Before We Go (2014)
กิ๊กกั๊ก รักข้ามคืน
คะแนน
โกดังหนัง
หนังรักโรแมนติกที่มีกลิ่นอาย Before ชัดๆ
แม้คำวิจารณ์จะถาโถมมาแบบหนักหน่วง
แต่พลังการแสดงของ Chris Evans แบกเนื้อหาได้เยี่ยม
หมวดหมู่ : | Romantic |
สัญชาติ : | American |
กำกับโดย : | Chris Evans |
ความยาว : | 1 ชั่วโมง 35 นาที |
นักแสดงนำ : | Alice Eve, Chris Evans |
คำคมจากภาพยนตร์
"If you're committed to somebody, you don't allow yourself to find perfection in someone else." "ถ้าคุณผูกพันกับใครสักคน คุณจะไม่ปล่อยให้ตัวเองมองหาคนที่ดีกว่าแน่"
เรื่องย่อ
นิก กำลังจะมีออดิชั่นเข้าวงดนตรีแต่เขากลับถอดใจเพียงเพราะเห็นแฟนเก่าที่ไม่ได้เจอมา 6 ปีมีคนใหม่ ในคืนนั้นเขาได้ช่วยเหลือหาทางกลับบ้านให้ บรู๊ค ซึ่งกระเป๋าถูกขโมย มือถือเสียติดต่อใครไม่ได้ แถมยังต้องรีบกลับบ้านต่างเมืองก่อนที่สามีจะถึงบ้าน ในคืนนั้นที่ทั้งคู่ได้ใช้เวลาร่วมกันต่างได้เตือนสติซึ่งกันและกัน
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Before We Go มีกลิ่นอายคล้ายๆกับ Before Sunrise อยู่พอสมควร แค่เปลี่ยนตัวละครและเปลี่ยนสถานที่เท่านั้น หนังเหมาะกับคนที่ชอบดูหนังรักที่เรียบง่าย ชอบความรักผ่านบทสนทนา แนวคิด ทัศนคติของตัวละคร เพราะทั้งเรื่องเล่าผ่านบทสนทนาล้วนๆ เลยจริงๆ ดังนั้นหากคนที่ต้องการอะไรหวือหวา โรแมนติกฟินจิกหมอน หรือใส่ดราม่าเข้ามาเป็นตัวดำเนินเรื่องแล้ว อาจจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าไร
- สายหนังรักโรแมนติก
- สายหนังโรแมนติกดราม่า
- สายหนังที่ชอบหนังสไตล์ Before Sunrise
รีวิว / สรุปเนื้อหา
บอกตามตรงเลยว่าครั้งแรกที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ เรารับรู้ได้ทันทีว่าหนังคงได้อิทธิพลโดยตรงของพล็อตเรื่องมาจากหนังเวียนนาโรแมนซ์เรื่อง Before Sunrise แน่ๆ แต่เปลี่ยนโลเคชั่นสถานที่ให้มาเจอแสงไฟนีออนในอเมริกาแทน พาชายหญิง 2 คนที่ดูเหมือนทั้งคู่จะมีปัญหาส่วนตัวมาเจอกันด้วยความบังเอิญอีกแล้ว และต่างฝ่างก็มาพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองซึ่งกันและกันเพื่อให้แต่ละคนกลับไปเดินหน้าใช้ชีวิตอยู่บนหลักความเป็นจริง แปลกอย่างหนึ่งคือชีวิตคนเราพอเจอคนแปลกหน้ามักจะพูดคุยในสถานการณ์ที่คับขันได้ดีกว่าคนที่เราพูดจากันบ่อยๆเสียอีก หนังนำจุดนี้มาเล่าได้สนุกมากแม้ว่าตลอดทั้งเรื่องจะไม่มีอะไรเลยนอกจากผู้คุยเดินไปเดินมา แต่พลังการแสดงของ Chris Evans ที่ช่วยหนังเรื่องนี้ได้เยอะมาก
.
แม่ว่าหนังจะมีกลิ่นอายจาก Before Sunrise แต่หนังเลือกจะเล่าเรื่องผ่านตัวละครที่เป็นผู้ใหญ่คนวัยทำงานแทน สถานการณ์ที่มาพร้อมกับความผิดหวัง คนหนึ่งผิดหวังจากงานอีกคนผิดหวังจากการที่ของโดนขโมย โทรติดต่อหาใครก็ไม่ได้ แวดล้อมที่ดูจะโดดเดี่ยวมันเลยทำให้การนำพาตัวละคร 2 คนมาเจอกันดูจะเป็นธรรมชาติ และทั้ง 2 ฝ่ายก็เต็มใจที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นช่วยเหลือซึ่งกันและกัน บรรยากาศหนังช่วงดึกนำพาให้เรื่องราวเกิดขึ้น ตัวละครเริ่มบอกความอึดอัดในใจให้อีกฝ่ายฟัง จากที่ตัวละครแค่ได้รับความช่วยเหลือมันเปลี่ยนให้เนื้อหากลายเป็นตัวละครอีกคน 1 มาเตือนสติผู้หญิงแทน เราแค่ต้องการใครสักคนที่มาช่วยทำให้เรารอดพ้นจากวันแย่ๆออกไปให้ได้ นี่แหละสิ่งที่ Chris Evans สื่อสารออกมาเลยแตกต่างจาก Before Sunrise ต้นฉบับที่จะออกไปเป็นความรักหนุ่มสาวท่องเที่ยวซะมากกว่า
.
เรารู้สึกว่าหนังมีความโรแมนติกในช่วงเวลาที่ตัวละครกำลังทุกข์ใจ และเสน่ห์ที่เพิ่มเข้ามาคือการมานั่งพูดคุยกันทำอะไรที่แปลกๆไป จนเราคิดในหัวจริงๆแล้ว Chris Evans ก็ทำหนังได้ดีนะ รู้ว่าจะสื่อสารอะไรออกไปเพื่อให้คนดูได้เข้าใจ บทที่เขากลั่นกลองออกมา มันถ่ายทอดความรู้สึกดีๆออกมาโดยที่เราอินไปกับเนื้อหาได้ มันเลยทำให้คู่พระนาง Chris Evans และ Alice Eve ถ่ายทอดความเพลิดเพลินให้ผู้ชมโดยไม่ต้องพยายามเลยสักนิด
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- หนังทำรายได้ไปเพียงแค่ $483,938 เหรียญเท่านั้น
- ผลงานการกำกับเรื่องแรกและเรื่องเดียวของ Chris Evans
- หนังอาจทำรายได้ไม่เข้าเป้าโดนวิจารณ์ย่ำแย่แต่คำคมจากหนังเรื่องนี้ถูกนำไปใช้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษเยอะมาก
- เดิมทีหนังใช้ชื่อว่า 1:30 Train แต่มาเปลี่ยนชื่อในภายหลัง