ย้อนรอย 6 ภารกิจยอดสายลับ Ethan Hunt

คงมีนักแสดงชายเพียงไม่กี่คนที่ยืนหยัดในโลกภาพยนตร์มายาวนานถึง 4 ทศวรรษ กว่า 40 ปีที่ Tom Cruise โลดแล่นในจอเงินแบบ ผ่านงานแสดงแทบทุกบทบาท พระเอก ตัวร้าย บทดราม่า คอมเมดี้ ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว จากเด็กหนุ่มสู่รุ่นใหญ่ เขายังคงมีความกระหายต่อสู้เพื่อสรรหาไอเดียใหม่ เทคนิคการเล่าเรื่องใหม่มาเสิร์ฟผู้ชมอยู่เสมอ ผู้ชายที่แม้จะอ่านหนังสือไม่ออก แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาเขาเลย ความกล้าหาญความบ้าบิ่นที่ไม่เกรงกลัวความตาย เลยจะมอบความสมจริงในโลกภาพยนตร์อยู่เสมอ

และยิ่งกับงานแอ็คชั่นสายลับที่เขาปลุกปั้นอยู่กับแฟรนไชส์นี้มาตั้งแต่วันแรก Mission Impossible กลายเป็นงานที่สนุก 27 ปีของภาพยนตร์ชุดนี้มักมีแนวทางที่ไม่ซ้ำซากจำเจ และการที่หนังเปิดโอกาสให้ผู้กำกับมากมาย เข้ามาเสนอไอเดีย ก็พิสูจน์แล้วว่า Tom ไม่ใช่คนที่ย่ำอยู่กับอะไรเดิม ถ้ามีความเดือดที่พร้อมจะให้เขากระโดดเข้าไปเสี่ยงตายก็พร้อมจะทำ จากหนังสายลับสับขาหลอกคนดูในภาคแรกมาเป็นหนังแอ็คชั่นแบบสไตล์ฮ่องกง หรือจะเป็นการปรับโหมดเป็นหนังสายลับทำงานเป็นทีมแบบในยุคหลังๆ เรียกว่าสิ่งที่ Mission ทำให้สร้างมุมมองใหม่ๆเพื่อให้เท่าทันโลกที่เดินเร็วขึ้นทุกวัน

เพื่อต้อนรับการกลับมาของ Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One เราขอย้อนรอย 6 ภารกิจเดือดจากยอดสายลับ Ethan Hunt ถ้าพร้อมแล้วไปสำเร็จเรื่องราวของยอดจารชนคนนี้กันได้เลย

1. Mission Impossible (1996)

Ethan Hunt สายลับมือฉมังที่ได้เข้าร่วมภารกิจไปพร้อมกับทีม ตามคำสั่งของหน่วย IMF เพื่อออกปฏิบัติในการยับยั้งการจรรกรรมข้อมูล แต่แล้วภารกิจนี้กลับล้มเหลวจนทำให้สมาชิกคนอื่นๆ ในทีมต่างเสียชีวิตกันหมด ยกเว้นแค่เพียง อีธาน ที่รอดมาได้ ทำให้เขาจึงตกเป็นเป้าของการเป็นหนอนบ่อนไส้ในทีมที่สังหารสมาชิกที่เหลือ เขาจึงต้องหลบหนีการจับกุมของบรรดาสายลับมือโปร พร้อมทั้งสืบหาข้อมูลไปด้วยเพื่อหยุดยั้งแผนการอันชั่วร้าย และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง


สำหรับ Mission Impossible นั้น นับเป็นอีกที่สุดของวงการหนังสายลับอีกเรื่อง ที่ใครชอบหนังสไตล์สปายสายลับจะต้องชอบ ด้วยความครบเครื่องในสิ่งที่หนังสายลับควรมีอยู่เกือบครบทุกองค์ประกอบ อีกทั้งยังใส่ฉากแอคชั่นที่สร้างสรรค์มากมาย โดยที่ไม่ต้องเน้นแค่ฉากยิงกันเพียงอย่างเดียว จนทำให้หนังมีฉากแอคชั่นหลายฉากที่น่าจดจำและชวนลุ้นอยู่ไม่น้อย จนไม่แปลกใจที่หนังจะประสบความสำเร็จและมีภาคต่อมาอีกมากมาย ด้วยเสน่ห์อันเหลือล้นของแต่ละภาคที่มีสไตล์ตามผู้กำกับที่ต่างกันออกไป ดังนั้น หากใครชอบหนังสไตล์สายลับแบบพวก James Bond หรือ ตระกูล The Bourne แล้ว นี่ก็เป็นหนึ่งในสายลับอีกคนในโลกภาพยนตร์ที่น่าจดจำ

2.Mission Impossible II (2000)


