ทวนความจำกับ 11 วายร้าย จาก Spider-Man ฉบับหนังทุกภาค
นับเป็นที่ชวนตื่นเต้นมากๆ สำหรับแฟนๆ ของ Spider-Man หรือไอ้แมงมุม ที่ติดตามกันมาตลอดทุกภาคในหลายๆ เวอร์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นไตรภาค Tobey Mcguire ของผู้กำกับ Sam Raimi หรือจะเป็น The Amazing Spider-Man 2 ภาคของ Andrew Garfield และผู้กำกับ Marc Webb ที่ไม่ได้ไปต่อ จนมาถึงฉบับล่าสุดของน้อง Tom Holland ซึ่งก็เป็นเวอร์ชั่นแรกที่มีโอกาสได้เข้าไปรวมกับจักรวาล Marvel แบบเต็มตัวจนเป็นที่ถูกใจแฟนๆ เป็นอย่างมาก
แต่ดูเหมือนว่าการเอา Spider-Man ไปใส่ใน Marvel จะยังคงไม่หนำใจ ใน Spider-Man: No way home จึงจัดใหญ่ถึงขนาดขนเอาวายร้าย จากในแต่ละเวอร์ชั่นมายำกันให้ยับในหนังภาคนี้ด้วย (แต่ก็ยังไม่ได้เปิดเผยว่าจะมี Spider-Man มาแจมด้วยหรือไม่) ซึ่งทาง โกดังหนัง เอง ก็คิดว่าหลายๆ คนอาจจะเกิดไม่ทัน (มั้ง!?! 555+) หรือเคยดูฉบับเก่าๆ มาแล้วแต่จำไม่ได้ เลยอยากที่จะเอาวายร้ายฉบับเก่าๆ มาแนะนำกันอีกครั้งเพื่อทวนความจำกันดู
Green Goblin (Spider-Man)
วายร้ายตัวแรกสุดใน Spider-Man ของจักรวาล Sam Raimi ที่เลือกหยิบเอาวายร้ายสุดคลาสสิค อย่าง Norman Osborn เจ้าของ Oscorp ที่ได้ดารารุ่นใหญ่อย่าง William Defoe มารับบทนี้ โดยเขาได้รับภารกิจจากกองทัพให้ค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับการสร้างเซรุ่มสำหรับ Super Soldier เพื่อมาเป็นกำลังรบให้กับกองทัพ ที่เร่งรัดจะเอาผลวิจัยแลกกับเงินสนับสนุน จนทำให้ Norman จึงตัดสินใจนำสูตรที่ไม่สมบูรณ์มาทดลองกับตัวเองจนทำให้เขาเข้าสู่ด้านมืดและควบคุมตัวเองไม่ได้ อีกทั้งยังไปเอาชุดและยานบินมาใช้จนกลายเป็น Green Goblin โดยสมบูรณ์ ก่อนที่จะต้องเผชิญหน้ากับ Spider-Man ในภายหลัง และพ่ายแพ้ตายไป โดยฝากฝัง Peter เอาไว้ว่าอย่าไปบอก Harry Osborn ลูกชายของเขาถึงเรื่องนี้
Doctor Octopus (Spider-Man 2)
อีกหนึ่งวายร้ายที่แฟนๆ รักที่สุดในจักรวาลของ Spider-Man จาก CG สุดเท่ และความมีมิติในตัวละครของเขา โดยในเรื่องนั้น Doctor Otto Gunther Octavius เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทุ่มเทชีวิตให้กับการทดลองเพื่อช่วยเหลือชีวิตของภรรยาเขา เขาพยายามคิดค้นแขนจักรกลขึ้นมา แต่การทดลองของเขาดันผิดพลาด เมื่อเขานำพวกมันมาเชื่อมกับร่างกายของตัวเอง จนเป็นเหตุให้ภรรยาของเขาต้องตาย และทำให้เขาสติแตกจนกลายเป็นวายร้าย ซึ่งหนังก็ได้ดาราระดับรางวัลอย่าง Alfred Molina มาใช้ได้อย่างคุ้มค่า และควรค่าที่จะกลับมาอีกครั้งใน Spider-Man: No Way Home
New Goblin (Spider-Man 3)
