10 หนังน่าดู 2022 ที่เข้าชิงรางวัลออสการ์
ออสการ์ 2023 ครั้งที่ 95 กำลังใกล้เข้ามาแล้ว เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน งานประกาศรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ยิ่งใหญ่ที้สุดจะเริ่มขึ้นในวันจันทร์ที่ 13 มีนาคม ท่ามกลางหนังคุณภาพมากมายจากการฉายโรงฉายบนสตรีมมิ่ง จากหมวดหนัง สารคดี แอนิเมชั่น ไฮไลท์สำคัญของเวทีนี้คงหนีไม่พ้น รางวัลหนังยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม นักแสดงชายยอดเยี่ยม และนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม ตัวเต็งที่ได้รับการจับตามองคือหนังไซไฟคุณภาพจากค่าย A24 Everything Everywhere All at Once ที่เดินหน้ากวาดรางวัลสถาบันต่างๆมากมายเช่นลูกโลกทองคำ, สมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ มาลุ้นกันว่าออสการ์ครั้งที่ 95 ใครจะกวาดโทรฟี่อันทรงเกียรติกลับบ้านไปครอง
ท่ามกลางรายชื่อหนังกว่า 40 เรื่องที่เข้าชิงในปีนี้ เราขอคัดเลือก 10 หนังที่ชอบและได้ชิงออสการ์ในปีนี้มาให้เลือกดูเลือกชม ส่วนจะมีเรื่องไหนบ้างเข้าไปดูได้เลยจ้า
1.Everything Everywhere All at Once
เอเวอลีน หวัง หญิงชาวจีน หญิงชาวจีนที่ตัดสินใจออกเดินทางมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในอเมริการ่วมกับสามี แต่เวลาผ่านไปชีวิตในฝันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด ธุรกิจร้านซักแห้งงที่ขาดทุนมานานหลายปี ชีวิตคู่กับสามี คี ฮุย ควน ที่แสนจืดชืด ความสัมพันธ์กับลูกสาว สเตฟานี่ ซู ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน การถูกกดดันจากผู้เป็นพ่อ รวมถึงสรรพากรสุดโหด ที่มาตามเก็บภาษีและขู่จะยึดร้าน แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู๋ๆ เธอ ก็ได้มาเจอกับ ตัวตนที่อยู่ในหลากหลายชีวิต ณ พหุจักรวาล โดยแต่ละตัวตนต่างมีเป้าหมายในชีวิตแตกต่างกัน มีเส้นทางชีวิตที่เป็นทั้งคนดีและคนชั่ว และยังมีพลังที่เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อการมาอยู่ในโลกประหลาดนี้ได้ปรากฏศัตรูลึกลับที่หมายจะกำจัดตัวเธอในจักรภพอื่น ๆ ให้สิ้นซาก จนในที่สุด เอเวอลีนต้องยอมเผชิญหน้ากับสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Everything Everywhere All at Once เป็นหนังคอมเมดี้ที่ดูง่ายมากๆ สอดแทรกวัฒนธรรมความเป็นเอเชียเอาไว้ได้มีความเป็นสากล หน้าหนังไม่ใช่หนังฮีโร่แบบที่หลายๆคนเข้าใจ สิ่งที่สื่อสารออกไปจะออกไปในทางชีวิตปัญหาความไม่เข้าใจกันของคนในครอบครัวที่มุมมองช่วงชีวิตความคาดหวังแตกต่างกัน เราคาดหวังว่าจะเป็นอย่างโน่นอย่างนี่แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง พล็อตเรื่องราวได้สนุกคาระวหนังดังมากมาย ถ้าชอบจะชอบไปเลย แต่ถ้าไม่ชอบดูไม่เข้าใจคงงงได้ หนังจึงเหมาะกับคนดูในสไตล์หนังตลก หนังนอกกระแส ถ้าเป็นคอหนังทั่วไปอาจไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในมัลติเวิร์ส
เข้าชิง 11 สาขา
2.All Quiet on the Western Front
