เรื่องย่อ

จากซีรีส์ชื่อดังที่เปิดตัวทางช่อง Gmm 25 เมื่อ 3 ปีก่อน จนได้รับความนิยมในวงกว้างและถูกพูดถึง "แนนโน๊ะ" เด็กสาวปริศนาผมหน้าม้าดูน่ารัก แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าภายใต้ลุคแบบนี้เธอซุกซ่อนความน่ากลัวเอาไว้ เธอเปรียบเสมือนเป็นยมทูต ผู้เดินหน้าเข้าไปยังโรงเรียนสถาบันต่างๆ ในฐานะเด็กใหม่ เธอรู้เห็นความเลวร้ายและทำหน้าที่พิพากษาตามที่ต่างๆในโรงเรียน และดึงธาตุแท้คนเหล่านั้นออกมาเปิดโปงความจริงตรงหน้า และเธอก็จากไปอย่างลึกลับ Season ที่ 2 เนื้อหามีความดาร์คมากขึ้น เนื้อหาตรงไปตรงมา ใส่ความแฟนตาซีลงไป มุมภาพการเล่าเรื่องให้อารมณ์ที่เหมือนกับหนัง มีความเป็นสากล จำนวนตอนน้อยลง แต่ความโหดความรุนแรง บทลงโทษกลับทารุณมากกว่าเดิม ตัวละครเพิ่มขึ้น และเนื้อหาแต่ละตอนอ้างอิงจากข่าวที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นในสังคมการศึกษาไทย ทีมงานรีเสิร์จมาอย่างดี

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ ซีรีส์เด็กใหม่ซีซั่น 2 สร้างปรากฏการณ์มากมายต่อผู้ชมอีกครั้ง เนื้อหานำเสนอด้านมืดของสังคมไทยที่ถูกซุกซ่อนไว้ในภายใต้โรงเรียน สถานที่ที่เราคิดกันว่ามันคือที่ทีปลอดภัย แต่ในความจริงแล้วมันคือที่อันตราย ตัวละครแนนโน๊ะนำพาเราไปเยี่ยมโรงเรียนต่างๆ แต่ยังพิพากษาตัวละครด้วยการดึงตัวต้นที่แท้จริงออกมา  เนื้อหาถึงขั้นเรต R ชำแหละความย่ำแย่ให้ผู้คนได้รับรู้ว่าเรื่องราวเหล่านี้มันเกิดขึ้นทุกวันและมันไม่ใช่เรื่องปกติแบบที่ผู้ใหญ่บางคนปิดหูปิดตากัน ใครชอบการเสียดสีแบบมีชั้นเชิงเรื่องนี้เหมาะมากๆ

• สายหนังที่ชอบเรื่องราวสุดดาร์ค
• สายหนังที่โลกไม่สวย
• สายหนังที่ชอบตีแพร่ความจริงในสังคมไทย

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หากถามว่าอะไรดีที่สุดในซีรีส์ชุดนี้ คือการชำแหละความเน่าเฟะสิ่งแย่ๆที่ไม่มีวันหายไปจากสังคมการศึกษาไทย 8 ตอน ที่ดูมา เหมือนทำให้เราพบเจอวงจรอุบาทแบบเดิมๆ ยกตัวอย่าง นักเรียนหล่อมีความสามารถคิดว่าเสน่ห์ตัวเองจะทำอะไรกับผู้หญิงก็ได้ เพราะคิดว่าตัวเองดูดีพิเศษ มักเอาจุดนี้มาเป็นแต้มต่อกระทำนักเรียนผู้หญิง เนื้อหาหยิบความชายเป็นใหญ่มาเล่น ตามด้วย ปมประเด็นทำไมโรงเรียนหญิงล้วนในสังคมไทยจึงไม่ยอมให้มีผู้ชายจริงๆสักที ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมุมมองค่านิยมแบบเก่าๆ ผู้ชายเป็นเพศที่ทำลายผู้หญิง

ตามด้วยประเด็นลูกคนมีเงินใช้เงินที่มีแก้ปัญหาทุกอย่าง เพราะคิดว่าเงินคือพระเจ้า หรือจะมาถึงประเด็นโรงเรียนคนมีเงิน ที่ทำให้เห็นช่องว่างทางสังคม การสร้างภาพเลือกปฏิบัติ หรือการกลั่นแกล้งแบบสังคมผู้หญิงด้วยกันเอารัดเอาเปรียบตามมาด้วยประเด็นการรับน้องการยึดกฎระเบียบที่มากเกินไปแอบอ้างสนุกกลั่นแกล้งคนเพื่อความสะใจ หรือการสร้างภาพโอ้อวดสร้างตัวตนในโลกโซเชียลเพื่ออยากให้คนมายอมรับ หรือการเอาความไม่แข็งแรงทางร่างกายของเด็กที่มีความสามารถมาหากินกับเงินบริจาค
.

นอกจากประเด็นที่ถูกใส่มาในซีรีส์ที่เป็น Point หลักในแต่ละตอน เราได้เห็นมุมมองของแนนโน๊ะมากยิ่งขึ้น เธอเองเปรียบเสมือนคนที่คอยไปพิพากษา สิ่งแย่ที่เกิดขึ้นในสังคม ว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ เธอไม่ใช่ศาลเตี้ยเพียงอย่างเดียว แต่ยังเล่นงานกลุ่มคนเหล่านั้นให้รู้ถึงความเลวร้ายที่ตัวเองทำเอาไว้ บางคนคิดว่าเรื่องเล็กน้อยคงไม่เป็นอะไร แต่คนเราไม่เคยรู้ตัวหรอกว่าพอโดนกลับซะเองมันเจ็บปวดรุนแรงเหมือนกัน การทรมานในซีซั่น 2 ไม่ได้มีความหนักหน่วง ปล่อยให้เนื้อหาอารมณ์ภาพแต่ละตอนแต่ละลำดับเหตุการณ์เป็นตัวเล่าเรื่องแทน เรื่องราวมันเลยจับต้องได้ คนชั่วคนเลวได้รับกรรมอย่างสาสม แนนโน๊ะจึงไม่ใช่สาวโรคจิตอย่างที่เราคิดไว้ในทีแรก และเราไม่ควรตัดสินใจแค่วินาทีแรกเด็ดขาว

เรื่องราวในแต่ละตอนมีความแตกต่างเพราะผู้กำกับผลัดเปลี่ยนมุมเวียนกัน เนื้อเรื่องมันจึงจบในตอน แนนโน๊ะเข้าไปในโรงเรียนใหม่ ลงโทษคนเลว ผ่านนักแสดงที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกมา ทั้ง เจมส์ ธีรดนย์,นิ้ง ชัญญา, แพทริเซีย กู๊ด, ต่าย เพ็ญพักตร์, เอม ภูมิภัทร, เมย์ ภัทรวรินทร์, ต่าย ชุติมา, มินนี่ ภัณฑิรา, ญารินดา บุนนาคและ พลอย ศรนรินทร์ เหล่าผู้ถูกกระทำ แต่เหนือสิ่งอื่นใด คนที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือ คิทตี้ ชิชา อมาตยกุล ที่เธอยกระดับการแสดงของเธอเองไปอีกระดับ นิ่งเยือกเย็น ปล่อยอารมณ์การแสดงออกมาหมด แบกเรื่องราวของซีรีส์ชุดนี้ตั้งแต่ซีนแรกจนถึงซีนสุดท้าย ไม่รู้สึกผิดหวังกับเธอเลย
.