Harry Osborn เป็นลูกชายของ Norman Osborn ที่เป็น Green Goblin ในภาคแรกของหนังชุดนี้ นอกจากนี้เขายังเป็นเพื่อนสนิทของ Peter Parker ด้วย แต่สุดท้ายเขากลับเดินตามรอยเท้าพ่อด้วยความแค้นฝังใจว่า Spider-Man เป็นผู้ฆ่าพ่อของเขา และได้เห็นอุปกรณ์ต่างๆ ที่พ่อของเขาเคยใช้ จนสุดท้ายเขาก็ได้เดินตามรอยเท้าผู้เป็นพ่อด้วยการกลายมาเป็น New Goblin แทน และหวังทำภารกิจล้างแค้นให้พ่อให้สำเร็จ แต่สุดท้ายด้วยมิตรภาพ และเพื่อช่วย Mary Jane ผู้หญิงที่เขาทั้งสองรัก Harry ก็ได้กลับใจเพื่อช่วย Peter ในการต่อสู้กับเหล่าร้าย จนได้สละชีวิตตัวเองไปในที่สุด
Sandman (Spider-Man 3)
Flint Marko อีกหนึ่งตัวร้ายรองใน Spider-Man 3 ที่อยู่ท่ามกลางตัวร้ายอย่าง Venom และ Green Goblin จนทำให้เขาอาจจะไม่มีบทบาทมากนัก โดย Flint เป็นอีกตัวละครสำคัญของเรื่องราว เพราะเขาเองเป็นอาชญากรที่มีส่วนทำให้ลุง Ben ตาย จนเป็นจุดเปลี่ยนทางความคิดของ Peter เลย โดยปมความเป็นอาชญากรของ Flint เองนั้น ก็ทำไปเพื่อนำเงินไปรักษาลูกสาวที่เป็นมะเร็ง ซึ่งวันนึงร่างกายของเขาดันไปสัมผัสกับพื้นที่ทดลองที่มีทรายอยู่บริเวณนั้น เลยทำให้เขาเป็นเมต้าฮิวแมน ที่สามารถแปลงร่างเป็นทรายได้ในทุกส่วนของร่างกาย ซึ่งนักแสดง Thomas Haden Church ก็จะกลับมาอีกครั้งเช่นกันใน Spider-Man: No Way Home จากที่ฉบับเก่าใช้เขาได้ไม่คุ้มเอาเสียเลย
Venom (Spider-Man 3, Venom)
เชื่อว่าที่สุดของความน่าผิดหวังสำหรับแฟนๆ Spider-Man คงหนีไม่พ้น Venom ในภาคนี้ เพราะจริงๆ แล้ว Venom เองก็เปรียบเสมือนเป็นคู่ปรับตลอดกาลของ Spider-Man มาโดยตลอดแต่กลับต้องมาเบียดเสียดกับตัวร้ายอื่นๆ พร้อมกับเส้นเรื่องสุดชุลมุนจนทำให้ Venom ฉบับนี้ไม่สามารถผงาดได้แบบที่ควรจะเป็น โดยตัวละครที่เป็น Venom ฉบับนี้ก็คือ Eddie Brock ชายดวงซวยที่ทั้งตกงาน เสียคนรัก และเกลียด Peter Parker มากๆ จึงไปที่โบสถ์และแช่งให้ Peter ตาย แต่แล้วความผิดพลาดก็บังเกิด เมื่อ Peter ในตอนนั้นที่เป็นด้านมืดจากการรับ Symbiote สารชั่วร้ายเข้าไปในร่างกายจนกลายชุดสีดำนั้น กำลังพยายามจะเอา Symbiote ออกจากตัวพอดี ก็หลุดออกมาโดน Eddie จนทำให้เขาต้องกลายมาเป็น Venom แถมยังไปจับมือกับ Sandman เพื่อหวังฆ่า Spider-Man อีก
ส่วนฉบับของ Tom Hardy นั้นก็ไม่ได้ถึงใจเท่าไร เพราะแม้ว่าจะทำ Venom ทั้งที แต่ก็ยั้งมือจนเหลือแค่ Rate PG-13 จนไม่หลงเหลือความโหดแบบที่ควรจะเป็น ตัวบทของทั้งภาค 1 และ 2 ก็ไม่ได้มีอะไรน่าจดจำนอกจากดูมอนสเตอร์ตีกันเท่านั้น ข้อดีทีมีก็คงเป็นความยียวนของตัว Venom เองล้วน รวมถึง End Credit ของ Venom ภาคที่ 2 ที่เป็น A Must ที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
