10 ซีรีส์ยอดเยี่ยมประจำปี 2021 By โกดังหนัง

กำลังจะผ่านไปอีกปี ท่ามกลางวิกฤติโควิดที่ระบาดหนัก จนทำให้อุตสาหกรรมหนังสื่อบันเทิงได้รับผลกระทบไปเต็มๆ สิ่งที่ได้รับความสนใจจากคนดูนักดูหนัง นั้นคือคอนเทนต์สตรีมมิ่ง ประเภทกลุ่มซีรีส์ที่เข้ามามีบทบาทกับผู้ชมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ไอเดียในการเล่าเรื่องซีรีส์ไม่ว่าจะเป็นงานฝั่งอเมริกาหรือเกาหลี บางเรื่องคุณภาพเทียบเท่ากับหนังโรงด้วยซ้ำไป ไม่แปลกเลยที่สตูดิโอหนังมากมาย แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งมองไว้เป็นช่องทางในการขยายจักรวาลหนังแฟรนไชส์ให้ก้าวกระโดดไม่จำเป็นต้องอิงแค่ทำหนังฉายโรง พิสูจน์ได้จาก HBO Max, DIsney+, Paramount+ ที่โดดที่สร้างสรรค์คอนเทนต์ลงจอแก้วแข่งกับ Netflix ที่มีคอนเทนต์ไปทั่วโลกหลากหลายประเภท

ซีรีส์กว่า 300 กว่าเรื่องที่ออนแอร์ในปีนี้มีหลากหลายสไตล์แตกต่างกันออกไป ทั้งแอ็คชั่น ฮีโร่ ความรักวัยรุ่นหนุ่มสาว ฆาตกรรมสยองขวัญ ดราม่าสู้ชีวิต สืบสวบสอบสวน มีหลากหลายเแนวทางแตกต่างกันออกไป เป็นกำไรของคนดูที่จะหาเอนเตอร์เทนเมนต์มาดูแบบใกล้ชืด เมื่อสิ้นปีแบบนี้โกดังหนังเลยคัดกรอง 10 ซีรีส์คุณภาพทั้งฝั่งอเมริกาและเกาหลีที่เข้าตาในปี 2021 ขอย้ำว่าการจัดนี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ส่วนจะมีเรื่องไหนบ้างนั้นเข้าไปดูกันเลยจ้า

1.WandaVision

คู่รักข้าวใหม่ปลามัน วันด้าและวิชั่น ย้ายมาอยู่ในเมืองเล็กๆที่ชื่อว่า Westview พวกเขาเริ่มต้นใช้ชีวิตแบบสามีภรรยาอย่างสนุกสนาน อารมณ์เหมือนพ่อแง่แม่งอล วันด้าใช้พลังวิเศษเนรมิตทุกอย่างได้ตามใจชอบ ส่วนวิชั่นเป็นแค่คนธรรมดา พลังของวันด้าทำให้พวกเขาทั้ง 2 ปลอมตัวเป็นคนธรรมดาแบบแนบเนียนใช้ชีวิตไปวันๆอย่างที่ใจต้องการ และมีเพื่อนบ้านที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันที่ชอบมาสอดส่องวุ่นวายเรื่องวุ่นๆของวันด้า แต่แล้วมีบางสิ่งบางอย่างเข้ามาคุกคามชีวิตของวันด้าและทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เธอชักเริ่มปกปิดพลังพิเศษของเธอไม่ได้ซะแล้ว แถมยังมีหน่วยงามบางกลุ่มเข้ามาวุ่นวายชีวิตความเป็นอยู่ของเธออีก พวกเขาต้องการอะไรกันแน่ งานเปิดเฟส 4 มาร์เวลที่สนุกสนานอารมณ์ไม่ต่างจากซิทคอมเลย

