จากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ 7 ปีผ่านไป หลังบอกลาชีวิตในอังกฤษมาผจญภัยอยู่ที่นิวยอร์ก อเมริกา Anya กลายเป็นนักแสดงสาวรุ่นใหม่ที่ได้รับการจับตามองทั้วทุกสารทิศ เพราะผลงานของเธอกลายเป็นที่ยอมรับในวงกว้างไม่ว่าจะเป็น Split, Thoroughbreds, Emma, Last Night in Soho, The Queen’s Gambit โดยเฉพาะเรื่องหลังนี่เองที่พาเธอขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์แบรนด์สินค้าชื่อดังมากมาย แถมพัฒนาการด้านการแสดงก็มีแต่ดีขึ้นเรื่อยๆ โปรดิวเซอร์หนังมากมายต่างส่งบทดีๆมาให้เธอพิจารณาอยู่เรื่อย พวกเราขาวโกดังหนังเลยขอนำเสนอ ผลงานสุดปังของน้อง Anya Taylor-Joy มาให้แฟนๆได้ติดตามและรับชมย้อนหลังกันอีกครั้ง ส่วนจะมีหนังเรื่องไหนบ้างนั้นเลื่อนเมาท์ไปอ่านด้านล่างได้เลย

1.The Witch

ครอบครัว 6 คนผู้อพยพชาวอังกฤษ มาทำฟาร์มอยู่ New England ในค.ศ. 1630 นำโดยหัวหน้าครอบครัว วิลเลียม ผู้เป็นหัวหน้าครอบรัวสุดเคร่งขรึมในแบบปิตาธิปไตย1 ซึ่งเป็นกลุ่ม พิวริตัน2 หรือกลุ่มเคร่งศาสนาคริสต์ที่ถูกขับไล่ออกจากชุมชนของพวกพ้องเดียวกัน ด้วยความไม่ลงรอยในทางศาสนา หรืออาจกล่าวได้ว่าครอบครัวแห่งนี้มีความเคร่งครัดในศาสนาคริสต์ในแบบสุดทางจนไม่เหลือพื้นที่ให้กับหน่วยแห่งสังคมใด ทุกคนอยู่กันอย่างลำบากแร้นแค้น และทุกอย่างยิ่งแย่ลง เมื่อหน้าแล้งกำลังมา และจู่ ๆ วันหนึ่ง Samuel ลูกชายคนเล็กวัยแบเบาะก็อันตรธานหายไป โดยเชื่อว่าครอบครัวของตัวเองกำลังถูกต้องคำสาปของแม่มดร้าย

ผลงานการแสดงเรื่องแรกของ Anya Taylor Joy ในวัย 18 ปีในเวลานั้น รับบทเป็น Thomasin เล่นเรื่องแรกก็แจ้งเกิดทันที การแสดงของเขาทำให้ผู้ชมเชื่ออย่างสนิทใจถึงความหลอนความกลัวเรื่องราวลี้ลับ ภาพและโปรดักชั่นดีไซน์ รวมไปถึงการใช้ภาษา อย่างกับหลุดเข้าไปอยู่ในยุค 1630s จริงๆ กลายเป็นหนังที่พล็อตเรื่องสร้างความสั่นสะเทือนให้ผู้ชมไปโดยปริยาย

2.Thoroughbreds

ลิลลี่ และ อแมนด้า เด็กสาวจากครอบครัวฐานะดี 2 คน ที่เคยไปโรงเรียนด้วยกัน แถมยังสนิมสนมกันมาก ก่อนต่างคนจะต่างไปมีชีวิตในแบบของตัวเอง จนวันหนึ่งต้องมาเจอกัน จึงต้องมาจูน มาทำความรู้จักกันใหม่อีกครั้ง โดยคนหนึ่งกลายเป็นคุณหนูที่เพียบพร้อมไปทุกด้าน ไม่มีจุดบกพร่อง ขณะที่อีกคนก็ดูไร้ความรู้สึก ไม่หืออือกับสิ่งรอบข้าง แถมยังแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา จนไม่รักษาน้ำใจและมารยาทอยู่บ่อยครั้ง ทำให้อดีตเพื่อนรักต้องจูนกันอยู่นานทีเดียวกว่าจะลงล็อก

