8 หนังเอาชีวิตรอดในการแข่งเกมสุดโหด
จากกระแส Squid Game อีกหนึ่งซีรี่ส์เกาหลีแนวเล่นเกมเอาชีวิตรอด ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการหยิบเอาการเล่นเกม เพื่อให้ผู้แข่งขัน แข่งกันเอาตัวรอด เพื่อชิงเงินรางวัล ซึ่งหากใครที่เสพคอนเทนท์สายญี่ปุ่นเยอะๆ อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการอ่านมังงะ หรือดู Live Action ในฉบับซีรี่ส์มาก็ตาม ก็จะเห็นว่าพล็อตแบบนี้มันไม่ได้ใหม่เท่าไรนัก เพราะในญี่ปุ่นมีแนวๆ นี้ออกมาเยอะมากๆ แล้ว แต่ทั้งนี้ Squid Game ก็ยังหาแนวทางของตัวเองได้เป็นอย่างดี และอัพเกรดความเป็นสากลได้มากๆ จนถูกอกถูกใจใครหลายๆ คน
จนเมื่อดูจบแล้ว แอดมินก็เชื่อว่า หลายๆ คนคงอยากจะถามหาหนังหรือซีรี่ส์แนวๆ นี้เพิ่ม เพราะชอบในอารมณ์บีบคั้น ชอบไหวพริบในการเอาตัวรอดของตัวเอง และชอบการสูญเสียตัวละครแบบทำร้ายจิตใจ ซึ่งวันนี้ #โกดังหนัง เอง ก็เลยขุดหนังออกจากโกดังออกมาแนะนำกันดู ว่า แนวเล่นเกมเอาชีวิตรอดแบบนี้ จะมีเรื่องไหนที่โดนใจกันบ้าง
Squid Game (2021 – On Going) – สควิดเกม เล่นลุ้นตาย
กีฮุน ชายวัยกลางคนที่ชีวิตล้มเหลว ทั้งภรรยาแยกทางและพาลูกไปอยู่ด้วย มีแม่ที่มีอาการป่วย อีกทั้งตัวเขาเองก็ยังเป็นหนี้เพราะติดการพนัน วันหนึ่งเขาได้รับโอกาสให้เขาไปร่วมเล่นเกมปริศนา ที่รางวัลคือเงินมูลค่ามหาศาล เมื่อไปถึงเขาได้พบว่าเกมนี้ผู้แข่งขันถึง 456 คน และเต็มไปด้วยปัญหาหนี้สินเหมือนกัน ซึ่งเมื่อเกมแรกเริ่มขึ้น พวกเขาทุกคนก็ตระหนักได้ว่าแม้เงินรางวัลจะสูงมาก แต่หากพลาดก็จะแลกมาด้วยความตาย…
อีกหนึ่งซีรี่ส์ชั้นดีของค่าย Netflix ที่แม้ว่าพล็อตจะไม่ต่างอะไรจากแนวเล่นเกมเอาชีวิตรอดจากของที่ญี่ปุ่นทำมาอยู่บ่อยๆ อีกทั้งตัวเกมก็อาจจะยังไม่ได้หวือหวาหรือชวนใช้ปฏิภาณไหวพริบมากนัก แต่เกมที่เล่นจะหยิบธีมของการละเล่นพื้นบ้านมามากกว่า ซึ่งเกาหลีเองก็หยิบจุดเด่นของตัวเองมาใช้ได้ดี ในการสร้าง Melodrama ชวนเศร้า หรือปูปมตัวละครถึงแรงจูงใจแต่ละคนที่ต้องเข้ามาเล่นเกมนี้ จนทำให้ที่ดูเหมือนจะดูปูเรื่องช้าไปหน่อย แต่ก็มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก จนนับเป็นอีกซีรี่ส์ระดับ Binged-Watch ที่ดูรวดเดียว
As the God Will (2014) – เกมเทวดา ฆ่าไม่เลี้ยง
ชุน ทาคาฮาตะ เด็กนักเรียนหนุ่มที่เบื่อหน่ายกับชีวิต จนได้แต่ภาวนาให้โลกนี้เลิกน่าเบื่อเสียที ดูเหมือนว่าพระเจ้าเองก็ดูจะตอบรับอย่างดี เมื่อในวันหนึ่งจู่ๆ ระหว่างเรียนอยู่ก็เกิดการตายสุดโหดเกิดขึ้นกับคุณครูในห้อง พร้อมทั้งมีการปรากฏตัวของ ตุ๊กตาดารุมะ ที่จะให้ทุกนักเรียนมัธยมทุกคนเข้ามาร่วมเล่นเกมเอาชีวิตรอดเกมนี้ไปด้วยกัน โดยแต่ละด่านก็จะต้องอาศัยไหวพริบในการเอาชีวิตรอดอย่างสูง เพราะหากพลาดอาจต้องลงเอยด้วยความตาย…
