Behind Enemy Lines (2001)

แหกมฤตยูแดนข้าศึก

Behind Enemy Lines Poster
7/10

คะแนน
โกดังหนัง

แอคชั่นมันส์ระห่ำชวนลุ้นไปกับการเอาชีวิตรอดของทหารในดินแดนข้าศึก
อีกภารกิจสุดระทึกทั้งในสมรภูมิ และฐานปฏิบัติที่น่าเอาใจช่วย

หมวดหมู่ : Action Drama Thriller
สัญชาติ : American
กำกับโดย : John Moore
ความยาว : 1 ชั่วโมง 46 นาที
นักแสดงนำ : Gene Hackman, Owen Wilson, Gabriel Macht

คำคมจากภาพยนตร์

“Evade and survive we will bring you home!.”
“หาทางเอาตัวรอดให้ได้ พวกเราจะพานายกลับบ้านเอง!”

เรื่องย่อ

เรือโท คริส เบอร์เน็ท นักบินกองทัพเรือก ที่ได้ทำการออกบินลาดตะเวนเพื่อถ่ายภาพจากภาคพื้นดินจนได้ภาพที่ชวนโหดร้าย ในระหว่างปฏิบัติการ กลับโดนกลุ่มฝั่งตรงข้ามสอยเครื่องบินจนร่วงไปในดินแดนของฝั่งนั้น และทางกองกำลังก็ได้ออกไล่ล่าเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ท่ามกลางสมรภูมิสุดโหด เขาต้องงัดทุกทักษะและประสบการณ์ที่มี ในการเอาชีวิตให้รอดตายจากแดนข้าศึกในครั้งนี้ โดยที่มี พลเรือเอก ไรการ์ต หัวหน้าของเขา พยายามที่จะคอยให้การช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง โดยที่ไม่ให้กระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อให้เขากลับบ้านอย่างปลอดภัยให้ได้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Behind Enemy Lines นั้น อาจจะไม่ใช่หนังสำหรับคอหนังสงครามแบบจ๋าๆ สักเท่าไร ในแง่ที่สเกลของมันนั้น ไม่ได้ถึงขนาดเป็นการยกพวกตีกันของทั้งสองฝั่ง แต่เป็นแค่การเอาตัวรอดจากสมรภูมิของนายทหารเพียง 1 คนเท่านั้น ดังนั้นเราจึงมองมันเป็หนนังแอคชั่นเอาชีวิตรอดซะมากกว่า แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่ดี เพราะในแง่ความแอคชั่นบันเทิงมันก็ทำออกมาได้สนุกชวนลุ้นมากๆ และตื่นเต้นไปกับภารกิจทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังในการกลับบ้านของตัวเอกท่ามกลางข้าศึกที่ตามติดทุกทิศทุกทาง ซึ่งถ้าใครชอบหนังเอาชีวิตรอดกลางแดนข้าศึกอย่าง Tear of the Sun หรือ Lone Survivor แล้ว นี่ก็แนวๆ เดียวกันมาเลย

  • สายหนังเอาชีวิตรอดในสมรภูมิ
  • สายหนังแอคชั่นกึ่งสงคราม
  • สายหนังแอคชั่นยุค 2000

รีวิว / สรุปเนื้อหา

Behind Enemy Lines นั้นจะเรียกว่าเป็นหนังสงครามก็คงบอกได้ไม่เต็มปากสักเท่าไร คือในส่วนเนื้อเรื่องก็มีพาร์ทที่คาบเกี่ยวกับเรื่องสงคราม แต่ทว่า การดำเนินเรื่องของหนังกลับเป็นหนังแอคชั่นเอาชีวิตรอด จากเหตุการณ์ที่เครื่องบินของตัวเอกโดนสอยร่วง จนต้องใช้ทักษะความสามารถ และประสบการณ์ที่มีมาในการเอาตัวรอดจากกองทัพข้าศึกด้วยตัวคนเดียวเสียมากกว่า ซึ่งหนังเองก็เริ่มเปิดฉากความมันส์ ความสนุกนับตั้งแต่ตอนที่จรวดชนเครื่องของพระเอกร่วงกันแล้ว

ในเรื่องนั้น หนังก็โยนเหตุการณ์ต่างๆ ที่ชวนลุ้นให้ตัวละครรอดได้มากมาย ทั้งฉากถูกไล่ล่าไล่ยิงในป่า ในเมือง รวมถึงการยานพาหนะต่างๆ ที่คอยติดตามตัวเอกอย่างไม่ลดละ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวร้ายที่ดูมีชะตาผูกพันกับตัวเอกซะเหลือเกิน เพราะตามหากันเจอได้ตลอดทั้งเรื่อง และหวังฆ่ากันให้ตายไม่เช่นนั้นจะไม่สบายใจ ซึ่งนั่นก็เป็นข้อดีที่ทำให้มันกลายเป็นหนังแอคชั่นตามสไตล์ Hollywood แบบเต็มตัว ที่ไม่ต้องเน้นประเด็นสงครามอะไรกันให้มากนัก แต่เอาไว้ดูเอามันส์ เอาลุ้นได้อย่างเต็มที่

เพราะตัวหนังแทบไม่ได้แตะต้องประเด็นเรื่องความรุนแรง หรือการเมืองระดับชาติแต่อย่างใด ทำให้มันอาจจะดรอปในแง่ของความเข้มข้นด้านเนื้อเรื่องอยู่ไม่น้อย แต่สำหรับฉากแอคชั่นแล้วก็เรียกได้ว่าทำออกมามันส์ดี ทั้งฉากเล็กฉากใหญ่ ฉากไล่ยิง ฉากระเบิด ก็ทำออกมาดูสนุกตื่นเต้นได้มาก การตัดสลับกับภารกิจของฐานที่มั่นก็ทำออกมาได้สนุกดี ทั้งในมุมคนที่พยายามเอาตัวรอดในพื้นที่ กับระบบปฏิบัติการที่จะช่วยเหลือคนออกมา จนมันกลายเป็นหนังแอคชั่นสุดมันส์อีกเรื่องเปิดยุค 2000 ได้มันส์สะใจเลยทีเดียว แต่อย่าได้เผลอไปดูภาคอื่นๆ เชียว เพราะอันนั้นมันระดับหนังแผ่นเกรดบีมากๆ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ผู้กำกับ Jphn Moore เกือบเอาชีวิตมาทิ้งในหนังเรื่องนี้ซะแล้ว เพราะในฉากที่รถถังพุ่งทะลุกำแพงออกมา เขาดันอยู่ในบริเวณนั้นพอดี จนสตันท์แมนต้องช่วยดึงเอาไว้ ไม่เช่นนั้นเขาคงเสียชีวิตไปแล้ว
  • ดาราอย่าง Owen Wilson ถึงกับไเข้าร่วมการฝึกการเอาชีวิตรอดต่างๆ เพื่อแสดงหนังเรื่องนี้ และมันก็ทำให้เขาฟิตเสียจนผู้กำกับต้องเอ่ยปากชม เพราะที่ผ่านจะเห็นเขาแต่ในหนังแนวหนังรักตลกเสียมากกว่าหนังแอคชั่นเคร่งเครียดแบบนี้