ซีรีส์แหวกแนวของมาร์เวลที่สร้างสรรค์ในสไตล์ซิทคอมผสมผสานกับจินตนาการแบบเพ้อฝันของ วันด้า เนื้อหาได้ประนีประนอมกับคนที่ไม่เคยดูหนังในจักรวาล MCU เนื้อหาช่วงแรกดูไม่สมเหตุสมผล แต่จากนั้นพล็อตเรื่องแต่ละตอนซุกซ่อนปริศนาไว้คลี่คลายในช่วงท้าย จากซิทคอมธรรมดาค่อยๆกลายเป็นหนังแอ็คชั่นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีส่วนผสมของมาร์เวลและซีรีส์ลึกลับสไตล์อเมริกัน เป็นซีรีส์ที่จี๊ดจ้านสะใจมากเพราะได้ไปสัมผัสกับตัวละครวันด้าแบบจริงจังซึ่งในเวอร์ชั่นหนังทำไม่ได้เพราะเป็นตัวละครรองนั้นเอง

2.Squid Game

กีฮุน ชายหนุ่มวัยกลางคนผู้ไม่เอาไหน อาศัยอยู่กับแม่ที่อยู่ในวัยชรา จนลูกเมียขอแยกทางไปมีชีวิตใหม่กับผู้ชายที่มีฐานะที่ดีกว่า เขาติดเหล้าติดพนันชอบความเสี่ยงทุกรูปแบบแต่สุดท้ายหมดตัวไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเป็นหนี้นอกระบบจนเกือบจะต้องขายไตใช้หนี้ อยู่ดี ๆ เขาก็ได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมเล่นเกมเอาชีวิตรอดแข่งขันกับผู้เล่นคนอื่นๆอีก 456 คน ที่มีชีวิตยากลำบากติดหนี้ ชีวิตเผชิญกับปัญหา ที่ตัดสินใจเข้าร่วมเกมเอาชีวิตรอดเพื่อคว้าเงินรางวัลมากกว่า 45,600 ล้านวอน เพื่อที่ว่าเงินจำนวนมหาศาลจะช่วยพลิกให้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง แต่เกมนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเพราะเกมนี้คนเล่นต้องดิ้นรนเอาตัวรอดมันคือความเสี่ยงเพราะถ้าพลาดคนตายสถานเดียว

ซีรีส์ที่ร้อนแรงที่สุดในปี 2021 ผ่านการสร้างสรรค์ Hwang Dong-hyuk ผู้กำกับหนังคู่บุญของ Gong Yoo ที่ใช้เวลาคัดกรองเนื้อหาซีรีส์เรื่องนี้มานานกว่า 12 ปี จากเกมเอาชีวิตรอดมาดัดแปลงกับการละเล่นพื้นฐาน ภาพที่ออกมาเหมือนจะเป็นนักโหดเหมือนนักคนฆ่ากัน แต่จริงๆแล้วภาพของซีรีส์คือการจำลองเรื่องราวชีวิตคนที่หมดสิทธิ์ทุกอย่างไม่เหลืออะไรแล้วพวกเขาพร้อมเดิมพันธ์เพื่อไล่ล่าเงินรางวัล เปลี่ยนจากความกลัวต่อสภาพสังคมที่โหดร้าย มาต่อสู้ในเกมที่ต้องเอาชีวิตรอดแม้ว่ามันจะป่าเถื่อนก็ตาม เนื้อหาสะท้อนความเลวร้ายของคนด้วยกันเอง เห็นแก่ตัวเอาตัวรอด แม้ว่าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก่อนหน้าก็ตาม แต่พอถึงเวลาจนมุมก็ทำร้ายฆ่ากัน สถานการณ์ในซีรีส์บีบอารมณ์คนดูมากๆ 

3.Sex Education 3

การเติบโตในขวบปีที่ 3 ของนักเรียนโรงเรียนโรงเรียนมัวร์เดล กลุ่มนักเรียนที่อยากเรียนรู้ทดลองเรื่องความรักเรื่องเพศสัมพันธ์ การค้นหาคุณค่าของตัวเอง โอทิส มิลเบิร์น เด็กหนุ่มไฮสคูล ไปคบกับสาวฮอตที่สุดในโรงเรียนอย่าง รูบี้ เรื่องราวกำลังดำเนินไปด้วยดีแต่แล้วก็มีครูใหญ่คนใหม่ก้าวเข้ามา โฮป เธอต้องกาเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของโรงเรียนสอนเซ็กซ์ให้กลับมาเป็นโรงเรียนดีเด่นอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่านโยบายของเธอจะส่งผลให้บรรยากาศของนักเรียนที่เคยเต็มไปด้วยสีสันค่อยๆ หมองหม่นลง