อีกหนังที่ดัดแปลงมาจากมังงะที่มีชื่อว่า “เกมเทวดา” (ที่มีโครงการ 2 ออกมาด้วย) แถมยังได้ผู้กำกับบ้าเลือด บ้าพลังสายโหดอย่าง ทาคาชิ มิอิเกะ มากำกับ จนน่าเสียดายที่หนังไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของไทยในช่วงนั้น ซึ่งในฉบับหนังก็เรียกได้ว่าดัดแปลงออกมาได้บันเทิงอยู่ไม่น้อย กับการเอาบรรดาสารพัดของเล่นทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมาใช้ได้เป็นอย่างดี และมีความสยองไม่น้อย อีกทั้งในด้านความโหด เลือดสาดตามสไตล์ผู้กำกับก็ดูเหมาะสมกับตัวหนังเหลือเกิน
Alice in Borderland (2020 – On Going) – อลิสในแดนมรณะ
เรียวเฮ อาริสึ หนุ่มลูสเซอร์ตกงานที่วันๆ ติดแต่เกม วันหนึ่งเขาและเพื่อนอีก 2 คน ก็ได้พบกับเหตุการณ์ประหลาดที่ไฟดับทั้งเมืองจนผู้คนหายไปหมด พวกเขาได้ตามแสงสว่างของตึกหนึ่งเข้าไปและพบว่าพวกเขาได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเกมมรณะที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิต ที่แต่ละเกมจะมีรางวัลคือ วีซ่า ที่จะทำให้พวกเขาได้ต่อชีวิตไปเรื่อยๆ ส่วนใครวีซ่าหมดต้องได้พับกับความตาย พวกเขาจึงต้องฝ่าด่านต่างๆ เพื่อตามหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ครั้งนี้เพื่อหยุดเกมสุดโหดนี้ให้ได้ ก่อนที่พวกเขาจะเสียคนสำคัญไปมากกว่านี้
อีกหนึ่งซีรี่ส์แนว Survival ที่ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อดังในชื่อเดียวกัน (มีฉบับแปลไทยจากสำนักพิมพ์วิบูลกิจ) ที่หลังซีรี่ส์ออกฉายปุ้บ หนังสือก็ขาดตลาดกันในทันที โดยเฉพาะในแบบแพคชุดที่ปล่อยขายกันหนักมาก เพราะใครๆ ก็อยากรู้เรื่องราวต่อไปกันจนแทบจะลงแดงอยู่แล้ว แม้ว่าพล็อตเรื่องอาจจะคล้ายๆ กับแนวๆ เอาตัวรอดจากเกมเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่ทว่ามันก็กลับใส่สไตล์ ใส่ความโดดเด่นของตัวละครให้มีความน่าจดจำ รวมถึงกิมมิคการสะสมไพ่จากด่านต่างๆ ไปจนถึงการเล่นระดับ Boss สุดระทึก สุดท้ายมันก็สามารถสร้างความโดดเด่นจากเรื่องอื่นๆ จนมีแฟนๆ ติดตามอยู่ไม่น้อยเลย นับเป็นอีกการดัดแปลงที่น่ายกนิ้วชื่นชมจริงๆ
Battle Royale (2000) – เกมนรก โรงเรียนพันธุ์โหด
ในโลกอนาคตที่ประเทศญี่ปุ่นตกอยู่ในสภาวะทางเศรษฐกิจจนประเทศแทบพัง ทั้งข้าวของราคาแพง และปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจากวัยรุ่น ทางรัฐบาลจึงออกนโยบายในการปฏิรูปการศึกษาใหม่ เพื่อหวังกำราบให้เด็กๆ เชื่อฟังผู้ใหญ่มากขึ้น จากการให้เด็กชั้นมัธยมเข้าร่วมเกม Battle Royale โดยหลอกว่าพวกเขาจะได้ไปทัศนศึกษา แต่เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมาก็ได้พบว่า พวกเขาถูกปลอกคอระเบิดควบคุมอยู่ หากใครที่แหกกฏก็จะตายในทันที โดยทุกคนจะต้องหาทางเอาตัวรอด และฆ่ากันให้ตายภายใน 3 วัน จนเหลือผู้รอดชีวิตแค่เพียงคนเดียว ไม่เช่นนั้นทุกคนจะต้องตายจากระเบิดที่คอทั้งหมด
