LearnFromEternals_00

7 ข้อคิดที่เรียนรู้ได้จาก ฮีโร่พลังเทพเจ้า Eternals

Eternal (2021) นับเป็นอีกหนังที่กระแสค่อนข้างแตกมากของค่าย Marvel ด้วยความกล้าที่จะเปลี่ยนรูปแบบหนังฮีโร่ที่ไม่เน้นแอคชั่นหรือการต่อสู้เพื่อเอาชนะ แต่แทรกไปด้วยเนื้อหาที่สะท้อนความเป็นมนุษย์ได้อย่างเข้มข้น จนถูกใจหลายๆ คนที่มองหาความแปลกใหม่ในหนังชุดนี้ ซึ่งด้วยการกำกับของ Chloe Zhao ที่เป็นผู้กำกับรางวัลออสการ์มาแล้ว ยิ่งเสริมส่วนต่างๆ ของหนังให้ออกมาดีมากๆ เลย

ซึ่งด้วยความที่หนังมีดราม่าแบบจัดหนักและใส่ประเด็นต่างๆ เข้ามามากมาย ทำให้หลังดูจบเราก็เชื่อว่าคนดูน่าจะได้แง่คิดอะไรกลับไปไม่มากก็น้อยจากแนวคิดของตัวละครแต่ละตัวที่น่าสนใจ เลยอยากลองมาแชร์กันดูว่า เราได้อะไรจากเหล่า Eternals กันบ้าง กับ 7 ข้อคิดที่เรียนรู้ได้จาก ฮีโร่พลังเทพเจ้า Eternals!

**** บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนัง Eternals (2021) ****

ถ้าไม่มีความผิดพลาด ก็คงไม่ใช่มนุษย์

ตัวละครที่น่าจะเรียนรู้ประโยคนี้ได้ดีที่สุดคงหนีไม่พ้น Druig ชายผู้มีพลังควบคุมจิตใจ และบังคับคนให้สามารถทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ ในช่วงแรกๆ นั้นเหล่า Eternals ได้ผ่านสงครามมาหลายยุคหลายสมัย ได้เห็นผู้คนเข่นฆ่ากันล้มตาย และแสดงความเห็นกว่าตัวไม่หยุดหย่อน จนทำให้ Druig จึงมีความคิดที่อยากจะควบคุมทั้งหมด และเข้าไปแทรกแซงสงครามของมนุษย์เพื่อหยุดการฆ่าฟัน ก่อนที่จะแยกตัวออกไปเพียงลำพัง

เหล่า Eternals ได้มาพบเจอเขาอีกครั้งในยุคปัจจุบัน และเห็นเขาได้อาศัยอยู๋ในป่าอเมซอนพร้อมกับมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่ปลีกตัวจากสังคมมาอยู่กันอย่างสงบ เขาเคยบอกกับ Sersi ว่า เขามีความคิดที่จะควบคุมมนุษย์ทุกคนเพื่อที่จะหยุดความขัดแย้งทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นในโลกใบนี้ แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อเขาได้ใช้ชีวิตร่วมกันมนุษย์มา ก็ทำให้เขาได้เห็นหลายด้านของมนุษย์มากขึ้น และเชื่อว่าความผิดพลาดมันก็เป็นส่วนนึงของมนุษย์ที่เลี่ยงไม่ได้ แต่ความผิดพลาดก็ทำให้มนุษย์นั้นได้เติบโต ได้เรียนรู้ และได้พัฒนาตัวเองต่อไป ดังนั้นอย่ากลัวในความผิดพลาด แต่จงเรียนรู้จากมันให้ได้มากที่สุด