ซีรีส์อังกฤษที่ครองใจผู้ชมไปทั่วทั้งโลก กล้าหยิบยกเรื่องเพศศึกษามาเล่าผ่านมุมมองตัวละครกลุ่มเด็กมัธยมวัยกำลังห้าวอยากรู้อยากลอง ด็นความรักเรื่องเพศสัมพันธ์วัยรุ่นได้ชัดเจนมีความเป็นกลางเข้าใจโลกมากขึ้น พัฒนาการในแต่ละซีซั่นจึงดีขึ้นเรื่อยๆ จึงๆแล้วเนื้อหาไม่ได้มีแค่เรื่องเซ็กซ์อย่างเดียว แต่ยังมอบมุมมองความรักเพศสัมพันธ์ที่ถูกที่ควรว่าเป็นอย่างไร ตรงนี้แหละที่ทำให้ทะลายกำแพงความอคติของผู้ใหญ่ที่มีแต่เรื่องนี้กับเด็กวัยเรียน แถมยังสอดแทรกแง่มุมอื่นๆที่ดูแล้วสนุกตลก คอที่ชอบความตลก หนังแนววัยรุ่นไม่ควรพลาด

4.Loki

โลกิ เทพจอมเจ้าเล่ห์ หลุดรอดออกมาจากเหตุการณ์ Avengers หลังจากแอบหยิบเทสเซอแรคท์มา และหลุดไปยังอีกมิติ 1 แต่ถูกจับไปยังองค์การกำกับสาขาเวลา หน่วยงานคร่ำครึสุดสิ้นหวังที่กำลังจะพิพากษาเขา แต่มีข้อแลกเปลี่ยนเพื่อให้ Loki ทำงานให้กับองค์กรนี้ว่าแต่คิดถูกหรือเปล่าที่ไปไว้ใจเทพจอมเจ้าเล่ห์คนนี้ แถมยังต้องรับมือกับศัตรูคนใหม่ที่ร้ายกาจแสบกว่าเขาหลายเท่า

ซีรีส์ที่แฟน MCU มากมายรอคอยในเฟส 4 มาร์เวล ที่เปิดตัวออกมาทำให้ผู้คนมากมายติดกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง จากตัวละครเจ้าเล่ห์จอมปลิ้นปล่อนหลอกหลวงโกหกเชื่อใจอะไรไม่ได้มารอบนี้ได้เห็นถึงคาแรกเตอร์มุมมองใหม่ๆของเขาคนนี้เขาก็เป็นคนมีความรู้สึกนึกคิดโรแมนติกเหมือนกันโดยเฉพาะเรื่องความรัก ได้เห็นเส้นเรื่องใหม่ๆผ่านตัวละครนี้ที่ทำได้อินสนุกสนานตามไปในทุกๆตอน

5.Mouse

แดเนียล อี ศาสตราจารย์ผู้มีชื่อเสียงระดับรางวัลโนเบลเดินทางจากอังกฤษมาเพื่อให้คำปรึกษาเรื่องการกำจัดเด็กที่มีรหัสพันธุกรรมที่เลวร้าย มุ่งหมายจะจำกัดอาชญากรประเภทไซโคพาธให้ไม่มีได้เติบโตขึ้นมาก่อกรรม แต่ความซวยคือกฎหมายนี้ได้ถูกตีตกไปเสียก่อน ก่อนที่ประเทศนี้ต้องผจญกับเหตุกรรมต่อเนื่องไม่รู้หยุดหย่อน จองบารึม ตำรวจหน้าใหม่ผู้มีจิตใจอ่อนโยน ต้องมารับทำคดีที่หนักหนาสาหัสในชีวิต จากเดิมที่ทำหน้าที่แค่ดูแลสารทุกข์สุขดิบของคนในชุมชนกลับต้องมาเผชิญหน้ากับฆาตกรโรคจิต​ จนทำให้ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ซีรีส์เกาหลีที่คะแนนรีวิวคำวิจารณ์ติดระดับท็อปเท็นก็ว่าได้ พล็อตเรื่องคดีฆาตกรรมหาตัวคนร้ายแต่ที่ยอดเยี่ยมคือเนื้อหาสับขาหลอกผู้ชมเชื่อใจไว้ใจอะไรไม่ได้เลย ความสนุกของงานชุดนี้คือความลุ้นระทึกที่มาพร้อมกับความหลอน การสืบสวนสอบสวน​เข้มข้น ลุ้นระทึก​ทุกตอน​ ปั่นประสาททุกตอน​กับการตามหาฆาตกร​โรคจิตว่าเป็นใครกันแน่ 