หนังเหมือนจะดูฟีลกู๊ดแต่จริงๆแล้ว ดาร์คระทึกขวัญพอควร บทหนังพูดกันเยอะพอสมควร ก่อนจะไปถึงฉษกพีค หนังตีแผ่สังคมอเมริกันชนทั้เต็มไปด้วยความเย็นชา หลอกหลวงกันในสังคมไร้ความจริง หนังวางพล็อตเรื่องสับขาหลอกผู้ชม ไดนามิคหนังค่อยๆพีคไปเรื่อยๆ โครงเรื่องจัดจ้านมาก ซาวด์ประกอบทำให้หนังลุ้นระทึกไปจนถึงวินาทีสุดท้ายของเรื่อง

3.Marrowbone

ปี 1969 ครอบครัวชาวอังกฤษที่มีแม่และลูกชายลูกสาว 4 คน ย้ายมาตั้งรกรากอยู่บ้านหลังใหญ่มากบนพื้นที่ห่างไกลชุมชนในเมืองเล็ก ๆ ของสหรัฐ หนังเล่าเหตุการณ์วันที่แม่ล้มป่วยและเสียชีวิต ทิ้งภาระให้แจ๊คลูกชายคนโดนดูแล บิลลี่น้องชายคนโต เจนน้องสาวคนรอง และแซมน้องเล็กสุดที่วัยยังไม่ถึง 10 ขวบ หนังเริ่มเรื่องด้วยบรรยากาศอึมครึมค่อย ๆ หยอดปริศนามาทีละนิดว่าครอบครัวนี้ซ่อนความลับต่อบุคคลภายนอกไว้มากมาย ครึ่งแรกของหนังเต็มไปด้วยปริศนาหลากหลายผ่านบทสนทนาที่ชวนสงสัยทั้ง จากบทสั่งเสียของแม่ถึงลูก ๆ จากบรรดาพี่น้องที่คุยกันด้วยความวิตกกังวล และจุดพลิกผันโครมใหญ่ของครอบครัวแมร์โรว์โบนก็เริ่มขึ้นเมื่อกระสุนนัดแรกถูกยิงเข้าใส่หน้าต่างของบ้าน

ส่วนการแสดงของ Anya Taylor Joy บอกเลยว่าสอบผ่านฉลุย เหมือนเธอจะเกิดมาเพื่อเล่นหนังแนวระทึกขวัญดาร์คๆ เพราะสีหน้าแววตาของเธอก็ดูน่ารักดีทำให้เธอโดดเด่นขึ้นมาบทบาทแอลลี่ ในเรื่องนี้ ต้องบอกว่าเสน่ห์เธอมากขึ้นตามวัย ในเรื่องนี้ดูสดใสและสดสวยขึ้นมากรับกับรัศมีดาราขาขึ้นในฮอลลีวู้ด

4.Split

เควิน ชายผู้มี 23 บุคลิกในตัวเอง จับเด็กหญิงสามคนจากซูเปอร์มาร์เก็ตมาขังในห้องใต้ดิน ในขณะที่สองสาว Claire และ Marcia พยายามหาทางต่อสู้และหลบหนีด้วยความหวาดกลัว หนึ่งสาว Casey กลับนิ่งเฉย และพยายามหาทางเอาตัวรอดในวิธีที่แตกต่างจากเพื่อน Casey เริ่มเรียนรู้ว่าชายที่จับพวกเธอมานั้นไม่เหมือนคนอื่นทั่วไป บางครั้งเขาก็เป็นชายจอมบงการวางอำนาจ บางครั้งก็เป็นผู้หญิง บางครั้งก็เป็น เด็กชายเก้าขวบที่ดูอ่อนแอใสซื่อ บางครั้งก็เป็นดีไซน์เนอร์หรือแฟชั่นนิสต้า เควินต้องเผชิญสงครามเพื่อเอาตัวรอดท่ามกลางเหล่าบุคลิกทั้งหมดที่ถูกกักอยู่ภายในตัวเขา รวมถึงทุกคนรอบ ๆ ตัวเขา เมื่อกำแพงที่กั้นระหว่างบุคลิกต่าง ๆ ของเขาเริ่มพังทลายลง