หากเรารักใคร ก็จงปกป้องเขา

เมื่อ Thena นั้นมีอาการแปลกๆ เนื่องจากความทรงจำเดิมยังถูกล้างไปไม่ครบ ทำให้เธอมักเกิดอาการคุ้มคลั่งอยู่บ่อยครั้ง จนควบคุมตัวเองไม่ได้และทำร้ายคนรอบตัว ทำให้ Ajak จึงตัดสินใจที่จะลบความทรงจำของเธอทิ้งเพื่อรีเซ็ตใหม่อีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของเจ้าตัว และสมาชิกของทีม เพราะนั่นหมายถึงจะทำให้เธอต้องเสียตัวตนไปตลอดกาล ซึ่ง Gilgamesh จึงขออาสาพาเธอออกไปอยู่กันในพื้นที่ห่างไกล และคอยดูแลเธอเอง

Gilgamesh ได้ทำตามคำสัญญานั้นมาตลอดจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตเขา ที่ยังคงปกป้อง Thena อยู่เรื่อยมาจนทำให้ Thena สามารถจดจำตัวตนและคุมสติได้ดีขึ้น ในช่วงหนึ่งที่ Sersi กำลังสับสนกับคำสั่งที่ได้รับจาก Celestial นั้น Thena เองก็ได้เอาคำกล่าวของ Gilgamesh ที่เคยบอกเธอ มาบอกกับ Sersi ว่า “หากเรารักใคร ก็จงปกป้องเขา นั่นแหละเป็นสัจธรรมที่สุดแล้ว” ซึ่งด้วยความที่ Sersi นั้นก็หลงรักมนุษย์มาโดยตลอด จึงตัดสินใจได้เด็ดขาดแล้วว่า จะยอมแลกทุกสิ่งเพื่อปกป้องพวกเขา เหมือนกับที่ Gilgamesh คอยปกป้อง Thena มาโดยตลอดมา

ความแตกต่างคือส่วนหนึ่งของโลกใบนี้

Phastos คือตัวละครที่ทีมที่มีความชำนาญในด้านการสร้างนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ให้กับมวลมนุษย์ เพื่อให้มนุษยชาตินั้นสามารถพัฒนาตัวเอง และก้าวหน้าได้อย่างเต็มที่ แต่หลายครั้งที่ผลผลิตของเขาที่หวังจะให้มนุษย์สะดวกสบายก็กลับกลายเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการฆ่าฟัน และยิ่งแย่งชิงอำนาจกันมาเกือบทุกยุคที่สมัย และครั้งที่เลวร้ายที่สุดจนทำให้เขาไม่อยากจะช่วยเหลืออะไรมนุษย์อีกแล้วก็คือระเบิดนิวเคลียร์ที่ถล่มฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2

ในตอนนั้น Phastos ได้บอกว่าเขาเข้าใจความรู้สึกของ Druig แล้ว ว่ามนุษย์นั้นควรถูกควบคุม ก่อนที่ไปใช้ชีวิตของตัวเอง ตัดภาพมาที่ปัจจุบันที่เกิดปัญหา จนทีม Eternals นั้นออกมาตามหาสมาชิกเพื่อไปทำภารกิจ ก็ได้พบว่า Phastos นั้นได้มีครอบครัวและลงหลักปักฐานในชีวิตไปซะแล้ว เมื่อทุกคนถามถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ เขาก็ได้แต่บอกว่าในช่วงที่ผ่านมา เขาได้เห็นความแตกต่างของมนุษย์ในหลายรูปแบบ เมื่อมีคนเลวก็มีคนดี และทั่วโลกก็มีคนที่ความแตกต่างทางเพศ สัญชาติ และวัฒนธรรม ซึ่งความแตกต่างนี้ทำให้เขาได้เห็นความหลากหลายในตัวของมนุษย์ และยอมรับในสิ่งนั้นจนมีความหวังในตัวมนุษย์อีกครั้ง

ทุกคนย่อมมีเส้นทางชีวิต เป็นของตัวเอง

แน่นอนว่าเป้าหมายแรกเริ่มของเหล่า Eternals ทุกคนนั้น คือการลงมาเพื่อฆ่าเหล่า Deviants และปกป้องมนุษย์จากพวกมัน เมื่อเวลาผ่านไปหลายพันปีแล้ว พวกเขาทำหน้าที่นี้ได้อย่างดีจน Deviants ต่างถูกทำลายไปจนหมดสิ้น พอถึงเวลานั้นพวกเขาต่างไร้จุดมุ่งหมายในชีวิตจากภารกิจที่เสร็จสิ้นหมดแล้ว Ajak จึงตัดสินใจให้สมาชิกแต่ละคนนั้นแยกย้ายไปใช้ชีวิตตามแบบของตัวเอง