6.Maid

ซีรีส์ที่ได้แรงบันดาลใจจากบันทึกความทรงจำติดอันดับหนังสือขายดีของ New York Times ในชื่อ Maid : Hard Work, Low Pay, and a Mother’s Will to Survive จากปลายปากกาของ สเตฟานี แลนด์ (Stephanie Land) ถ่ายทอดเรื่องราวของ ‘อเล็กซ์ แลมป์ลีย์’ แม่เลี้ยงเดี่ยวที่หันมาทำงานรับจ้างทำความสะอาดซึ่งแทบจะได้เงินไม่พอยาไส้ แต่การหางานทำแถมเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เงินติดตัวก็น้อยอีก เธอไม่หวังพึ่งใครและหวังว่ารัฐจะช่วยเหลือ แต่หลักฐานที่ยุ่งยาก ทำให้เธอตัดสินใจสมัครแม่บ้าน ที่ Value Maids รับจ้างทำความสะอาดบ้าน ซึ่งเป็นงานที่หนัก และค่าแรงก็ต่ำ แถมยังต้องฝากลูกไว้กับเดย์แคร์ซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายอีก แล้วสามีก็ยังมาฟ้องร้องสิทธิเลี้ยงดูลูกจากเธออีก ชีวิตสุดแสนจะรันทดที่ปัญหาทุกอย่างดาหน้ามาพร้อมกัน

เนื้อเรื่องเล่าถึงสังคมอเมริกันที่ไม่ได้สวยงามเลิศหรู สภาพสังคมแบบอเมริกันชนก็มีปัญหาไม่แพ้ชาติไหนในโลก สภาพสังคมแบบอเมริกันชนก็ปล่อยปะละเลยทำให้พื้นเพทางครอบครัวมีปัญหา ไม่ใช่ว่าจะมีชีวิตที่สุขสบาย การเล่าเรื่องซีรีส์ชุดนี้เล่าให้เห็นความจริงตีแผ่แบบง่ายๆไหลลื่น นางเอกอย่างอเล็กซ์ไม่ได้แค่ลุกขึ้นสู้เพื่อตัวเองเพื่อให้มีชีวิตรอด แต่สู้เพื่อลูกสาวตัวน้อยวัย 3 ขวบ เธอเลือกจะออกมาเชิญหน้าแม้ว่าจะยากลำบาก 

7.Mare of Easttown

แมร์ หรือ แมรีแอนน์ ชีแฮน คุณแม่ลูกหนึ่งผู้ที่มีอาชีพเป็นตำรวจสืบสวนตำรวจหญิงผู้ผ่านบาดแผลแห่งชีวิตมาอย่างโชกโชนเองก็เป็นเหมือนศูนย์กลางของชุมชนอีสต์ทาวน์ ชุมชนเล็กๆที่ทุกซอกทุกมุมเธอรู้จักดี และวันหนึ่งเมื่อเอริน เด็กสาวคุณแม่ลูกอ่อนที่อนาคตอีกยาวไกลเกิดตายลงอย่างเป็นปริศนาท่ามกลางอาการที่หนาวเย็น ทั้งคดีเด็กสาวที่หายสาปสูญไปก่อนหน้านี้ก็ยังเป็นสิ่งที่คาใจชาวชุมชน แมร์จึงต้องคลี่คลายคดีให้ทันก่อนจะมีเหยื่อรายต่อไป เพราะเธอเองก็เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ของเหยื่อพร้อม ๆ กับการรักษาความสัมพันธ์ของคนในชุมชนและแก้ปัญหาชีวิตส่วนตัวมากมายที่เปลี่ยนเธอเองไปไม่ต่างจากคนไร้หัวใจ

