tatum มีความกังวลมากๆ ในการแสดงหนังเรื่องนี้ เพราะเขาเองไม่ใช่นักเต้นมืออาชีพ ที่ต้องเต้นร่วมกับนักเต้นมืออาชีพคนอื่นๆ ในเรื่อง
- แค่สัปดาห์แรกที่เปิดตัวหนังก็คืนทุนแล้ว
- คู่พระ-นาง Jenna Dewan และ Channing Tatum ได้แต่งงานกันในปี 2009 หลังจากดูใจกันมาหลังจากถ่ายทำหนังเรื่องนี้ แต่ก็น่าเศร้าที่ทั้งคู่ตัดสินใจหย่าร้างกันในปี 2018