Paul Baumer เด็กหนุ่มชาวเยอรมัน ผู้คลั่งไคล้ในเรื่องราวของกองทัพและสงคราม กับเพื่อนๆ ร่วมชั้นเรียน ที่ได้อาสาไปรบในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เขายินดีรับใช้ชาติถึงขั้นยอมปลอมลายเซ็นต์ผู้ปกครองเพื่อไปตะลุยสงครามของจริง และความฝันค่านิยมที่ถูกปลูกฝังว่าคงจะไปเป็นวีรบุรุษในสงคราม และคำชื่นชมว่าเป็นทหารผ่านศึก ตามคำกล่าวปลุกใจของอาจารย์ในโรงเรียน สภาพการเป็นทหารที่แท้จริงที่เขาเผชิญนั้นไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด คือสิ่งที่รอเขาอยู่ข้างหน้า แม้แต่ชุดทหารที่เขาสวมใส่อยู่เขาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมาจากศพรุ่นสู่รุ่น เพียงไม่นาน Paul ก็เริ่มตาสว่างอย่างรวดเร็ว และรู้เลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องสนุกอย่างที่คิดเอาไว้ หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ All Quiet on the Western Front ว่ากันว่านี่คือ 1917 ในเวอร์ชั่นคนพ่ายแพ้อย่างเยอรมัน ถ้าพูดแบบเป็นกลางจริงๆเรื่องนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ปกติเรามักจะดูหรือจดจำหนังสงครามในมุมมองคนชนะอย่างเดียว ไม่มีใคร ไม่มีสตูดิโอหน้าไหนมาจดจำหรืออยากนำเสนอเรื่องราวของคนแพ้ แต่นี่แหละหนังเรื่องนี้พอทำด้วยคนเยอรมัน ย่อมมีความเข้าอกเข้าใจมุมมองแบบคนดอยซ์จริงๆ หนังที่เป็นตัวแทนจากเยอรมันเข้าชิงออสการ์ 2022 ที่นำเสนอมุมมองของคนเยอรมันที่ต้องพบเจอกับความสูญเสียเพราะความบ้าอำนาจของคนไม่กี่คนสุดท้ายกลายเป็นความโหดร้ายที่คนมากมายพบกับจุดจบอันน่าเศร้า นี่ไม่ใช่หนังสงครามที่ถูกอกถูกใจใคร เน้นเล่าในมุมมองคนแพ้ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมา ทำให้เข้าอกเข้าใจความเป็นมนุษย์จริงๆ
เข้าชิง 10 สาขา
3.The Fabelmans
แซมมี เฟเบิลแมนส์ เด็กหนุ่มวัย 7 ขวบ ชาวอเมริกันเชื้อสายยิว ที่เกิดความหลงใหลภาพยนตร์ เมื่อพ่อแม่พาไปดูหนังในโรงเป็นคร้งแรก จนอยากจะเดินทางสายนี้ ทั้งที่ครอบครัวอบอุ่นมีพ่อเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์อนาคตไกล และแม่เป็นนักเปียโน พอเติบขึ้นเขาก็เริ่มต้นทดลองทำหนังด้วยกล้อง 8 mm. เป็นประจำ ทว่ารอยร้าวในครอบครัวทำให้ เด็กหนุ่มคนนี้ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ The Fabelmans เป็นหนังส่วนตัวของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก โดยเฉพาะคนที่เป็นแฟนหนังพันธ์ุแท้ไม่ควรพลาดเด็ดขาด เพราะอ้างอิงชีวิตจริงพาไปสำรวจมุมมองใหม่ๆแบบที่แฟนหนังไม่เห็นมาก่อน การกลั่นกรองเรื่องราวทำให้เราไ้ด้เห็นถึงความรักความตั้งใจของผู้กำกับคนนี้ไม่ได้มีอะไรหวือหวาแต่เรียบง่ายลึกซึ้งกินใจ เป็นการพาไปรับชมว่าเขาโตมาในครอบครัวแบบไหน อะไรคือสิ่งที่ขับเคลื่อนให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดผู้กำกับคนหนึ่งของโลก แน่นอนว่ามันเติมเต็มแรงบันดาลใจให้ผู้ชมได้ต่อสู้เพื่อความฝัน ใครหมดแรงสิ้นหวังเรื่องนี้ควรค่าแก่การชมเป็นอย่างยิ่ง เรื่องนี้มัน Love Live In Cinema ของจริง
เข้าชิง 7 สาขา
4.Top Gun Maverick