The Lizard (The Amazing Spider-Man)
Curtis “Curt” Connors คืออดีตนักวิทยาศาสตร์ของ Oscorp Industries อีกทั้งยังเคยเป็นเพื่อนร่วมงานกับ Richard Parker พ่อของ Peter Parker ในการร่วมกันผลิตเซรุ่มของกิ้งก่าด้วย จนกระทั่งเมื่อ Richard จากไป Curtis ก็ได้มารู้จักกับ Peter แทน โดย Curtis นั้นมีความมุ่งมั่นที่จะกำจัดความอ่อนแอออกไปจากโลกใบนี้ ด้วยการที่จะทำเซรุ่มให้มนุษย์นั้นสามารถทำการรักษาร่างกายตัวเองได้ไม่ว่าจะบาดเจ็บมาแค่ไหนก็ตาม แต่สุดท้ายมันก็ไปไกลเกินกว่าที่เขาจะควบคุมได้ เมื่อเขาทดลองกับตัวเองจนกลายเป็น The Lizard มนุษย์กิ้งก่า ที่ไร้ซึ่งสติและดุร้าย และเป็นวายร้ายหลักของภาคนี้ ซึ่งหนังก็ได้ดาราอย่าง Rhys Ifans มาเล่นได้สมบทบาทดี
Electro (The Amazing Spider-Man 2)
Maxwell “Max” Dillon คือชายที่ทำงานเป็นวิศวกรไฟฟ้าอยู่ที่บริษัท Oscorp เขาใช้ชีวิตไปวันๆ แบบไร้ตัวตน ไม่มีคนสนใจ จนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือจาก Spider-Man จึงหลงใหลในฮีโร่คนนี้เรื่อยมา ในวันหนึ่งเขาได้พยายามจะซ่อมไฟที่ตึก แต่แล้วก็เกิดความผิดพลาด เมื่อเขานั้นโดนไฟช็อตจนทำให้ตกลงไปในบ่อปลาไหลไฟฟ้าที่ถูกดัดแปลงมา และถูกจู่โจมด้วยปลาไหลไฟฟ้า แต่เขาก็เอาชีวิตรอดออกมาได้ พร้อมกับพลังพิเศษในการปล่อยพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ทำให้เขากลายมาเป็น Electro วายร้ายหลักของภาคนี้ ที่เราจะได้ Jamie Foxx ในบทบาทนี้อีกครั้งอย่างแน่นอนใน Spider-Man: No Way Home
The Rhino (The Amazing Spider-Man 2)
The Rhino หรือแรดเหล็กนั้น ในฉบับหนังนั้น เป็นชาวแก๊งรัสเซียที่มีชื่อว่า Aleksei Sytsevich ที่เพิ่งจะแหกคุกออกมา และได้รับหุ่นเกราะเหล็กมาจากบริษัทรวมวายร้ายอย่าง Oscorp เลยทำให้เขานั้นกลายมาเป็น The Rhino ที่นับว่าเป็นอีกบทบาทที่น่าเสียดาย เพราะในภาคนี้มีเหล่าวายร้ายที่เยอะมากอยู่แล้ว แถมเส้นเรื่องก็ยังยุ่บยั่บ จนไม่มีพื้นที่และเวลาในการเล่าถึงตัวร้ายรายนี้สักเท่าไร แม้ว่าจะได้ดาราระดับเข้าชิงรางวัลอย่าง Paul Giamatti มาก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนจะใช้ไม่คุ้มเอาเสียเลย ซึ่งตอนแรกมีแผนว่าเขาจะได้บทบาทที่มากกว่านี้ในภาค 3 แต่สุดท้ายโครงการก็ดันถูกพับลงไปอีกจากกระแสที่ไม่ค่อยดีในภาคนี้
Green Goblin (The Amazing Spider-Man 2)