หนังแนวทริลเลอร์ระทึกขวัญ ที่ Anya แสดงนำ ผ่านการกำกับโดยเจ้าพ่อหนังสยองขวัญ M. Night Shyamalan หนังมีจุดหักมุมตลอดเวลา บรรยากาศแบบลึกลับในหนัง รวมถึงปมหลังของแต่ละตัวละครนั้นชวนให้จดจ้อง และกระตุ้นให้อยากค้นหาคำตอบไปพร้อมๆ กับการเอาใจช่วยเด็กสาว ความสนุกก็มาแบบต่อเนื่อง เป็นความสนุกในแบบที่คาดเดาไม่ได้ว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางไหน

5.The New Mutants

กลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์วัยรุ่นที่เป็นศิษย์อีกรุ่นของ ชาร์ลส์ ซาเวียร์ ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องผจญภัยทั่วไปแล้วก็ยังต้องรับมือกับปัญหาวัยรุ่นแบบที่คนทั่วไปต้องเจอ เรห์น ซินแคลร์ , อิลลิอาน่า รัสปูติน , แซม กัธรีย์ และโรแบร์โต้ เดอ คอสตา คือมนุษย์กลายพันธุ์หนุ่มสาวสี่คนที่ถูกกักตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่ห่างไกลผู้คน เพื่อสังเกตสภาพทางจิตใจของพวกเขา ดร.เซซิเลีย เรเยส ผู้เชื่อว่าวัยรุ่นทั้งสี่คนเป็นอันตรายทั้งต่อตัวเองและสังคมโดยรวม จับตามองพวกเขาอย่างใกล้ชิดพร้อมไปกับการพยายามสอนให้พวกเขาควบคุมพลังมนุษย์กลายพันธุ์ของพวกเขาเอาไว้ เมื่อเด็กใหม่ แดนี่ มูนสตาร์ ฮันท์ ได้เข้ามาอยู่ร่วมกับคนไข้คนอื่น ๆ ในโรงพยาบาลแห่งนี้ เรื่องประหลาด ๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น คนไข้ของโรงพยาบาลถูกคุกคามไปด้วยภาพหลอนและภาพแฟลชแบ็ค และทั้งพลังมนุษย์กลายพันธุ์รุ่นใหม่และมิตรภาพระหว่างพวกเขาก็จะต้องถูกทดสอบเมื่อพวกเขาต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด

แม้ว่าบทหนังงานภาพการถ่ายทำจะถูกแก้ไปหลายรอบจนไม่หลงเหลือพล็อตเดิมๆไอเดียแรกที่อยากจะนำเสนอให้ไปแนวระทึกขวัญ กลายเป็นหนัง Coming Of Age วัยว้าวุ่นแทน สิ่งที่หนังปรุงแต่งไดด้ดีคือ CGI ที่คุณภาพทำให้ภาพที่ออกมาสู่หน้าจอผู้ชมมันความแปลกใหม่ คำวิจารณ์อาจสับแหละ แต่การแสดงขอ Anya Taylor-Joy กลับโดดเด่นกวาใครเพื่อน ดูนิ่งสุขุมเยือกเย็น บทจะออกตัวแรงก็ดูน่ากลัวขึ้นมาทันที เธอกลายเป็นสิ่งที่ดีงามในหนังเรื่องนี้ไปแล้ว

6.Emma

เอ็มมาสาวน้อยวัย 21 ที่ฉลาดล้ำ หน้าตาสะสวยรวยระเบิด ไม่มีใครใน ไฮบิวรี่หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เงียบสงบจะ ไม่รู้จักเธอ วัน ๆ ชีวิตไม่ต้องทำอะไรนอกจากใช้ชีวิตสุขสบายตามแบบผู้ดีอังกฤษ เป็นกุลสตรีสมบูรณ์แบบที่มีทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ ไร้แล้วซึ่งความทุกข์มากล้ำกราย วันหนึ่งเอ็มม่าแนะนำพี่เลี้ยงของเธอให้แต่งงานกับ มิสเตอร์เวสตัน พ่อหม้ายฐานะดีในหมู่บ้านจนเขาสองคนแต่งงานกัน คราวนี้เอ็มมาถึงเริ่มรู้สึกว่า เธอเป็นผู้รู้ดีในเรื่องนี้ การจับคู่ชักจะเป็นเรื่องสนุกซะแล้วสิ