ผลงานเรื่องใหม่จากนางเอกดาวค้างฟ้าอย่าง Kate Winslet จาก Titanic ที่มารอบนี้ได้ประลองฝีมือทางการแสดงเป็นนักสืบหญิงแกร่งที่เผชิญหน้ากับปัญหาเรื่องงานและการทำคดีที่สุดท้าทาย ซีรีส์พาคนดูไปสำรวจความรู้สึกตื้นลึกหนาบางของ แมร์ ไม่ว่าจะเป็นอุปนิสัยใจคอ ด้านมืด ด้านสว่าง ไปจนถึงพื้นที่รกร้างว่างเปล่าซึ่งถูกเก็บซ่อนไว้ในส่วนที่เรียกว่าก้นบึ้ง และทีละน้อย เธอเองก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงที่แข็งริงจังเรื่องงาน ทว่ากลับมีทั้งเลือดเนื้อ ชีวิต และจิตวิญญาณของตัวเอง และที่สำคัญคือการแสดงบทตำรวจนี่แหละที่พลิกมุมมองได้เห็นทักษะความสามารถชั้นยอดของ Kate

8.The Beatles: Get Back

สารคดีความยาว 8 ชั่วโมง ของ 4 สมาชิก 4 เต๋าทองแห่งเมืองลิเวอร์พูล จอห์น เลนนอน, จอร์จ แฮร์ริสัน, พอล แม็กคาร์ตนีย์ และ ริงโก สตาร์ ผู้มีทักษะทางดนตรีที่ยอดเยี่ยม กับการโฟกัสทำเพลงอัดอัลบั้ม Let It Be ที่กลายมาเป็นหนึ่งในผลงานสุดคลาสสิกที่ดีงามที่สุดชิ้นหนึ่งของพวกเขา เนื้อหาค่อยๆโฟกัสไปทีละจุดในการขึ้นคอร์ดทำเพลงในแต่ละแทร็คที่คิดงานกับแบบสดๆ แต่ในขณะเดียวกันบรรยากาศการทำเพลงชุดนี้ก็ส่งสัญญาณแล้วว่ามุมมองทัศนคติของพวกเขาเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ร่องรอยบ่งบอกชัดเจน แฟนๆคนเต็มอิ่มจุใจเพราะนอกจากการทำเพลง ออกรายการทีวี ซีรีส์อัดแน่นด้วยภาพฟุตเทจที่หาดูยาก และยังมีภาพจากคอนเสิร์ตสุดท้ายของพวกเขาในฐานะวง The Beatles ที่ดาดฟ้า Savile Row ในตำนาน ดูกันไปเลยเต็มอิ่ม

หากเป็นแฟนเพลง The Beatles บอกเลยว่าไม่ควรพลาดเรื่องนี้เด็ดขาด ผู้กำกับ Peter Jackson ทุ่มเทกับงานชิ้นนี้มาก ถึงขนาดว่าไปเฟ้นหาภาพฟุตเทจที่หาดูยากมาจนได้แล้วมาขยายสีเล่าเรื่องให้ภาพทันสมัย งานภาพยุค 60 ปรับแต่งแล้วดูเป็นธรรมชาติ เพลงที่ Classic ผสมผสานกับไอเดียแนวคิดของ 4 สมาชิกที่ระดับเทพยิ่งดูยิ่งมีความสุขเพราะมันหล่อเลี้ยงอารมณ์คนดูที่เป็นแฟนเพลงมากๆ