Ethan Hunt สายลับพิเศษถูกส่งเข้าสู่วิกฤตอันน่าหวาดผวาครั้งใหญ่ระดับชาติ เขาและ Luthur อัจฉริยะทางคอมพิวเตอร์ ต้องเดินทางข้ามทวีปออสเตรเลียและสเปน เพื่อหยุดยั้งหายนะ ฝ่าปฏิบัติการสะท้านโลก ก่อนที่วายร้ายSean Ambrose อดีตสายลับ IMF คู่ปรับเขาจะประสบความสำเร็จในภารกิจทำลายล้าง

สำหรับ Mission Impossible 2 อาจเป็นภาคต่อแฟรนไชส์ที่คอหนังสายลับชอบน้อยที่สุด เพราะหนังเปลี่ยนสไตล์การเล่าเรื่องจากภาคแรกไปแบบสิ้นเชิง เนื้อหาจึงกลายเป็นหนังแอ็คชั่นแบบฮ่องกงผ่าน 3 ตัวละคร อารมณ์แบบผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ หนังเน้นฉากแอ็คชั่นที่เยอะแยะมากมา มีหลายๆฉากที่แฟนๆจดจำได้ แนะภาคนี้เปลี่ยนแปลงงานสร้างที่ความจริงจังคิวบู๊ที่มาเพียบ แม้ว่าคำวิจารณ์จะไม่ดีเท่าเทียบกับหนังภาคอื่น แต่เสน่ห์ของหนังภาคนี้เปลี่ยนแปลงงานสร้างของแฟรนไชส์นี้ในเวลาต่อมา

3.Mission: Impossible III (2006)

Ethan Huntสายลับมือฉมังที่ลาวงการมาเป็นครูฝึกภาคสนาม เพราะพบรักกับ จูเลีย พยาบาลสาว จนถึงขั้นที่จะแต่งงานกัน โดยที่จูเลียก็ไม่ได้ล่วงรู้ถึงงานเบื้องหลังของอีธานเลย จนกระทั่งอีธานก็ได้รับภารกิจใหม่อีกครั้งจากหน่วยงาน IMF (Impossible Mission Force) เมื่อลูกศิษย์ของเขานั้นหายไปจากการปฏิบัติการ เขาจึงต้องออกตามล่าวายร้ายอย่าง โอเว่น ดาเวียน วายร้ายตัวฉกาจที่ค้าอาวุธและข้อมูลข้ามชาติ แถมยังมีความฉลาดเป็นกรดไม่ต่างอะไรจากสายลับเลย จนเมื่ออีธาน ต้องกลับมารับภารกิจอีกครั้ง ก็ต้องพบว่า โอเว่นนั้นดันเอาคนใกล้ตัวของเขามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย

สำหรับ Mission Impossible III ก็เป็นหนังชุดที่เหมาะกับคอหนังสไตล์สายลับกันอยู่แล้ว ซึ่งในภาคที่ 3 นี้จริงๆ แล้วก็สามารถดูได้อย่างโดดๆ โดยที่ไม่ต้องดู 2 ภาคแรกมาก่อนแต่อย่างใด เพราะเหมือนเอาตัวละครเดิมมาใช้ แต่ก็เป็นเนื้อเรื่องใหม่ทั้งหมดนับตั้งแต่ต้นเรื่อง ซึ่งในภาคนี้มันมีเสน่ห์ของความเป็นหนังสายลับมาก ในขณะเดียวกันก็ดูบันเทิงไปกับฉากแอคชั่นสุดมันส์ในสไตล์ Blockbuster ไปด้วย ทำให้ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนคลับของหนัง Mission Impossible มาก่อนหรือไม่ก็ตาม ยังไงเราก็แนะนำให้ดูภาคนี้กันอยู่ดี ยิ่งคนที่ชอบหนังสายลับแบบ The Bourne Identity หรือแนว Bond อยู่แล้ว ก็ได้จะได้คารแคเรคเตอร์อีกแบบดี

4.Mission Impossible Ghost Protocol (2011)


หลังโดนกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายที่วางระเบิดนครเครมลิน เจ้าหน้าที่หน่วย IMF อีธาน ฮันท์ ถูกตัดหางปล่อยวัด รวมถึงเพื่อนร่วมหน่วยคนอื่น ๆ เมื่อประธานาธิบดีสั่งเริ่ม ปฏิบัติการไร้เงา อีธาน ที่ตกอยู่ในสภาพไร้ทางออกหรือผู้สนับสนุน ต้องหาหนทางล้างมลทินให้กับหน่วยงานของเขา และปกป้องการโดนโจมตีอีกครั้ง แต่ที่ทำให้ทุกอย่างยุ่งยากซับซ้อนขึ้น อีธาน ถูกบีบให้ต้องรับภารกิจนี้ร่วมกับเพื่อน ๆ ร่วมหน่วย IMF ซึ่งต่างต้องหลบหนีความผิด และแต่ละคนต่างมีแรงจูงใจส่วนตัวที่ อีธาน ไม่อาจล่วงรู้ได้