เพราะทุกคนมีความต้องการที่ต่างกัน จึงได้กระจายตัวแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง อย่าง Sersi หลังจากแยกกับ Ikaris เธอก็ไปเรียนรู้ที่จะอยู่กับมนุษย์มากขึ้น โดยมี Sprite ตามมาเป็นเพื่อนแก้เหงาในภายหลัง ส่วน Phastos นั้นหลังจากที่เจ็บปวดกับการที่เห็นมนุษย์ใช้อาวุธที่ตัวเองมีส่วนสร้างมาฆ่ากัน ก็ไปสร้างครอบครัวที่อบอุ่นขึ้นมา และได้เห็นข้อดีของมนุษย์มากขึ้น ส่วน Druig ก็ปลีกวีเวกไปอาศัยอยู่กับมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่เขาสามารถควบคุมได้ ส่วนคนอื่นๆ ต่างก็มีเส้นทางของตัวเอง การกลับมาของแต่ละคน แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไปจากตอนต้น ด้วยการที่ได้สัมผัสชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ ได้รู้จักกับมนุษย์มากยิ่งขึ้น จากเส้นทางที่ตัวเองได้เลือกไว้

ยอมรับและแก้ไขสิ่งที่เราเคยทำพลาด

เมื่อ Ajak ได้รับรู้ความจริงถึงภารกิจของตนแล้ว สิ่งที่เธอทำนั้นคือการไปลองใช้ชีวิตอยู่กับมนุษย์และเรียนรู้ถึงความเป็นอยู่ ความนึกคิดในแบบของมนุษย์ดู ก่อนที่เธอจะพบว่าแท้จริงแล้ว มนุษย์นั้นมีคุณค่าพอที่จะได้อยู่ต่อ และโลกไม่ควรโดนทำลายจากการเกิดของ Celestial เมื่อเธอรับรู้ได้ถึงความผิดพลาดที่ทำลงไป เธอก็วางแผนที่จะแก้ไขมันแต่กลับโดนเอาชีวิตไปเสียก่อน แต่เธอก็ได้สานต่อเจตนารมณ์นี้เอาไว้กับ Sersi แล้ว

เมื่อ Sersi ได้รับรู้ความจริงนั้น เธอไม่จำเป็นต้องไปลองใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์เพื่อพิสูจน์อีกต่อไป เพราะที่ผ่านมาเธอได้ตกหลุมรักในเผ่าพันธุ์ที่เรียกว่ามนุษย์ตั้งแต่แรกพบแล้ว ทำให้ตอนที่เธอเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่าง เธอจึงเลือกวางแผนที่จะแก้ไขมันในทันที โดยที่ไม่ต้องสนใจว่าอดีตนั้นเป็นเช่นไร ไม่ต่างอะไรจากเรื่องรักๆ ในชีวิตของเธอที่แม้ว่าจะคบกับ Ikaris มากกว่า 5,000 ปี แต่เมื่อถึงเวลาแยกย้ายเธอก็เลือกที่จะ Move On และมองข้ามปัญหาที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้า

อย่าเชื่อทุกสิ่ง โดยที่ยังไม่ได้ตั้งคำถาม

Ikaris นับเป็นอีกตัวละครที่มีความซับซ้อนและน่าสนใจ ตลอดชีวิตของเขาตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาขึ้นมานั้น ก็ยึดมั่นกับภารกิจที่ได้รับมาโดยตลอดโดยที่ไม่ต้องตั้งคำถามหรือมีข้อกังขาใดๆ เขารู้แค่ว่าชีวิตนี้เขาเกิดมาเพื่อปราบ Deviants และปกป้องมนุษย์จากพวกมัน ซึ่งเมื่อ Deviants ได้หมดไปแล้ว เขาก็ได้รับรู้ความจริงที่โหดร้ายจาก Ajak ซึ่งเป็นผู้นำทีมในตอนนั้นว่าจริงๆ แล้วหน้าที่ของพวกนั้นไม่ได้มีอยู่เพื่อปกป้องมนุษย์ แต่กลับเป็นการช่วยพัฒนาการมนุษย์และสิ่งมีชีวิตบนโลกให้มีมากให้เพียงพอต่อการเกิดของ Celestial ตัวใหม่ 

