Juno (2007)

โจ๋ป่องใจเกินร้อย

Juno Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนัง Coming of Age ที่ดูกี่ครั้งก็สนุก
หยิบประเด็นท้องในวันเรียนมาเล่าให้เรียบง่าย
มอบข้อคิดมุกตลกทำให้ผู้ชมเพลิดเพลิน

หมวดหมู่ : Comedy
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Jason Reitman
ความยาว : 1 ชั่วโมง 36 นาที
นักแสดงนำ : Ellen Page, Michael Cera

คำคมจากภาพยนตร์

"The best thing you can do is find a person who loves you for exactly what you are. Good mood, bad mood, ugly, pretty, handsome, what have you, the right person is still going to think the sun shines out your ass. That's the kind of person that's worth sticking with." "สิ่งที่เราทำได้คือหาใครสักคนที่รักในแบบที่เราเป็นไม่ว่าเราจะอยู่ในสภาพไหน เขายังคิดว่าเราโคตรเจ๋ง"

เรื่องย่อ

วัยรุ่นเป็นวัยที่กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงวัยผู้ใหญ่ ความอยากรู้อยากลองทำให้จูโน่ )เด็กสาววัยรุ่นธรรมดาทั่วไปในวัย 16 ปี ตัดสินใจมีเซ็กส์กับเพื่อนสนิทอย่าง พอลลี่ เบรกเกอร์ และเกิดตั้งท้องโดยไม่ตั้งใจ จูโน่เลยตัดสินใจยกเด็กในท้องให้คู่สามีภรรยาคู่หนึ่งนำไปเลี้ยง ครอบครัวของจูโน่และเพื่อนสนิทจึงตัดสินใจช่วยให้เธอผ่านสถานการณ์ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Juno เป็นหนังที่ใครที่ชอบแนว Coming-of-Age หรือการเติบโตของวัยรุ่นนั้นน่าจะชอบ เนื้อหามาพร้อมกับประเด็นเรื่องท้องในช่วงวัยเรียน ความไม่พร้อมในการรับมือกับปัญหา หนังมีข้อคิดแง่บวกเตือนใจผู้ชม ทำให้เราได้เห็นว่าการท้องไม่ได้เป็นเรื่องแย่ สถาบันครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่จะผลักดันเราไปข้างหน้า การดำเนินเรื่องของตัวละครทำให้เราสนุกสนานที่จะได้โดยไม่ต้องมีการบิ้วฉากดราม่าให้ผู้ชมมาฟูมฟายตรงข้ามเลยเนื้อหาเล่าได้ฟีลกู๊ด ดูไปกับอมยิ้มไปกับความน่ารักของ Ellen Page

  • สายหนังวัยรุ่น Coming-of-Age
  • สายหนังคอเมดี้

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หน้าปกหนังไม่น่าดูแน่นอนความคิดในหัวเมื่อได้เห็นเรื่องนี้ครั้งแรก แต่ในที่สุดพอได้ดู เราว่าสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้มันพิเศษโดยที่ไม่ต้องพยายามปั้นเนื้อหาดาร์คดราม่า มันคือเรื่องการนำประเด็นของเด็กผู้หญิงท้องในวัยเรียนมาเล่าเรื่องให้เห็นภาพที่กว้างขึ้นกว่าเดิม คนเราส่วนใหญ่เมื่อพลาดไปมีเพศสัมพันธ์ก่อนวันอันควร จัดการปัญหาไม่ได้ก็ตัดสินใจไปทำแท้ง ความสนุกความอยากรู้อยากลองของคนไม่ใช่เรื่องผิด หนังพาเราไปพบกับมุมมองในอีกรูปแบบหนึ่ง จูโน่ เลือกจะบอกกับที่บ้านไม่เผชิญหน้ากับปัญหาหรือตัดสินใจอยู่ฝ่ายเดียว ครอบครัวคือสถานบันใหญ่สุดเวลาเราเจอเรื่องราวไม่ดี และเธอเองก็เลือกเดินหน้าที่จะใช้ชีวิตปกติอุ้มท้องไปเรียนหนังสือมันซะเลย
.