หลังจากรับราชการเป็นนักบินระดับท็อปของกองทัพเรือมานานกว่า 30 ปี พีท ‘มาเวอริค’ มิทเชลล์ กลับมาสู่ที่ซึ่งเหมาะสมกับเขา เขากลับมาเป็นนักบินทดสอบผู้กล้าหาญและหลีกหนีจากความก้าวหน้าทางการงาน เขากลับมาฝึกหน่วยท็อปกันเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษในรูปแบบที่ไม่เคยมีนักบินที่ยังมีชีวิตอยู่เคยเห็นมาก่อน มาเวอริค ต้องเผชิญหน้ากับ เรือโทแบรดลีย์ แบรดชอว์ หรือ “รูสเตอร์” ลูกชายของ เรือโทนิค แบรดชอว์ หรือ “กูส” เพื่อนของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว เขาต้องพบกับอนาคตที่ไม่แน่นอนและอดีตที่ตามหลอกหลอน มาเวอริคต้องเผชิญกับความกลัวที่ฝังลึกอยู่ และปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ ซึ่งภารกิจนี้ผู้ที่ได้รับเลือกให้ร่วมบินต้องเสียสละอย่างที่สุด หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Top Gun Maverick น่าจะเป็นหนังระดับคุณภาพของ Top Cruise ที่เข้าใกล้คำว่าสมจริงมากที่สุดทำให้การชมหนังเรื่องนี้มันพาคนดูทะเยอทะยานไปยนเวหาจริงๆแบบที่ดูแบบสตรีมมิ่งให้ไม่ได้ เสียงเครื่องบินบรรยากาศบนฟากฟ้ามันสุดยอด หนังเหมาะกับคนดูทุกเพศทุกวัย ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนหนังสายแมสหรือสายอินดี้ พล็อตหนังธรรมดา แต่เรื่องราวความตื่นเต้นบนเครื่องบินรบ F18 ที่นักแสดงได้ไปมีส่วนร่วมมันสะกดคนดูเฮลั่นโรงโดยที่เราไม่ต้องคาดเดากับเรื่องราวอะไรเลย หนังมาแบบเอนเตอร์เทนคนดูโดยเฉพาะ
เข้าชิง 6 สาขา
5.Triangle of Sadness
คาร์ล กับ ญาญ่า คู่รักวงการแฟชั่น ที่ความสัมพันธ์กำลังย่ำแย่ทะเลาะกันหนักหน่วงไม่เหมือนเก่า พวกเขาทั้งคู่ได้รับเชิญให้ลงเรือลำหรู ที่เต็มไปด้วยผู้โดยสารระดับไฮคลาสและทรงอิทธิพลมากมาย เมื่อเรือแล่นออกสู่ท้องทะเล ก็ดูเหมือนว่าพายุกำลังค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น คลื่นลมทะเลทำให้คนทั้งลำเรือมีอาการเมาคลื่น และกระทบต่อมื้ออาหารค่ำ ทำให้กัปตันสั่งให้ปิดฉากโปรแกรมท่องเรือครั้งนี้ ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะพบว่าถูกทิ้งเอาไว้บนเกาะร้างที่เต็มไปด้วยมหาเศรษฐีกับบริกรอีกหนึ่งคน และดูเหมือนว่าสถานการณ์ต่าง ๆ พลิกไปอีกขั้วทันที เพาะดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงบริกรเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่รู้จักวิธีจับปลาและเอาตัวรอดจากวิกฤตติดเกาะครั้งนี้ หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Triangle of Sadness จัดเป็นหนังที่เสียดสีสังคมได้อย่างเมามันส์เรื่องหนึ่ง หนังมีกลิ่นอายความเป็นยุโรป ชำแหละคนรวยคนจนคนชนชั้นกลาง คิดว่าตอนดูแต่ละคนน่าจะสนุกและอินกับประเด็นของหนังได้ไม่ยาก ยิ่งเราสนใจประเด็นสังคมมากแค่ไหนก็จะยิ่งเห็นภาพของความเหลื่อมล้ำได้ชัดเจนยิ่งขึ้นและสามารถสนุกไปกับหนังได้อย่างเต็มที่เลย หลายๆคนบอกว่านี่คือมัน Parasite เวอร์ชั่นบนเรือจะนิยามแบบนั้นคงไม่แปลกเพราะ นี่เป็นการยำแหลกช่องว่างของผู้คนในยุคทุนนิยมที่นับวันมันช่างห่างไกลความเท่าเทียมจริงๆ
เข้าชิง 3 สาขา