อีกหนึ่งแนวโยนคนให้ไปฆ่ากันเอง แบบออริจินัล ที่แม้ว่าจะไม่ได้ออกมาในรูปแบบของเกมมากนัก แต่ด้วยการให้อาวุธ การบีบพื้นที่ ก็ดูเหมือนจะเป็นเกมอยู่กลายๆ ซึ่งในความโหดของมันนั้น ไม่ใช่แค่เพียงแค่การนั่งดูคนฆ่ากันตาย เพราะหนังหลายๆ เรื่องก็ทำเช่นนี้อยู่แล้ว แต่มันกลับเป็นการทำร้ายจิตใจที่ได้เห็นบรรดากลุ่มคนที่เคยเรียนมาด้วยกัน และเป็นเพื่อนกันมาก่อน หันอาวุธมาฆ่ากันเองด้วยวิธีต่างๆ จนกลายเป็นการสะท้อนสันดานดิบในการเอาตัวรอดของมนุษย์ แม้ว่าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก่อนหน้าก็ตาม อีกทั้งหนังจะเหมาะอย่างมากสำหรับคอหนังที่ชอบแนวจับคนไปฆ่ากันให้เหลือคนรอดคนเดียวอย่างยิ่ง
Escape Room (2019) – กักห้อง เกมโหด
คนแปลกหน้า 6 คนที่ต่างที่มากันนั้น ได้รับกล่องปริศนาที่เชิญชวนให้พวกเขาเข้ามาร่วมเล่นเกมไขปริศนาออกจากห้อง เพื่อพิชิตเงินรางวัล $10,000 ด้วยความที่พวกเขาก็คิดว่าน่าจะเป็นการหาเงินแบบง่ายๆ และน่าสนุกเลยเข้ามาร่วมกันเล่น จนกระทั่งได้พบว่าเกมที่พวกเขากำลังเล่นนั้น อาจต้องเดิมพันด้วยชีวิต เลยทำให้พวกเขาต้องร่วมมือกันเอาตัวรอดกันแทน
แม้ว่ามันจะไม่ใช่แนวที่โยนคนให้ไปฆ่ากันเองผ่านเกม แบบเรื่องอื่นๆ แต่มันก็น่าจะยังเหมาะกับคนที่ชอบหนังสายเอาชีวิตรอด ฝ่าด่าน ฝ่ากับดักต่างๆ อยู่ไม่น้อย ในแบบที่อยากดูแบบบันเทิงเบาๆ ไม่ต้องโหดเลือดสาดอะไรมาก ในแง่ดีก็คือเรื่องนี้คือตอบโจทย์สายนี้เลย แต่สำหรับคอหนังสายโหดติดเรทนั้นก็อาจจะรู้สึกว่ามันเบาไปเสียหน่อย แต่ถึงอย่างไรมาก็ชดเชยมาในแง่ความสร้างสรรค์ผ่านการออกแบบห้องต่างๆ ในออกมาดูน่าสนใจ และเพลิดเพลินไปกับปริศนาในห้องเหล่านั้นได้อยู่ตลอดทั้งเรื่อง
Osamu Game (2011) – เกมพระราชา ฆ่ายกห้อง
ในวันเปิดภาคเรียนใหม่นั้น นักเรียนห้อง 2-B ในโรงเรียนแห่งหนึ่งนั้น ได้รับข้อความแปลกๆ จากบุคคลปริศนา ให้ ยูกิชิ นักเรียนหมายเลข 28 สารภาพรักกับคนที่ตัวเองในชอบ ในวันถัดมาเขาก็ได้ทำตามนั้น จนได้รับข้อความยืนยันกลับมาว่าภารกิจสำเร็จ จนทำให้ทุกคนก็ได้รอลุ้นว่าสุดท้ายแล้วจะได้รับภารกิจอะไรกันอีก จนกระทั่งวันถัดมาก็เริ่มเลยเถิดขึ้นเมื่อมีคำสั่งให้นักเรียนคนหนึ่งไปจับหน้าอกนักเรียนอีกคน ทำให้ในวันถัดมาฝ่ายหญิงไม่กล้าออกมาเรียน ภารกิจเลยไม่สำเร็จ จนนำมาสู่การหายตัวไปอย่างปริศนาของคนสองคนเสมือนพวกเขาไม่เคยมีตัวตนมาก่อน นักเรียนที่เหลือจึงพยายามอย่างยิ่งที่จะทำตามกฏของเกมพระราชานี้ แต่กฏที่ว่ากลับทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนยากจะทำตามได้