จากนั้นตัวหนังก็ค่อยนำเสนอแง่มุมออกมาทีละนิดทีละนิด พยายามสื่อให้เห็นว่า การท้องมันยังมีทางออกอีกมากมายที่เราจะดำเนินชีวิตต่อไป ไม่ได้เดือดร้อนจะเป็นจะตาย ไม่ว่าจะทุกข์ร้อนแค่ไหน แถมยังมีคู่สามีภรรยาที่อยากมีลูกน้อยแต่ทำกันไม่ได้ ที่พร้อมจะรับเลื้ยงอุปการะ ซึ่งในตัวหนังเราจะได้เห็นว่าพวกเขาตีความเนื้อหาในเชิงบวก ได้เห็นวุฒิภาวะที่รับมือกับเหตุการณ์นี้ได้ เนื้อเรื่องอาจดูจริงจังซีเรียสเรื่องตั้งท้อง แต่ก็ไม่ได้ทำให้หนักหนาเลย ตรงกันข้ามหนังเรื่องนี้กลับฟีลกู๊ดดูง่าย มีแง่งามเชิงบวกมากกว่า บทหนังเรื่องนี้ค่อนข้างดีตรงที่สามารถตีแผ่ปัญหาชีวิตวัยรุ่นว่าถ้าหากคุณเจอปัญหามันยังมีทางออกที่ดีกว่าทำแท้ง และเชื่อว่ามันมีข้อคิดดีๆเยอะเหมือนกัน ช่วงท้ายเรื่องหนังดูจริงจังสื่อสารเรื่องความเป็นแม่คนได้ดีมาก แม้ว่าตัวหนังลึกๆแล้วจะไม่ได้โลกสวย แต่ก็สอดแทรกความตลกเข้าไปเพื่อเพิ่มความสนุก เพลงประกอบที่ใส่ในซีนหนังก็เพราะใช้ได้และ การตัดต่อของหนังลำดับภาพดีมากและมันสมจริง แถมยังมีภาพการ์ตูนกราฟฟิกช่วงแรกที่สวย
.

เมื่อบทหนังเล่าเรื่องได้ดี สิ่งสำคัญที่ตามมาคือพลังงานของนักแสดง โดยเฉพาะ เอลเลน เพจ หรือเอลเลียต เพจในเวลานี้ เธอแสดงเป็นสาวน้อยลุคสดใส แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่แสนเลวร้ายในวัยเรียนได้อย่างดี เราชอบบทบาทของเธอที่พยายามหาความสุขในอีกรูปแบบหนึ่งไม่ได้ไปเดินหนีปัญหา และไม่พยายามทำตัวให้เป็นภาระใคร ท้องโตแล้วไงมันชีวิตเรานี่หว่า ขอแค่เราได้ใช้ชีวิตให้มีความสุขเรียนรู้กับสิ่งที่เราต้องเจอก็เท่านั้น เธอพยายามเต็มที่ขอเพียงแค่ได้เจอคนที่เข้าใจเธอ พูดคุยภาษาเดียวกันก็เท่านั้น พลังของเธอส่งต่อไปยังนักแสดงคนอื่นๆ ทำให้ดาราคนอื่นๆเมื่อเข้าฉากไปกับเธอจึงส่งบทต่ออารมณ์กันแบบเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็น ไมเคิล เซร่า นักวิ่งหนุ่มที่ไปมีเพศสัมพันธ์กับจูโน่, เจนนิเฟอร์ การ์ดเนอร์ สาวที่ต้องการลูกจากท้องของจูโน่, เจสัน เบทแมน นักดนตรีนักแต่งเพลงโฆษณาที่เหมือนเป็นเพื่อนต่างวัยกับจูโน่ที่พร้อมจะแลกเปลี่ยนในสิ่งที่สาวน้อยรายนี้ต้องการ หรือ เจ เค ซิมมอนส์ พ่อบังเกิดเกล้าจูโน่ที่พร้อมจะหนุนหลังไม่ว่าลูกสาวจอมแสบจะเป็นอย่างไร

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • หนังใช้เวลาถ่ายทำไปเพียงแค่ 31 วันเท่านั้น หรือว่าง่ายๆคือ 1 เดือนพอดี
  • เดิมทีหนังมีชื่อว่า Junebug แต่มาเปลี่ยนชื่อเป็น Juno เพราะไม่ให้ไปซ้ำหับเรื่อง Junebug หนังเมื่อปี 2005 ของ Amy Adams
  • หนังแบ่งเรื่องราวออกเป็น 3 ฤดูกาล ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ร่วง สื่อให้เห็นการตั้งครรภ์ 3 ช่วงเวลาของจูโน่