เรื่องย่อ

เอเวอลีน หวัง หญิงชาวจีน หญิงชาวจีนที่ตัดสินใจออกเดินทางมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในอเมริการ่วมกับสามี แต่เวลาผ่านไปชีวิตในฝันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด ธุรกิจร้านซักแห้งงที่ขาดทุนมานานหลายปี ชีวิตคู่กับสามี คี ฮุย ควน ที่แสนจืดชืด ความสัมพันธ์กับลูกสาว สเตฟานี่ ซู ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน การถูกกดดันจากผู้เป็นพ่อ รวมถึงสรรพากรสุดโหด ที่มาตามเก็บภาษีและขู่จะยึดร้าน แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู๋ๆ เธอ ก็ได้มาเจอกับ ตัวตนที่อยู่ในหลากหลายชีวิต ณ พหุจักรวาล โดยแต่ละตัวตนต่างมีเป้าหมายในชีวิตแตกต่างกัน มีเส้นทางชีวิตที่เป็นทั้งคนดีและคนชั่ว และยังมีพลังที่เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อการมาอยู่ในโลกประหลาดนี้ได้ปรากฏศัตรูลึกลับที่หมายจะกำจัดตัวเธอในจักรภพอื่น ๆ ให้สิ้นซาก จนในที่สุด เอเวอลีนต้องยอมเผชิญหน้ากับสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Everything Everywhere All at Once เป็นหนังคอมเมดี้ที่ดูง่ายมากๆ สอดแทรกวัฒนธรรมความเป็นเอเชียเอาไว้ได้มีความเป็นสากล หน้าหนังไม่ใช่หนังฮีโร่แบบที่หลายๆคนเข้าใจ สิ่งที่สื่อสารออกไปจะออกไปในทางชีวิตปัญหาความไม่เข้าใจกันของคนในครอบครัวที่มุมมองช่วงชีวิตความคาดหวังแตกต่างกัน เราคาดหวังว่าจะเป็นอย่างโน่นอย่างนี่แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง พล็อตเรื่องราวได้สนุกคาระวหนังดังมากมาย ถ้าชอบจะชอบไปเลย แต่ถ้าไม่ชอบดูไม่เข้าใจคงงงได้ หนังจึงเหมาะกับคนดูในสไตล์หนังตลก หนังนอกกระแส ถ้าเป็นคอหนังทั่วไปอาจไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในมัลติเวิร์ส

• สายหนังไซไฟ
• สายหนังตลกคอมเมดี้
• สายหนังปรัชญา
• สายหนังนอกกระแส

รีวิว / สรุปเนื้อหา

สิ่งที่ทำให้หนังธรรมดาเรื่องนี้มันพิเศษโดนใจคนดู คือความกล้าที่จะนำเสนอประเด็นมนุษย์ทั่วไปที่เผชิญหน้ากับปัญหาในสังคมตัวเองที่พบเจอ และยิ่งเป็นสังคมคนเอเชียแล้ว การเป็นพลเมืองชั้นสองอยู่ในประเทศภาษีแพงที่จะอยู่รอดได้ต้องมีธุรกิจมันเลยเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส เพราะคนที่ไปอยู่อเมริกาคิดแค่ว่าขออยู่รอด มีกิจการมีภาษีส่งรัฐก็เพียงพอแล้ว เราเองคาดเดาคาดหวังว่าอยากจะมีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต แต่ความจริงมันโคตรจะลำบาก นี่คือความจริงที่คนสังคมเอเชียพลเมืองชั้นสองต้องพบเจอ สิ่งที่ตัวละครเผชิญหน้ามันเป็นแบบนั้น แล้วอยู่ดีๆเจ๊ร้านซักแห้งธรรมดาก็ค้นพบว่าเราพบว่ามีเรื่องมัลติเวิร์ส พล็อตคล้ายๆหนัง Marvel ด้วยนะ หน้าหนังเหมือนดูยาก แต่จริงๆแล้วดูสนุกมีความเป็นหนังตลาดมากพอสมควร เงื่อนไขไปหลายๆมัลติเวิร์ส เข้าขั้นพิสดาร ไม่คิดว่าเราจะได้เห็นความเป็น Creative ความสร้างสรรค์ชั้นเยี่ยมจากหนังเรื่องนี้ มันคาดเดาอะไรไม่ได้เลยในแต่ละฉาก

