The Happening (2008)

วิบัติการณ์สยองโลก

The Happening Poster
7.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

คอนเซปหนังน่าสนใจมากๆ ในเรื่องเชื้อที่ทำให้ผู้คนฆ่าตัวตาย สร้างปริศนาลึกลับชวนอยากรู้ว่าเกิดจากอะไร และการตายแต่ละคนก็โหดซะเหลือเกิน

หมวดหมู่ : Drama Mystery Sci-Fi
สัญชาติ : American
กำกับโดย : M. Night Shyamalan
ความยาว : 1 ชั่วโมง 31 นาที
นักแสดงนำ : Mark Wahlberg, Zooey Deschanel, John Leguizamo

คำคมจากภาพยนตร์

“It makes you kill yourself. Just when you thought there couldn't be any more evil that can be invented.”
“มันทำให้คุณฆ่าตัวตาย แค่เพียงคิดเรื่องอะไรที่มันเลวร้ายออกมา”

เรื่องย่อ

เอลเลียต มัวร์ ครูวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ได้รับคำสั่งให้ยุติการสอน เนื่องจากเกิดเหตุประหลาดที่ทำให้จู่ๆ ผู้คนก็ต่างพากันฆ่าตัวตายกันยกใหญ่ ทำให้เขาจึงต้องตัดสินใจกลับไปรับ อัลม่า ภรรยาของเขา เพื่อรีบเดินทางไปกับ จูเลี่ยน เพื่อนซี้ของเขา โดยมีปลายทางเป็นนอกเมือง แต่ในระหว่างทางนั้น ดูเหมือนการฆ่าตัวตายจะทวีวงกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ จนทำให้พวกเขาต้องรีบหาทางหนีออกไปจากสถานการณ์นี้ก่อนที่จะสายเกินไป

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Happenning นั้น เป็นหนังของ M. Night Shyamalan ที่ค่อนข้างมีความเฉพาะในตัวเองอยู่เหมือนกัน ทั้งในเรื่องบทที่ไม่เหมือนใคร กับฉากฆ่าตัวตายแบบสุดสยอง ก็ช่วยให้หนังมีโทนสยอง+ระทึกขวัญได้ไม่ยาก จริงอยู่ที่หนังอาจจะมีข้อเสียในเรื่องของความสัมพันธ์ของตัวละคร ประกอบกับตอนจบที่ดูง่ายดาย เลยทำให้คอหนังส่วนมากอาจจะไม่โอเคกับส่วนนี้เท่าไรนัก ซึ่งด้วยความใหม่ก็ทำให้หาหนังมาเปรียบเทียบได้ยาก เอาเป็นว่าถ้าชอบหนัง M. Night ที่ไม่ได้ดีมากในช่วงหลังๆ ก็สามารถลองชมกันได้เลย

  • สายหนังสยองขวัญระทึกขวัญ
  • สายหนังเอาชีวิตรอด
  • สายหนังโรคระบาด

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังอีกเรื่องของเจ้าพ่อหนังสยองขวัญหักมุมอย่าง M. Night Shyamalan ที่มาคราวนี้ก็สร้างความลึกลับชวนอยากรู้ได้มาเหมือนเดิม เมื่อในเมืองดันเกิดเหตุการณ์ประหลาดที่ทุกคนนั้นฆ่าตัวตายกันไปหมด ทำให้นอกจากตัวละครต้องหนีในสิ่งที่ไม่รู้แล้ว ยังต้องพยายามค้นหาด้วยว่าเกิดจากอะไร (จะได้หนีถูก) ซึ่งคะแนนของหนังใน imdb จัดว่าน้อยมากที่ 5/10 เรียกได้ว่ายังแพ้ Lady in the Water ที่หลายคนบอกว่าแย่ที่สุดของเขาเสียอีก ทั้งที่ส่วนตัวก็มองว่ The Happening นั้น ทำออกมาได้ค่อนข้างดูสนุกเลยทีเดียว

ด้วยความที่หนังเป็น Rate R เลยทำให้ฉากการฆ่าตัวตายนั้นเต็มไปด้วยความสยอง อย่างกับ Final Destination ที่คนเดินไปหาความตายเสียเอง จนแต่ละฉากดูหวาดเสียวเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดโหดจนต้องเบือนหน้าหนี ซึ่งด้วยฉากเหล่านี้ก็เลยทำให้คนดูลุ้นระทึกทุกครั้ง เมื่อตัวละครนั้นจะต้องไปเผชิญกับสิ่งที่มองไม่เห็น เลยยิ่งเครียดกันเข้าใหญ่ เพราะอย่างหนังสัตว์ประหลาดยังเห็นเป็นตัวๆ แต่ในเรื่องนี้เราจะไม่รู้ว่าพวกเขากำลังรับมือกับอะไรกันแน่

ในพาร์ทที่หนังเฉลยนั้นส่วนตัวก็มองว่าไม่ได้แย่ และหากว่าจะหาเหตุผลก็เรียกได้ว่ามีความก้ำกึ่งระหว่างเป็นไซไฟกับแฟนตาซีอยู่หน่อยๆ แต่ก็เป็นเหตุผลที่รับได้ อีกทั้งยังมีความแปลกใหม่ไม่เคยเห็นมาก่อน ข้อเสียคืออาจจะเป็นการคลี่คลายที่ง่ายดาย และไม่มีความชัดเจนนักในตอนที่หนังไปถึงจุดไคลแม็กซ์ เลยทำให้สุดท้ายแล้วคนเลยออกมาก่นด่ากันเต็มไปหมด แต่โดยรวมก็ยังรู้สึกว่ามันดูสนุกอยู่ดี ยกเว้นแต่ว่าคุณต้องการดูหนังที่มีเหตุผลแบบเคลียร์ๆ และชัดเจนแบบสุดๆ ก็อาจจะหงุดหงิดเอาได้

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • เป็นหนังเรื่องแรกที่ผู้กำกับ M. Night Shyamalan นั้นไม่ได้ปรากฏตัวในฐานะดารารับเชิญแบบเรื่องอื่นๆ แต่ก็ยังแอบใช้เป็นเสียงของตัวเองเข้ามาในฉากแทน
  • Mark Walberg เคยออกมายอมรับว่าเขาเสียใจในการเล่นบทนี้ โดยกล่าวว่า “พวกคุณโทษผมไม่ได้หรอกที่อยากลองเล่นเป็นครูวิทยาศาสตร์ดูบ้าง อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต้องวนๆ อยู่กับบทตำรวจหรือคนมาดเถื่อนๆ (ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าพี่แกเหมาะกับบทพวกนั้นมากว่าจริงๆ)
  • หนังเรื่องนี้มีการอ้างอิงจากการทดลอง เกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่อง แต่อาจไม่ได้ถึงขั้นตายกันแบบนี้