Die Another Day (2002)
พยัคฆ์ร้ายท้ามรณะ
คะแนน
โกดังหนัง
007 ที่เว่อวังอลังการ แอ็คชั่นด้วยฉากแอ็คชั่นๆเกินจริง เนื้อเรื่องโทนเบาบาง ขยี้เพื่อเอาใจคอหนังสายบู๊ ฉีกกรอบแฟรนไชส์ James Bond แฟนๆไม่ปลืม
คำคมจากภาพยนตร์
"You can't kill my dreams.But my dreams can kill you.Time to face destiny"
"คุณไม่สามารถฆ่าความฝันของผมได้ แต่ความฝันของผมสามารถฆ่าคุณได้ ได้เวลาเผชิญชะตากรรม"
เรื่องย่อ
ภารกิจที่เกาหลีเหนือเกิดผิดพลาด บอนด์ถูกเปิดโปงตัวตนและถูกจับ หน่วยงาน MI6 คว่ำบาตรตัดขาดการช่วยเหลือ แต่สุดท้ายเขาก็ได้รับการแลกตัว และหนีรอดออกมา เพื่อไล่ล่าตัวคนทรยศ และเพื่อปกป้องโลกจากมหันตภัยที่อาจเกิดขึ้น ระหว่างทางเขาได้พบกับจิงซ์ และมิแรนด้า ฟรอสต์ สองสาวผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญกับการผจญภัยของเขา เพื่อตามหาจอมวายร้ายแห่งมหานครอย่าง กุสตาฟ เกรฟส์ ที่วางแผนใช้อาวุธทำล้างโลกให้สิ้นซากและกลับไปยังยุคมืดของเกาหลีเหนืออีกครั้ง
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ 007 Die Another Day เป็นหนังที่เหมาะกับแฟนๆสายหนังแอ็คชั่นออกแนวเว่อวังอลังการ พาร์ทแอ็คชั่นคิวบู๊มาแบบเหนือความคาดหมาย คุณจะได้เห็น รถล่องหน เซิร์ฟสกี อาวุธที่ทำลายล้าง หนังเหมือนหยิบภาพจำลองไฟสงครามของกลุ่มคนเผด็จการ ที่เติมเต็มไปด้วยความมันส์ที่สนุก แม้ว่าหลายเสียงจะบอกว่าภาคนี้หลุดกรอบเกินจริง ออกแนวหนังแฟนตาซีแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เสน่ห์ของพระเอกลีลาการเป็น James Bond ของ Pierce Brosnan คือสิ่งที่ดีงามของหนังเรื่องนี้
- สายหนังแอคชั่น
- สายหนังแฟนตาซี
- สายหนัง James Bond
รีวิว / สรุปเนื้อหา
นี่คือ James Bond ภาคสุดท้ายที่เรารับรู้ว่า 007 คือฮีโร่เหนือเมฆ ฮีโร่ไม่มีวันตาย วันออกมาแนวเว่อวังอลังการจริงๆ เพราะหลังจากนั้นทิศทางของแฟรนไชส์นี้ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล สายลับของอังกฤษที่ทำภารกิจพลาดโดนจับโดนไปทรมาน หนังภาคนี้ไม่ได้มีความซับซ้อน ประเด็นล้างแค้นของ Bond ไม่ได้แข็งแรง หนังเน้นเนื้อหาแอ็คชั่นสาดความมันส์ซะมากกว่า จากฉากเปิดเรื่อง ฉากไล่ล่า ฉากวายร้ายเจอบอนด์ซีนแรก ฉากคิวบา ไอซ์แลนด์ คือแบบเรารับรู้เลยว่า หนังซัดมาเต็มที่เพื่อฉลองครบรอบ 40 ปี 007 ในเวลานั้น มือเขียนบทอัดความมันส์แบบไม่มียั้งใส่ให้เต็มที่ หนังไม่มีเหตุผลตรรกะอะไรทั้งสิ้น เนื้อหาค่อนข้างโดนใจสายบู๊ มีลูกเล่นที่แพรวพราวของเล่นของ 007 อาวุธไฮเทคก็อุดมสมบูรณ์มาก Special Effects ทีมสตั๊นนี้น้องๆ Marvel เลยละ