หนังเลือกปัญหาคนเอเชียเป็นฉากหลัง โดยที่ฉากหน้าคือหนังไซไฟข้ามไปยังมิติหนึ่งของตัวละครที่ มีการพูดคุยอธิบายที่มาที่ไปได้ชัดเจนเข้าใจง่ายๆ การแบ่งพล็อตออกเป็นตอนๆ ยิ่งทำให้เก็ตตามในสิ่งที่หนังสื่อสารออกมา เรื่องราวไม่ได้ดูยุ่งเหยิงเลย หนังดูตลกมีฉากแอ็คชั่นที่เสมือนเป็นหนังกังฟูที่หวือหวา ไม่ได้เล่นแค่ฉากแอ็คชั่น แถมแต่ละฉากก็เล่นกับคนดูให้รู้สึกขำไปกับไอเดียที่บ้าบิ่นที่ถามกลับมาว่าคิดได้ไงวะเนี่ย แม่งโคตรเจ๋งเลย บ้าบิ่น วัฒถุดิบที่มี แม่งเร้าอารมณ์มาก การประติดประต่อเรื่องราวลงล็อครวดเร็วฉับไหว ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความวุ่นวายของตัวละครที่เผชิญหน้าอยู่ ดนตรีประกอบลงล็อคกับหนัง มันได้ทั้งความเป็นแอ็คชั่น ดาร์คคอมเมดี้ ดราม่าปัญหาครอบครัวดำดิ่งกับปัญหาของคนเยอะพอสมควร และทำให้เราได้คิดตามไปด้วย ช่องว่างปัญหาระหว่างผู้ใหญ่ยุคเก่าและคนวัยกำลังจะโตเป็นผู้ใหญ่โลกมันเปลี่ยนแปลงไปทุกวันมันไม่ใช่สังคมแบบที่คนอายุเยอะเข้าใจอีกแล้ว บางประเด็นก็เล่นน้ำตาไหลเหมือนกัน แถมหนังยัง Tribure หนังดังมากมายแซวซะไม่เกรงใจทั้ง Matrix, หนังหว่องกาไว, หนังกังฟูจีนยุคบุกเบิกของเฉินหลง มีหยอดหนัง Pixar อีก

นอกจากบทหนังที่เล่นกับมัลติเวิร์ส และปัญหาครอบครัว สิ่งที่น่ายกย่องคือการแสดงของดาราเชื้อสายเอเชียที่เล่นได้แพรวพราวแทบทุกคนไม่ว่าจะบทแอ็คชั่นหรือประเด็นดราม่า มิเชล โหย่ว ที่โชว์ผลงานได้เหนือคำบรรยาย ลำบากบทแอ็คชั่นกินขาดอยู่แล้ว พอมาแสดงหลากหลายคาแรกเตอร์ หลากหลายจักรวาล มันเลยทำให้เราเห็นว่าตัวละครเองก็มีปัญหาในการแก้ปัญหาไม่ต่างจากคนทั่วไปที่ย่อมมีความรู้สึกนิกคิดแบบมุมมองตัวเองที่มีความผิดพลาดความไม่เข้าใจผู้อื่นและเอาตัวเองเป็นที่ตั้งพอได้เผชิญหน้ากับมัลติเวิร์สอื่นๆเธอเองก็ไม่ได้เป็นคนโลกแคบหัวอ่อน การแสดงของเธอทำได้ดีตั้งแต่ต้นจนจบ สื่อสารออกมาได้อินมากๆ หรือจะเป็น Ke Huy Quan นักแสดงเวียดนามที่กลับมาเล่นหนังอีกครั้งในบทสามี นี่คือตัวละครที่มาซัพพอร์ทเรื่องราวให้ดูมีสีสันมากๆ ชอบฉากทั้งที่คู่เล่นคู่กัน มันได้ทั้งดราม่าความตลก แถมยังมีการแซวหนังหว่องกาไว มีคำพูดโดนใจหัวอกคนเอเชียเพียบ หรือจะเป็น Stephanie Hsu ลูกสาววัยเติบโตที่พอไปเล่นหลากหลายคาแรกเตอร์สะท้อนถึงมุมมองคนวัยเติบโตที่มักจะแสว่งหาทำอะไรในสิ่งที่ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจ การวางตัวละครหลัก 3 คนมันสอดคล้องกับปัญหาสังคมคนเอเชียดีแหะ