6.The Whale
เรื่องราวของ Charlie อาจารย์มหาวิทยาลัยที่ต้องสูญเสียคนรักไปกะทันหันและส่งผลต่อสภาพจิตใจของเขาอย่างหนัก ส่งผลให้เขาป่วยเป็นโรคอ้วนขั้นวิกฤต น้ำหนักตัวมากถึง 600 ปอนด์ วันหนึ่งเขาได้มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตร่วมกับ Ellie ลูกสาวของตัวเองที่ห่างเหินกันไป Charlie ตั้งใจจะดูแลลูกสาวตัวเองให้ดีที่สุดและคงเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะแก้ไขอดีตที่ผิดพลาด ก่อนที่เขาจะไม่เหลือเวลาอีกแล้ว หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ The Whale จัดเป็นหนังที่เหมาะกับแฟนหนังสายดราม่าเน้นรางวัล เพราะหนังเน้นขับเคลื่อนด้วยห้วงอารมณ์ความรู้สึกตัวละครที่เผชิญหน้ากับปัญหาที่ไม่มีวันเข้าใจ แต่ในเวลาเดียวกันก็็พาไปสัมผัสประเด็นมากมายที่เฉลยออกมาทีละนิดเข้าอกเข้าใจตัวละคร มันออกแนวลึกซึ้งกินใจ ผสมผสานกับกลิ่นอายแบบจิตวิทยาที่กดทับจิตใจ ถ้าหากเป็นคนชอบงานของ ผู้กำกับ Darren Aronofsky ในแบบของ Mother หรือ Black Swan เรื่องนี้จะดูง่ายกว่า และเข้าถึงตัวละครได้มากกว่าจนอยากแนะนำ
เข้าชิง 3 สาขา
7.Glass Onion: A Knives Out Mystery
Miles Bron มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยี ได้ชวนเพื่อนๆซี้ มีหน้ามีตาทางสังคม มาเที่ยวพักผ่อนบนเกาะหรูส่วนตัวในประเทศกรีซ แต่แล้วเหตุการณ์ที่เราไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีหนึ่งในผู้ร่วมงานถูกฆ่าตายอย่างเป็นปริศนา จึงต้องเป็นหน้าที่ของ Benoit Blanc ที่บังเอิญอยู่ในเหตุการณ์นี้ต้องคลี่คลายคดีหาเบาะแสหาตัวคนร้ายตัวจริงในครั้งนี้
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร สำหรับ Glass Onion เป็นหนังสืบสวนสอบสวนไขคดีหาตัวคนร้ายที่สนุกสนานเนื้อหาจัดจ้านมากขึ้นกว่าเดิม การใช้ปาร์ตี้คนรวยช่วงโควิดเป็นฉากหลัง นำเสนอได้ได้มากแอบเสียดสีคนมีเงินได้แบบเฉียบขาด หนังเล่นใหญ่มากกว่าภาคก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด โดดเด่นของการไขปริศนาฆาตกรรมที่เต็มไปด้วยความตลบตะแลง จังหวะหักมุมเล็กๆที่มอบทั้งความขบขันตลอดทาง พล็อตเรื่องเปิดพื้นที่ให้ผู้ชมจับสังเกตความแปลกปลอม หยอดข้อมูลบอกใบ้เรื่องราวไปมา ทำให้ได้แผนฆาตกรรมที่ฉลาดหลักแหลม อัดแน่นด้วยคุณภาพและความบันเทิงครบรส ใครเป็นแฟนหนังสืบสวนหรือหนังสายรางวัลไม่ควรพลาดเรื่องนี้เลย
เข้าชิง 1 สาขา
8. Aftersun
ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็ว ทำให้โซฟีได้นึกถึงช่วงเวลาที่เธออายุ 11 ขวบกับคุณพ่อของเธอตอนอายุ 30 เมื่อปี 11 ปี เธอไปเที่ยวพักผ่อนกับพ่อที่สถานพักตากอากาศที่ตุรกีเมื่อ 20 ปี และหนังก็ถูกบันทึกผ่านกล้องวิดีโอธรรมดาของพ่อเธอ ที่ได้สัมผัสความทรงจำ กิจกรรมต่างๆที่พวกเขาได้ผลักดันเล่นไปตลอดทริป แต่ทว่าหลายสิ่งหลายอย่างค่อยๆเปลี่ยนไปราวกับว่าเธอกับพ่อแทบไม่เคยเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกันมาก่อน หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Aftersun