9.Only Murders in the Building

ซีรีส์อาชญากรรมดราม่าคอเมดี้สุดลึกลับ เรื่องราวของเพื่อนบ้านในอพาร์ทเมนท์สุดหรูท่ามกลางเมืองนิวยอร์ก เป็นการรวมตัวกันของ 3 เพื่อนบ้านคน ชาร์ลส์, โอลิเวอร์ และเมเบิลที่มารวมตัวกันสืบหาเบาะแสการตายสุดปริศนาของคนในอพาร์ทเมนต์ โดยทางตำรวจสันนิษฐานว่าเกิดจากการฆ่าตัวตาย ด้วยความที่ชอบเรื่องอาชญากรรมเหมือนกันพวกเขาสนิทกันอย่างรวดเร็ว แต่ไม่นานในอพาร์ทเมนท์ของพวกเขากลับมีคนตาย พวกเขาจึงออกตามสืบคดี จนไปเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น

ภาพปกดูเหมือนจะไม่น่าสนุกสนาน แต่คะแนนรีวิวคำวิจารณ์เทใจกันมากมายว่านี่คือของดีจาก Disney+ ที่ไม่ควรมองข้าม พล็อตเรื่องไม่มีอะไรมาก คาแรกเตอร์ตัวละครไม่น่ามาเป็นพวกอยากรู้อยากเห็นไขคดีก่อนจะเล่าเรื่องได้สนุกสนานบันเทิง จุดเด่นคือเนื้อหาไม่เยอะมาในสไตล์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนหนังสืบสวนสอบสวนเรื่องก่อนๆ ตัวละครหลัก 3 คนมีเสน่ห์คนละแบบทำให้เมื่อมารวมตัวกันจะมี Attitude ที่ไม่เหมือนกันและมันเป็นเสน่ห์ทำให้ซีรีส์ชุดนี้ 10 ตอนเล่าเรื่องเหมือนสไตล์พอดแคสต์ไม่ซ้ำซากจำเจ 

10.Move to Heaven


ฮันกือรู หนุ่มน้อยอายุ 20 ปี ที่มีอาการ แอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม’ซึ่งเป็นอาการของผู้ที่มีความบกพร่องทางการแสดงออกและเข้าใจความรู้สึก อยู่ในกลุ่มสเปกตรัมเดียวกันกับออทิสติก และทำงานเป็นพนักงานเก็บกวาดบริษัทของพ่อเขา Move to Heaven บริษัทนี้รับจ้างเก็บกวาดสถานที่ของผู้เสียชีวิต บริษัทอื่น ๆ ที่ทำงานในลักษณะเดียวกัน อาจแค่เก็บ ทำความสะอาด และทิ้งข้าวของเหล่านั้นไป แต่พวกเขาแตกต่างออกไป พวกเขาไม่เพียงทำความสะอาดสถานที่ แต่พวกเขายังเก็บความทรงจำที่ผู้เสียชีวิตทิ้งเอาไว้ใส่ในกล่องแห่งความทรงจำ เพื่อส่งต่อไปให้ญาติของคนเหล่านั้น แต่แล้วพ่อของ ฮันกือรู ก็มาเสียชีวิตไป ทำให้เขาเหลือตัวคนเดียว ทำให้โจซังกู อาของเขาที่เพิ่งพ้นโทษจำคุกกลายมาเป็นผู้ปกครอง และเป็นจุดเริ่มต้นให้ทั้งคู่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน

ซีรีส์ที่ดูแล้วสุขและทุกข์ไปในเวลาเดียวกัน สมบัติของคนที่ตายไปแล้วเป็นสิ่งของที่ไม่มีใครนึกถึงอยู่เสมอ บางคนปล่อยไปอย่างนั้นทิ้งเอาไว้เหมือนของที่ไร้ค่า ไม่มีใครต้องการ เรื่องราวซีรีส์ชุดนี้มีจุด 1 ที่เหมือนกันคือตัวละครหลักพ่อเสียชีวิตไปแล้วชีวิตเขาก็เคว้งขว้างไม่ต่างจากงานที่ทำอยู่ต้องเก็บของที่ถูกทิ้งเอาไว้ไปให้ญาติของผู้ตาย แต่การทำงานของพระเอกกลับมีคุณค่าในตัวเองมาก ตลอด 10 ตอนซีรีส์ชุดนี้แฝงไปด้วยพลังงานบวกมากมาย บางครั้งการเล่าเรื่องที่ดีไม่จำเป็นต้องมาใช้ความดราม่าเสมอไปและ Move to heaven ก็ทำให้เห็นแล้ว