ทิศทางของหนังที่เราเห็นแม้จะดูมันส์ดูเหว่อ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บอนด์เองก็มีความผิดพลาดเป็นเหมือนกัน เขาทำงานทำภารกิจ โดยไม่รู้เลยว่าองค์กรก็มีหนอนบ่อนไส้คนเลวคนชั่วที่พร้อมจะฆ่าความลับเพื่อแลกกับผลประโยชน์ หรือแม้กระทั่งตัวเองกลายเป็นคนรับบาปโดนองค์กรตัดหางทิ้งกลางทาง หรือแม้กระทั่งผู้หญิงที่บอนด์ใช้สเน่ห์ไปนอนด้วย ก็กลายเป็นงูพิษที่มาลอบกัดแบบไม่คาดคิดไม่รู้ตัว เพราะจุดอ่อนเรื่องผู้หญิงที่แพ้ความงามที่หลอกตาเอาไว้ หรือวายร้ายที่ก็รอบที่เปลี่ยน DNA สิ่งที่หนังทำออกมาได้ดีคือเรารับรู้ว่า โลกยุคต่อไปคนอยากเป็นใหญ่อยากทำร้ายฆ่าผู้คนด้วยอาวุธสังคมที่มีพลังทำลายล้างสูงเพียงเพราะต้องการใช้อาวุธที่มีสยบผู้คนให้อยู่ใต้อำนาจ หวังก่อสงครามและชูตัวเองเป็นใหญ่จุดนี้ทำพอยส์ตัวร้ายออกมาได้น่าสนใจมาก
ส่วนนักแสดงนำ เพียร์ซ บรอสแนน 007 คนที่ 5 ภาคสุดท้ายที่เขาได้แสดงเอาไว้ก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวในเวลาต่อมา เรื่องคุณภาพไม่มีหมดไม่มีตก ความหล่อ ความเนี๊ยบ ความสุขุม นิ่งเยือกเย็น จับปืนดูเท่ห์ แอ็คชั่นก็เล่นเอง มีเสน่ห์มากๆ น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ชอบบทหนังภาคนี้เลย มันออกมาแนวขี้โม้มากๆ แต่ยอมรับว่า การได้เห็นเพียร์ซ บุคลิกขี้เล่น แล้วขับรถแอสตัน มาร์ติน เป็นอะไรที่โคตรจะคูลเลยจ้า ไม่แปลกที่ใครต่อใครยกย่องให้เป็นพยัคฆ์ร้ายเจ้าสำอางมาจนถึงตอนนี้ ฮัลลี่ เบอร์ลี่ สาวบอนด์ หญิงแกร่งที่มาในมาดดุดันซ่อนความเซ็กซี่เอาไว้เปิดตัวน่าจดจำ และเล่นท่ายากฉากบู๊มีอะไรที่น่าจดจด แต่คนที่ดึงดูดมากที่สุดดันกลายเป็น โรซามุนด์ ไพค์ ที่เปิดตัวอย่างสวยแต่โคตรอันตรายน่ากลัวมากๆ เธอเป็นตัวร้าย รวมถึงโทบี้ สตีเฟ่นส์ ที่มาเติมเต็มทำให้หนังเดือดพล่านมาก
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Pierce Brosnan ไม่ชอบบทหนังภาคนี้มาก เพราะขี้โม้
- ลูกสาว Roger Moore James Bond คนที่ 3 มาแสดงในบทแอร์โฮสเตส
- หนังเรื่องนี้ทำขึ้นเพื่อฉลอง 40 ปี James Bond