สำหรับ Mission Impossible IIII ก็เป็นหนังชุดที่เหมาะกับคอหนังสไตล์สายลับกันอยู่แล้ว ซึ่งในภาคที่ 4 นี้จริงๆ แล้วก็สามารถดูได้อย่างโดดๆ โดยที่ไม่ต้องดูภาคอื่นๆมาก่อนแต่อย่างใด จริงๆแล้วหนังวางแผนว่าจะสร้างภาคนี้เป็นภาคสุดท้าย เลยงัดสกิลเสี่ยงตายออกมาหมด ปีนตึกสูง หรืออาศัยสถานการณ์ธรรมชาติมาเล่นงานตัวละครหลัก แน่นอนว่าบทหนังภาคนี้มันมีเสน่ห์ของความเป็นหนังสายลับมาก ในขณะเดียวกันก็ดูบันเทิงไปกับฉากแอคชั่นสุดมันส์ในสไตล์ Blockbuster ไปด้วย ทำให้ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนคลับของหนัง Mission Impossible มาก่อนหรือไม่ก็ตาม ยังไงเราก็แนะนำให้ดูภาคนี้กันอยู่ดี

5.Mission: Impossible – Rogue Nation (2015)

หลังมีการปิดหน่วยงาน IMF ลง แต่ Ethan Hunt ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปด้วยการตามล่าองค์กรผู้ร้าย เดอะ ซินดิเคต แต่ก็ถูกจับตัวไปได้ แต่แล้วเขากลับได้รับความช่วยเหลือจากผู้หญิงปริศนา ทำให้เขารอดตายและเรียกทีมงานเก่าๆ อย่าง Benji ให้มาช่วยตามไล่ล่าองค์กรนักฆ่านี้ให้ได้


สำหรับ Mission Impossible 5 กลายเป็นหนังแอ็คชั่นสายลัยที่ยกระดับการสร้างการเล่าเรื่องที่ให้มีความสดใหม่ แต่ในเวลาเดียวกันก็มีกลิ่นอายจากหนังภาคแรก เสน่ห์ของหนังคือไม่ต้องดูภาคอื่นๆ สามารถเข้าใจเนื้อหาหนังได้ทันที ใครชอบหนังสไตล์สายลับจะต้องชอบ ด้วยความครบเครื่องในสิ่งที่หนังสายลับควรมีอยู่เกือบครบทุกองค์ประกอบ โดยที่ไม่ต้องเน้นแค่ฉากยิงกันเพียงอย่างเดียว จนทำให้หนังมีฉากแอ็คชั่นหลายฉากที่น่าจดจำและชวนลุ้นอยู่ไม่น้อย จนไม่แปลกใจที่หนังจะประสบความสำเร็จและมีภาคต่อมาอีกมากมาย ด้วยเสน่ห์อันเหลือล้นของแต่ละภาคที่มีสไตล์ตามผู้กำกับที่ต่างกันออกไป ดังนั้น หากใครชอบหนังสไตล์สายลับแบบพวก James Bond หรือ ตระกูล The Bourne แล้ว นี่ก็เป็นหนึ่งในสายลับอีกคนในโลกภาพยนตร์ที่น่าจดจำ

6.Mission: Impossible – Fallout (2018)


ภารกิจปฏิบัติการที่เบอร์ลินล้มเหลวทำให้ พลูโตเนียม หลุดรอดจนเกิดเหตุวินาศกรรมสถานที่สำคัญทางศาสนา Ethan Hunt จำต้องร่วมงานกับ August Walker ซีไอเอหนุ่มที่เขม่นเขาตั้งแต่แรกพบ แต่ราคาที่ต้องจ่ายเพื่อให้ได้พลูโตเนียม อาจทำให้ Solomon Lane ผู้ก่อการร้ายสุดโฉด หลุดรอดการจับกุมไปได้ ทำให้ทาง ซีไอเอ และ ไอเอ็มเอฟ เริ่มสงสัยในความภักดีของ Ethan และเขาต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการตามจับวายร้ายสมองเพชรและหยุดหายนะครั้งใหม่ก่อนโลกจะลุกเป็นไฟ


สำหรับ Mission: Impossible – Fallout กลายเป็นงานแอ็คชั่นสายลับที่มีเทคนิคการเล่าเรื่องงานสร้างที่ดุเดือดยกระดับแฟรนไชส์นี้ไปได้ไกล หนังมาในมุมมองภารกิจสืบสวนสอบสวน มีเส้นเรื่องที่ไม่ซ้ำซากจำเจ คอหนังบู๊ที่ชอบความสมจริง ฉากที่บ้าระห่ำภาคนี้แม่งไปไกลกว่าทุกๆภาค มีความครบเครื่องทั้งบท ปมปัญหา พาร์ทดราม่าก็ดี ตัวละครหลักตัวละครสมทบมีรายละเอียดที่น่าจดจำ กลายเป็นหนังสายลับที่ยังไงก็ต้องหามาดูให้ได้ปูทางรอคอยภาคสุดท้าย หากใครชอบหนังสไตล์สายลับแบบพวก James Bond หรือ ตระกูล The Bourne แล้ว นี่ก็เป็นหนึ่งในสายลับอีกคนในโลกภาพยนตร์ที่น่าจดจำ