บอกเลยว่าพอ Anya เปลี่ยนแนวทางการเล่นหนังจากเดิมที่มักวนเวียนมาแต่ในสไตล์ทริลเลอร์ระทึกขวัญดาร์คๆที่ดูน่ากลัวเธอมาเล่นคอเมดี้ กลายเป็นว่ามีความแปลกใหม่สนุกสนาน กลายเป็นสาวน้อยฉลาดจับคู่ให้คนโน่นทีคนนี่ที พล็อตเรื่องดูง่ายมาก มีความเป็นหนังรอมคอม งานภาพโปรดักชั่นเสื้อผ้าหน้าผมนักแสดงยังกับหลุดมาจากโลกเมื่อประมาณ 150-200 ปีที่แล้วยังไงยังนั้น

7. The Queen’s Gambit

เบธ ฮาร์มอน เด็กกำพร้าที่มาพร้อมบาดแผลจากครอบครัวที่แตกร้าว ได้รู้จักกีฬาหมากรุกผ่านการฝึกฝนกับภารโรงในชั้นใต้ดินมาตั้งแต่ 9 ขวบ ด้วยพรสวรรค์อันโดดเด่นหมากรุกได้พาเธอสู่โลกการแข่งขันที่ผู้ชายยังครอบครองพื้นที่อยู่ในยุคสงครามเย็นที่สหรัฐอเมริกาและรัสเซียได้ทำศึกกันทุกเรื่องแม้กระทั่งบนกระดาน 36 ช่อง ซีรีส์นำพาเรื่องราวที่พีคสุดไปนังจุดตกต่ำของเธอได้อย่างน่าอัศจรรย์

ผลงานที่ทำให้ Anya Taylor Joy โด่งดังเป็นพลุแตกกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ในช่วงเวลาที่ซีรีส์ชุดนี้ออกฉาย สร้างปรากฏการณ๋มากมายทาง Netflix เนื้อหาดูสนุก พล็อตเรื่องซับซ้อนทำให้คนดูได้คิดตามตลอดเวลา หมากรุก เกมกระดานที่ใช้ทั้งสติปัญญาและไหวพริบแถมการลุ้นกับการแก้เกมหมากแต่ละกระดานก็นับเป็นความสนุกของทั้งผู้เล่นและผู้เชียร์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ บรรยากาศในซีรีส์มีความลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลา แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการแสดงของ น้อง Joy ที่งดงาม เสน่ห์เหลือร้ายมากๆ ทำให้เธอพิชิตรางวัลมากมายหลากหลายสถาบันทั่วโลกไปแล้ว

8.Last Night in Soho

เอโลซี เด็กสาวตะกายดาวที่อยากเป็นแฟชั่นนิสตาสอบติดมหาลัยชื่อดังในกรุงลอนดอน เธอหอบหิ้วความฝันมายังเมืองหลวงแดนผู้ดี แน่นอนว่าชีวิตของเธอเหมือนจะสวยหรู แต่กลับพบความจริงที่น่าเบื่อและแล้วการย้ายไปอยู่หอพักแห่งหนึ่งก็นำพาเธอพบเรื่องราวสุดประหลาด เพราะมันพาเธอย้อนกลับไปยังยุค 60 สถานที่ทีดูจะเลิศหรูในสายตาคนภายนอก แต่กลับมีปริศนาเรื่องหลอนๆปกปิดเอาไว้ เธอก้าวลงไปยังจุดอันตราย และชีวิตดันผูกติดเชื่อมโยงกับแซนดี้ นักร้องสาวในยุค 60 มันกลายเป็นมากกว่าฝันร้าย เรื่องหลอนตามรังควานเธอไม่หยุดหย่อน

ผลงานเรื่องใหม่ของ Anya Taylor-Joy จากมันสมองและไอเดียที่สุดบรรเจิดของผู้กำกับหนังหัวก้าวหน้า Edgar Wright การเนรมิตหนังยุคปัจจุบันให้สอดคล้องกับโลกยุค 60 ประดุจอย่างกับเวมนตร์ หนังพาคนดูไปสัมผัสถึงปริศนาที่ซุกซ่อนเอาไว้ เอโลซี เจอฝันร้ายและถูกเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ประหลาด มันไม่ใช่ความฝันดั่งวิมานยิ่งสัมผัสมากขึ้นเท่าไหร่ก็จะหยุดยั้งได้ เนื้อหาค่อยๆตีแผ่ความโสมมสังคมอังกฤษที่ภายนอกดูสวยแต่ข้างในเลวร้าย หนังคลอเคลียด้วยเพลงยุคเก่า งานภาพที่งดงาม ผสมผสานกับบทหนังที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างบทกวี