เรื่องย่อ

เคต และลิซ่า สองพี่น้องที่มาเที่ยวชมทะเลสุดเสี่ยง เมื่อเธอสองคนต้องลงไปในกรงเพื่อชมโลกใต้น้ำ แต่แล้วความซวยก็มาเยือนเมื่อสายที่ยึดกรงเอาไว้ก็ดันขาด จนกรงของทั้งคู่นั้นตกลงไปในใต้น้ำความลึก 47 เมตร ท่ามกลางฉลามหิวโซที่ว่ายวนเวียนอยู่ พวกเธอต้องหาทางรอดกลับขึ้นบนผิวน้ำให้ได้ โดยแข่งกับเวลาของออกซิเจนที่กำลังลดลงเรื่อยๆ

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ 47 Meters Down หนังฉลามอีกเรื่องของวงการที่หาความแปลกใหม่โดยการให้ 2 ตัวละครติดอยู่ในกรงใต้น้ำ หนังเลยออกมาสนุกอยู่ไม่น้อยกับการให้เราได้ไปลุ้นอยู่กับการคิดว่า 2 คนนี้จะรอดออกไปได้อย่างไร ภายใต้สถานการณ์ที่กดดันและลุ้นระทึกมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งแม้ว่าพล็อตหนังจะกลวงๆ เล่าง่ายๆ แต่สุดท้ายก็ยังอุตส่าห์มีอะไรมาเซอร์ไพร์ให้มันเกินความคาดเดากันอยู่ แต่เราก็เชื่อว่าสำหรับคนที่ดูหนังฉลามมาเยอะๆ ก็อาจจะคิดว่ามันธรรมดาไปสักหน่อย และอาจไม่หวือหวาเท่าที่ต้องการ แต่ทั้งนี้ถ้าคุณเป็นคอหนังฉลาม อย่าง Deep Blue Sea, The Shallow ที่ไม่ได้คาดหวังคุณภาพระดับ Jaws แล้ว ก็ยังดูสนุกได้อยู่แน่ๆ

• สายหนังเอาชีวิตรอดในทะเล
• สายหนังฉลามไล่เขมือบคน
• สายหนังระทึกขวัญ

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ฉลามมักได้รับบทเป็นตัวร้ายอยู่ในหนัง Hollywood อยู๋เสมอ และก็มีการทำออกมากันมากมาย โดยแต่ละเรื่องก็พยายามที่จะสรรหาความแตกต่างให้กับตัวเอง เพื่อไม่ให้ซ้ำกับเรื่องอื่นๆ ที่ออกมาในตลาดไปแล้ว อย่าง 47 Meters Down นั้น ก็มีมุมที่แปลกออกไป เมื่อการเที่ยวของสองพี่น้องเพื่อเปิดมุมมองใหม่ อย่างการเข้าไปในกรงเพื่อชมฉลาม แต่กลับซวยเมื่อสายเคเบิลดันขาด มันเลยกลายเป็นหนังฉลามที่มีเงื่อนไขในการเอาชีวิตรอดที่แตกต่างจากเรื่องอื่นอยู่ไม่น้อย อย่างระยะทางที่จะขึ้นไปที่ผิวน้ำ ก็เต็มไปด้วยฝูงฉลามสุดโหด แต่ก็มีเวลาที่จำกัดด้วยปริมาณ Oxygen ที่กำลังจะหมดลงไปเรื่อยๆ

ด้วยเวลา 100 นาทีก็นับว่าหนังใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า เพราะมันใช้เวลาใช้การปูเรื่องในช่วงต้นเพียงไม่นานนัก ก็ทำให้เราพอเข้าลักษณะนิสัยของตัวละคร 2 พี่น้องได้เป็นอย่างดีว่าใครเป็นใคร มีอุปนิสัยการคิดอย่างไร ซึ่งเมื่อลงทะเลไปแล้วเราก็ยังสามารถจำจดทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี ในส่วนของการติดอยู่ในกรงนั้น หนังก็แสดงให้เราเห็นถึงความอึดอัด ของการที่ออกไปไหนไม่ได้ และสิ้นหวังกับอากาศที่ค่อยๆ หมดลง ซึ่งงานด้านภาพก็เสริมให้ในส่วนนี้มีึความสยองอยู่ไม่น้อยเลย

ในส่วนจังหวะการดำเนินเรื่องภายใต้ท้องทะเลนั้น หนังก็ค่อยๆ ใส่เหตุการณ์ให้ชวนลุ้นมาเรื่อยๆ ประกอบกับเหมือนรู้ทันคนดูที่อาจจะคิดแทนว่าทำไมตัวละครไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ แต่หนังก็ยังค่อยๆ ปล่อยชุดข้อมูลที่น่าสนใจออกมาให้กับคนดูอยู่ตลอด ว่าเงื่อนไขที่ตัวละครไม่สามารถทำได้เพื่อเอาชีวิตรอดนั้นเป็นเพราะอะไร ทำให้ทางเลือกดูเหมือนจะน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งแม้ว่าบทหนังจะเบา แต่มันก็ทำออกมาได้อย่างบันเทิง อีกทั้งเราก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหนังแนวนี้จะมีอะไรพลิกผันให้เราได้ประหลาดใจได้ จนกระทั่งเห็นหนังเรื่องนี้ และยอมรับว่ามันชวนเหวอสุดๆ ไปเลย