ส่วน Green Goblin ฉบับ The Amazing Spider-Man 2 นั้นจะเป็น Harry Osborn ฉบับวัยรุ่นที่เป็นเพื่อนในวัยเด็กของ Perter Parker ที่ต้องสืบทอดมรดก Oscorp Industries จาก Norman Osborn พ่อของเขาที่จากไป ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงธุรกิจเท่านั้นที่เขารับมาแต่ยังเป็นยีนร้ายอีกด้วย จนทำให้เขาต้องพยายามหาเลือดของ Spider-Man มารักษาตัวเอง แต่สุดท้ายเขากลับใช้ยาทดลองที่ยังไม่สมบูรณ์มาใช้ จนเสียสติไปและกลายเป็น Green Goblin อย่างเต็มตัว นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ที่ฆ่า Gwen Stacey คนรักของ Spider-Man ในฉบับนี้ด้วย ซึ่ง Harry Osborn ฉบับนี้ ก็รับบทโดย Dane DeHaan (ที่ช่วงนี้ไม่รู้หายไปไหนแล้ว)
Vulture (Spider-Man: Homecoming)
วายร้ายคนแรกของ Spider-Man ในจักรวาล Marvel ที่ได้ดารารุ่นใหญ่อย่าง Michael Keaton มารับบทนี้ได้อย่างน่าชื่นชม และเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ มากๆ โดยเบื้องหลังของ Vulture ก็คือชายที่มีชื่อว่า Adrian Toomes เจ้าของธุรกิจกู้ซาก ที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ จนสูญเสียงานของเขาไป จากการต่อสู้ระหว่างทีม Avengers กับ Chitauri ในหนัง Avengers ทำให้เขาจึงตัดสินใจมาเป็นอาชญากรด้วยการประดิษฐ์ชุดจากอุปกรณ์ที่ได้มาจากต่างดาว และทำอาชีพขโมยพวกอาวุธไปขายในตลาดมืด จนสุดท้าย Spider-Man ก็สามารถชนะและส่งเขาเข้าคุกไปได้ ซึ่งนอกจากบทบาทของวายร้ายแล้ว เขายังเป็นพ่อของ Elizabeth Liz Toomes ที่เป็นคู่เดทของ Peter Parker ให้มันซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก
Mysterio (Spider-Man: Far From Home)
เรียกได้ว่าฮือฮากันตั้งแต่ได้ดาราหน้าหล่ออย่าง Jake Gyllenhall มาร่วมจักรวาล Marvel แถมยังเป็นอีกวายร้ายตัวเด่นของจักรวาลอย่าง Mysterio ผู้เชี่ยวชาญเรื่องภาพมายา โดยในฉบับหนังนั้นก็เอาปรับให้เข้ากับยุคสมัยได้เป็นอย่างดี กับเรื่องราวของ Quentin Beck อดีตพนักงานของบริษัท Stark Industries ผู้เจ็บแค้นกับการที่ต้องสูญเสียงานที่เขาลงทุนลงแรงไปทั้งหมดกับการสร้างภาพ Hologram เขาเลยรวบรวมสมาชิกกับพนักงานเก่าที่โดนเด้งออกมาเหมือนกันเพื่อสร้างตัวเองให้เป็นฮีโร่ที่มีชื่อว่า Mysterio โดยใช้อุปกรณ์อย่าง Drones มาช่วยสร้าง Hologram สร้างความปั่นป่วน ทำให้ Peter เองก็เผลอไปหลงเชื่อเขาในตอนแรก จนกระทั่งมารู้ความจริงในที่หลัง และปราบเขาลงจนได้ แต่ก็ไม่วายเป็นเรื่อง เพราะ Beck นั้นได้เปิดเผยข้อมูลของ Peter Parker ซะหมดเปลือกว่าเป็นผู้ฆ่าและโยนความผิดให้เขา อีกทั้งยังบอกด้วยว่า Peter นั่นแหละคือ Spider-Man จนกลายมาเป็นที่มาจุดเริ่มของเรื่องยุ่งๆ ที่จะลบความจำของผู้คนใน Spider-Man: No Way Home นั่นเอง