เขาได้รับรู้ความจริงก่อนสมาชิกคนอื่นๆ จึงปลีกตัวออกไป และหลีกเลี่ยงที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เพราะกลัวว่าจะมีผลต่อความรู้สึกและทำให้ภารกิจที่ได้รับมาไม่สำเร็จ แทนที่เขาจะออกไปใช้ชีวิต หรือค้นหาว่าคำสั่งที่ได้รับมันถูกต้อง และมีความชอบธรรมพอหรือไม่แบบที่ Ajak นั้นทำ เขายังกลับยึดมั่นในสิ่งเหล่านั้นถึงขนาดฆ่าครอบครัวที่ แม้ว่าจะไม่เคยได้พบกับ Celestial ที่เป็นผูู้ออกคำสั่งนี้เลยก็ตาม จนสุดท้ายเขาก็ได้ถลำเข้าสู่ด้านมืดจากความเชื่ออันแรงกล้าว่าต้องทำสิ่งนี้ให้สำเร็จ และเมื่อมันล้มเหลวจึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะทำใจในสิ่งขัดต่อความเชื่อตัวเองมาโดยตลอด 

คิดต่างกันได้ แต่อย่าทำร้ายครอบครัว

Kingo คือฮีโร่ที่ไปเป็นดาราบอลลีวู้ดผ่านมาหลายยุคหลายสมัย เมื่อบรรดาทีม Eternals มาขอความช่วยเหลือจากเขา แม้จะยึกยักอยู่บ้างในช่วงแรกแต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเข้ามาช่วยทีม เพราะคำว่า “ครอบครัว” แม้ว่าจะผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมานาน แต่เมื่อ Kingo ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับภารกิจตัวเองว่าเป็นการทำลายล้างโลกแทนที่จะช่วยโลก เขากลับยึดติดกับความเชื่อเดิมไม่ต่างอะไรจาก Ikaris เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่ถูกลิขิตมาแล้ว

จนเมื่อ Eternals ต้องแตกออกเป็นสองฝ่าย ทั้งฝั่ง Ikaris และ Sprite ที่หวังจะสานต่อภารกิจจาก Celestials ให้สำเร็จ กับกลุ่มที่นำทีมโดย Sersi ที่หวังจะช่วยโลกใบนี้เพราะเห็นในความดีงามของมนุษย์อยู่ สิ่งที่ Kingo ตัดสินใจนั้น กลับเป็นการขอไม่เลือกอยู่ฝ่ายใด เพราะลึกๆ แล้วเขานั้นก็ยังมีความเชื่อที่จะต้องทำตามคำสั่งของ Celestial ที่ยอมให้โลกถูกทำลายเพื่อการถือกำเนิดของ Celestial ใหม่ให้จักรวาลสมดุล แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่สามารถทำร้ายครอบครัวตัวเองได้ลง แม้ว่าเขานั้นจะให้ความรู้สึกเหมือน Ignorant ที่สนใจแต่ตัวเอง แล้วรอดูทุกอย่างจบลงค่อยร่วมกับฝั่งที่ชนะ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ต่างอะไรจากครอบครัวในทุกวันนี้ ที่อาจจะมีแนวคิด หรือทัศนคติในบางเรื่องที่ต่างกัน เราอาจพูดคุยถกเถียงกันได้ แต่สุดท้ายต้องอย่าลืมนึกถึงความเป็นครอบครัว และอย่าทำร้ายความรู้สึกหรือร่างกายกัน