Boyhood (2014)

บอยฮูด

Boyhood Poster
10/10

คะแนน
โกดังหนัง

ความทะเยอทะยานและความบ้าในการทำหนัง 12 ปี สู่ความละเมียดละไมในการเล่าชีวิตคนธรรมดา ให้ดูเป็นปรัชญาชีวิตสุดลึกซึ้ง

หมวดหมู่ : Drama
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Richard Linklater
ความยาว : 2 ชั่วโมง 45 นาที
นักแสดงนำ : Ellar Coltrane, Patricia Arquette, Ethan Hawke

คำคมจากภาพยนตร์

“You know how everyone's always saying seize the moment? I don't know, I'm kinda thinking it's the other way around. You know, like the moment seizes us.”
“คุณรู้ไหมว่า หลายๆ คนคอยเอาแต่บอกว่าให้เราไขว่คว้าช่วงเวลาเอาไว้ แต่ฉันกลับคิดว่ามันตรงกับกันเลย เหมือนว่าช่วงเวลาต่างหากที่คว้าเราเอาไว้”

เรื่องย่อ

หนังเล่าเรื่องของ เมสัน เด็กชายวัน 6 ขวบ ที่ค่อยๆ เติบโตผ่านช่วงเวลา และเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในชีวิต ตั้งแต่พ่อ แม่หย่าร้าง รวมไปถึงชีวิตในมุมต่างๆ ที่ผ่านความ สุข เศร้า เหงา ทุกข์ มาตลอด 18 ปี ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านของกระแสวัฒนธรรม การเมือง บทเพลง และสังคม จนกระทั่งไปถึงปลายทางที่เขาเติบโตเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งในวัย 18

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Boyhood เหมาะสำหรับที่กำลังอยากหาอะไร Minimal มานั่งดูในวันว่างๆ เพราะตลอดเวลาของหนังกว่า 3 ชั่วโมงมันคือการเล่าเรื่องของชีวิตคนธรรมดาคนนึงที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นจากอายุ 6 ขวบ ไปจนถึงอายุ 18 ผ่านเรื่องราวร้อนหนาวต่างๆ มากมาย แต่ที่น่าสนใจคือ ในความเรียบง่ายมันกลับสะท้อนแนวคิด และแง่มุมชีวิตที่ใกล้ตัวออกมาได้มากมาย ใครที่ชอบหนังวัยรุ่นและการเติบโตที่เรียบง่ายสไตล์ผู้กำกับ Richard Linklater อย่าง Dazed and Confused ก็จะทึ่งไปกับการทำหนัง 12 ปีของเขาในเรื่องนี้อย่างแน่นอน

  • สายหนังดราม่าชีวิต
  • สายหนังวัยรุ่นและการเติบโต
  • สายหนังชิงรางวัลคุณภาพดี

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ลำพังแค่ไอเดียของหนังที่ว่าด้วยการทำหนังเกี่ยวกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งตั้งแต่อายุ 6 ขวบจนไปถึงอายุ 18 ปี โดยใช้ดาราคนเดิมในเรื่องทั้งหมด และใช้เวลาถ่ายทำตามเวลาจริง เพื่อให้เห็นการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของของนักแสดงคนเดิม ก็เป็นอะไรที่นับว่าบ้ามากๆ สำหรับไอเดียการทำหนังเช่นนี้ เพราะตลอดเวลา 12 ปีของหนังที่ต้องถ่ายทำ ก็ต้องมีการนัดการมาถ่ายทำกันอยู่รายปี รวมถึงไม่มีอะไรมาการันตีเลยว่า บรรดาดาราที่ผู้กำกับใช้นั้นจะมีอะไรมากระทบชีวิตจนทำให้ถ่ายทำต่อไม่ได้หรือไม่ หรือแม้แต่ถ้าสิ่งที่ถ่ายไปแล้วผิดพลาด ก็ไม่ส่ามารถแก้ไขอะไรเลย มันจึงนับว่าเป็นความหลงใหล และความทะเยอะทะยานของผู้กำกับ Richard Linklater ที่น่าคารวะมากๆ

ซึ่งข้อดีที่สุดของ Boyhood นั้นก็คือการถ่ายทำที่ใช้นักแสดงชุดเดิมตลอดทั้งเรื่อง จนทำให้เรานั้นเชื่อมต่อกับตัวละครติดโดยเติบโตไปพร้อมกับตัวละครไปโดยไม่รู้สึกตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคนดูที่เป็นผู้ชายก็น่าจะมีโมเมนท์ที่ทำให้หวนนึกไปถึงวัยเด็กได้ไม่น้อย มีหลายสิ่งหลายอย่างที่รู้สึกว่ามันใช่ รู้สึกว่ามันโดน ทั้ง Star Wars, Harry Potter, เกมส์, หนังสือโป๊, รักครั้งแรก จนสุดท้ายก็ได้แต่คิดว่าชีวิตเด็กผู้ชายมันก็คงเป็นอย่างนี้เหมือนๆ กันหมดแหละมั้ง ดูไปก็อินไปจนสามารถนั่งยิ่้มอยู่แทบทุกฉากตลอดเวลา 3 ชั่วโมงของเรื่องสมชื่อ Boyhood จริงๆ

นอกจากการเล่าเรื่องที่ทำให้เราหวนรำลึกอดีตแล้ว Boyhood ยังมีข้อคิดดีๆ และบทพูดโดนๆ มากมายผ่านทางการใช้ชีวิตตลอด 12 ปีของตัวละคร เมสัน ที่เราสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้จากทุกๆ ตัวละคร ทั้งพ่อ แม่ พี่ หรือตัวเอกเองก็จะมีมุมต่างๆ ที่สามารถแตกเป็นประเด็นให้ได้ไปขบคิดอีกมากมาย โดยที่ไม่ได้รู้สึกยัดเยียดแต่อย่างใด แต่กลับยิ่งรู้สึกว่าแท้จริงแล้วข้อคิดดีๆ ของเราในแต่ละวันนั้นไม่ต้องไปหาจากหนังสือ หรือ Quote โดนๆ ที่ไหนเลย เพราะหากมองย้อนกลับไปดูชีวิตของตัวเองแล้วก็จะพบว่าข้อคิดที่ดีที่สุดก็คือข้อคิดที่เราได้มาจากการใช้ชีวิตของตัวเราเอง การเผชิญหน้ากับปัญหา ประสบการณ์ที่มากขึ้นนั่นเอง ซึ่งเอาเป็นว่า Boyhood คือหนังแนว Coming of Age ที่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง หนังอาจจะต้องใช้สมาธิและการใส่ใจกับบทพูดมากหน่อย แต่รับรองว่าหากตั้งใจดูดีๆ แล้วจะได้อะไรกลับไปเยอะมากเลยจริงๆ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ไม่มีนักแสดงคนใดในเรื่องที่มีการทำสัญญาว่าจะต้องกลับมาถ่ายทำในทุกๆ ปี เนื่องจากกฏหมายแรงงานนั้น ไม่สามารถทำสัญญากับลูกจ้างในการทำงานมากกว่า 7 ปีได้ ซึ่งการถ่ายทำของหนังคือ 12 ปี
  • ในช่วงเวลา 12 ปีของการถ่ายทำ ทั้งดาราอย่าง Ethan Hawke และ Patricia Arquette นั้นต่างต้องประสบกับเหตุการณ์ หย่าร้าง แต่งงานใหม่ และมีลูกอีกครั้ง คล้ายๆ กับที่เกิดขึ้นจริงในหนังเลย