เรื่องย่อ

ไมค์ แบนนิ่ง อดีตเจ้าหน้าที่คุ้มครองประธานาธิบดีฝีมือดี ที่เคยมีึึความผิดพลาดจากอุบัติเหตุจนภรรยาของประธานาธิบดีเสียชีวิต เลยต้องถูกปลดออกไปทำงานเอกสารแทน แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ต้องกลับมาทำภารกิจนี้อีกครั้งแบบไม่ตั้งใจ เมื่อดันมีกองกำลังก่อการร้ายที่บุกเข้ามายึดทำเนียบขาวเอาไว้ และจับประธานาธิบดีและนักการเมืองคนอื่นๆ เอาไว้เป็นตัวประกัน

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Olympus has Fallen นั้น เป็นหนังแอคชั่นที่มีเนื้อเรื่องซ้ำๆ แต่กลับเร่งเครื่องความเข้มข้นให้มันมีมาตรฐานเหนือกว่าหนังแอคชั่นอื่นๆ ในตลาดมากๆ กับการกับเป็นเล่นกับแอคชั่นแบบ Old School ไม่ต้องเน้นเล่นใหญ่ CG เยอะ แต่เลือกที่จะใส่ใจกับฉากแอคชั่น กับการดำเนินเรื่องที่เข้มข้นแทน จนทำให้มันทวีความรุนแรง เข้มข้นขึ้นได้มากๆ เหมาะกับคอหนังแอคชั่นสไตล์เก๋าๆ เหมือนอย่างหนัง Die Hard เลยจริงๆ หรือถ้าเคยดู White House Down มาแล้วชอบ เรารับรองว่าจะชอบเรื่องนี้ได้มากกว่าเลย

• สายหนังแอคชั่นOldSchool
• สายหนังแอคชั่นเรท R
• สายหนังช่วยเหลือตัวประกัน

รีวิว / สรุปเนื้อหา

เมื่อเห็นหนังแอคชั่นที่แปะชื่อ Antoine Fuqua มาเมื่อใด ก็เหมือนเป็นเครื่องหมายรับรองความมันส์สุดเข้มข้นได้ในทันที สำหรับผลงานอย่าง Olympus has Fallen ของเขานั้นก็เป็นอีกงานที่พล็อตเรื่องดูไม่ใหม่แต่อย่างใด กับหนังสไตล์ที่คนๆ หนึ่งต้องเข้าไปช่วยเหลือคนสำคัญของตัวเองในสถานที่ต่างๆ และโดยต้องฝ่าฟันจากบรรดาตัวร้ายเพื่อให้ไปถึงจุดนั้น ก็ดูไม่ต่างอะไรจาก Die Hard เท่าไรนัก เพียงแต่เปลี่ยนฉากหลังจากตึกเป็นทำเนียบขาว และเปลี่ยนภรรยาให้เป็นประธานาธิบดีแทน แต่ส่วนที่เหลือก็เรียกว่าใกล้เคียงกันมากๆ

แต่แม้ว่าพล็อตเรื่องจะมีความซ้ำๆ ตามสูตรของหนังแอคชั่นสไตล์นี้ แต่สิ่งที่หนังยกระดับขึ้นมาได้อย่างเหนือชั้นก็คือฉากแอคชั่นที่เข้มข้นถึงใจ ด้วยการที่ใช้ Rate R ได้อย่างคุ้มค่า ทำให้เวลาที่พระเอกเจอหน้าใครแล้วไล่ฆ่านั้นก็เป็นอะไรที่สะใจมากๆ และด้วยสถานะการเป็นมวยรองบ่อนของเขาที่เข้าไปคนเดียวและเผชิญกับเหล่าร้ายหลายสิบ ก็เป็นอะไรที่น่าเอาใจช่วยเป็นอย่างดี ที่ต้องต่อสู้กับตัวเบ๊ ตัวมีระดับ ไปจนถึงตัวบอส ที่ค่อยๆ ไต่ความลุ้นระทึกเข้าไปเรื่อยๆ ในส่วนของตัวร้ายก็มีความดุดันไม่แพ้กัน ที่ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงมาก พอถึงเวลาจะฆ่ากันก็เล่นกันถึงตายเลย จนทำให้เป็นมวยคู่โหดที่ถูกคู่และขับเคลื่อนความเข้มของหนังได้ดีเลย

 อีกทั้งด้วยการได้ Gerad Butler มาเล่นบทนี้ก็ยิ่งระห่ำกันเข้าไปใหญ่ ส่วน Aaron Eckhart ก็เหมาะกับบทที่ดูมีเป็นประธานาธิบดีมากจริงๆ แล้วก็ดูไม่ได้เป็นประธานาธิบดีที่งอมืองอเท้ารอการช่วยเหลือ แต่มีทักษะไหวพริบด้วย ก็ยิ่งทำให้หนังสนุกไปกันใหญ่ ซึ่งในช่วงปีเดียวกันที่หนังออกมานั้น มีจังหวะการฉายที่ใกล้เคียงกับหนังอย่าง White House Down ที่มีเรื่องราวที่เหมือนๆ กันพอดี แต่หากจะให้เปรียบกันแบบหมัดต่อหมัดแล้วนั้น ก็ต้องบอกว่า Olympus has Fallen มีความเหนือกว่ามากในหลายๆ ทางจริงๆ จนสามารถมีภาคต่อออกมาได้เป็นไตรภาคเลย