เป็นหนังดราม่าที่เหมาะกับสายรางวัลดูแล้วน้ำตาไหลคิดถึงและโหยหาอดีตแน่ๆ เพราะองค์ประกอบไร้ที่ติ มันงดงาม ลึกซึ้ง จับใจ และชวนแตกสลายอย่างรุนแรง นี่คือหนังที่เรากล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่ามันคือผลงานชิ้นเอกยุคใหม่อย่างแท้จริง เทคนิคการเล่าเรื่องที่ความสดใหม่และแพรวพราว เต็มไปด้วยการใช้ภาษาภาพยนตร์ที่สื่อถึงความรู้สึกผ่านห้วงอารมณ์และช่วงเวลาต่างๆ ในอดีตของตัวละครได้อย่างหมดจด มันเป็นหนังที่เรารู้สึกได้ถึงความเป็นหนังส่วนตัวที่ใครๆก็ดูได้แน่ๆ นักแสดงเล่นได้เป็นธรรมชาติ ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงติดโผหนังยอดเยี่ยมที่สุดปี 2022
เข้าชิง 1 สาขา
9.Fire of Love
สารคดีสุดตื่นตาตื่นใจจาก National Geographic = ที่บอกเล่าเรื่องราวการสร้างสรรค์และการทำลายล้างของโลกนับตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ โดยนำพาเราเข้าสู่ดินแดนที่ไม่รู้จัก และเฉลิมฉลองจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยของนักวิทยาศาสตร์ผู้หาญกล้าทั้งสองคือ คาเทีย กับ มอริซ คราฟท์ นักภูเขาไฟวิทยาชาวฝรั่งเศสผู้ออกเดินทางท่องไปทั่วโลกเป็นเวลากว่า 20 ปี เพื่อไล่ตามการปะทุของภูเขาไฟและบันทึกการค้นพบแสนอัศจรรย์ของพวกเขาไว้ ก่อนที่ในท้ายที่สุด พวกเขาจะสิ้นลมหายใจพร้อมกันจากการระเบิดของภูเขาไฟในปี 1991 เหลือทิ้งไว้เพียงมรดกทางความรู้อันยิ่งใหญ่แก่มนุษยชาติ หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Fire of Love จัดเป็นหนังสารคดีที่คนสายปืนเขา หรือกลุ่มคนที่ชอบเสี่ยงอันตรายควรค่าแก่การดูเป็นอย่างยิ่ง เนื้อหามันดูเสี่ยงแต่มันกลับเป็นแพชชั่นอย่างแรงกล้าของสามีภรรยาที่ยืนหยัดทำสิ่งที่รักตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้้ายของชีวิต มันเติมเต็มอารมณ์ความรู้สึกของเขา และฟุตเทจภาพภูเขาไฟลาวาที่ได้ดูเต็มๆสองตาก็เป็นอะไรที่หาดูไม่ยากมาก มันน่าตื่นตาตื่นใจ ถ้าหากเป็นคนชอบงานสารคดีดูบ่อยๆอยู่แล้ว เรื่องนี้ดูไปยาวๆไม่มีผิดหวัง
เข้าชิง 1 สาขา
10.Close
มิตรภาพอันลึกซึ้งของเด็กหนุ่มวัย 13 ปีระหว่าง Leo และ Remi แต่ได้เกิดอะไรบางอย่างขึ้นที่ทำให้มิตรภาพของทั้งคู่ต้องสิ้นสุดลงไป Leo จึงพยายามเรียนรู้และหาคำตอบในความสัมพันธ์ที่กำลังพังทลายลงไปนี้ โดย Close จะพาคุณจะไปสัมผัสทุกความรู้สึกอันลึกซึ้งในมิตรภาพอันอ่อนโยนของทั้งคู่ หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Close นี่คืองานที่คอหนังสายรางวัลไม่ควรพลาด คำพูดไม่กี่คำสร้างบาดแผลสร้างความเจ็บปวดให้ใครต่อใครแบบไม่ทันตั้งตัว หน้าหนังพูดถึงการเติบโตการใช้ชีวิตของเด็กน้อยที่ไร้เดียงสาที่ในโลกที่อันตรายและมีความเปราะบาง การเติบโตเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไม่เคยมีคำว่าง่าย เรามักหลงเชื่อหลงระเริงกับคำพูดคนแปลกหน้าจนละเลยสิ่งที่สำคัญในชีวิตทั้งเพื่อนมิตรภาพ แต่ในเวลาเดียวกันมันคือบันทึกที่พาคนดูไปสำรวจชีวิตในวัยเด็กว่าเราเองได้สร้างรอยร้าวไว้เมื่อไหร่บ้าง หนังไม่มีพล็อตที่ซับซ้อน 90 นาทีได้น้ำตาแตกแน่ๆ
เข้าชิง 1 สาขา