อีกหนังที่สร้างมาจากมังงะเหมือนกัน (แปลไทยโดยค่าย Luckpim ชื่อ เกมพระราชา) แต่ความห่างชั้นกลับต่างกันคนละโยชน์ เพราะในฉบับมังงะนั้นเต็มไปด้วยความโหดสุดบีบคั้น รวมถึงความตายแต่ละคนก็เต็มไปด้วยความสยองจนบีบคั้นให้ทุกคนต้องทำตามให้ได้ แต่ในหนังกลับปวกเปียกมากที่เลือกทำให้ตัวละครนั้นหายตัวไป แทนที่จะเป็นการตายสุดโหดแทน ในแง่ของโปรดักชั่นก็ดูโลว์ๆ เกรดหน่อยเสมือนเป็นแค่ฉาก Sitcom มากกว่าที่จะเป็นหนังใหญ่ แต่โดยภาพรวมก็เหมาะกับเอาไว้ดูลุ้นๆ ดี ไม่ว่าจะจะเคยอ่านมังงะหรือไม่มาก่อนก็ตาม เพราะแต่ละเงื่อนไขของพระราชานั้น ทำให้เราได้ลุ้นไปกับตัวละครด้วยว่าอันไหนบ้างที่พวกเขาจะเลือกทำและไม่เลือกทำ เมื่อมันล้ำเส้นศีลธรรมเกินไปแล้ว
Tomodachi Games (2017) – เกมมิตรภาพ
คาตากิริ ยูอิจิ นักเรียนมอปลายที่ยึดมั่นคำว่ามิตรภาพเหนือสิ่งอื่นใด แต่แล้ววันหนึ่งเขาและเพื่อนต่างถูกพาให้เข้าไปพัวพันกับเกมที่จัดขึ้นแบบลับๆ ที่มีชื่อว่า Tomodachi เพื่อช่วยเหลือเพื่อนคนหนึ่งของเขา แต่แล้วเมื่อเขายิ่งถลำลึกไปมากเท่าไร ตัวเกมที่ว่ามันก็ยิ่งทดสอบมิตรภาพของพวกเขามากขึ้นเท่านั้น โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าในกลุ่มของพวกเขาเองนั้นก็กลับมีผู้ทรยศอยู่ 1 คน ที่จะทำให้ทุกอย่างพังลงได้เหมือนกัน
มินิซีรี่ส์ 4 ตอน + ภาค The Movie ที่ดัดแปลงมาจากมังงะที่มีชื่อว่า โทโมดาจิ เกมมิตรภาพ (แปลไทยโดยสำนักพิมพ์ Siam Inter Comic) ที่แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเกมสไตล์แข่งฆ่ากันให้ตาย แต่ทว่าผู้แพ้ที่ตกอยู่ในสภาพหนี้ท่วมที่ไม่มีทางใช้คืนก็เหมือนถูกส่งไปตายอยู่ดี ตัวเกมในเรื่องจะค่อนข้างคล้าย Liar Games อยู่มาก เพียงแต่จะมีลูกเล่นเบื้องลึกเบื้องหลังของสมาชิกในทีมอีกมากที่สร้างความสลับซับซ้อนในพล็อตเรื่องหลักมากกว่าแค่การเล่นเกมกันไปเรื่อยๆ อีกทั้งการหาตัวผู้ทรยศก็นับเป็นอีกสิ่งที่ชวนอยากรู้ในเรื่องเหมือนกัน แม้ว่าสุดท้ายคุณภาพอาจไม่เท่ามังงะ แต่ก็นับเป็นอีก Live Action ที่ดูได้เพลินๆ ดีเลย
Liar Games – เกมหลอก คนลวง
นาโอะ คันซากิ สาวน้อยใสซื่อที่ต้องเข้าไปพัวพันกับองค์กรปริศนาที่จะพาคนเข้าไปร่วมเล่นใน Liar Games ซึ่งแค่เปิดมาเกมแรก นาโอะเองก็โดนคู่แข่งหลอกต้มเพราะความใสซื่อของเธอ จนทำให้เธอต้องถลำเข้าสู่เกมนี้เพราะต้องใช้หนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ในความโชคดี เธอยังได้พบกับ อากิยาม่า ชินอิจิ นักต้มตุ๋นระดับอัจฉริยะที่เริ่มสนใจในจิตใจที่ดีของนางเอก จนเข้ามาช่วยเหลือในการผ่านเกมต่างๆ ทำให้ทั้งคู่ต้องเข้าสู่โลกแห่งการหลอกลวงที่ยากจะถอนตัวออกมาได้
เป็นอีกมังงะที่โด่งดังมากๆ และส่วนตัวเองก็ติดงอมแงม (แปลไทยโดยสำนักพิมพ์ Siam Inter Comic) จนมาสู่ฉบับซีรี่ส์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ซึ่งหลายๆ คนก็ติดเรื่องนี้เพราะนางเอกสาวสุดน่ารักอย่าง เอริกะ โทดะ ที่ออกมาโลดแล่นอยู่ในหลายซีซั่นเลย รวมถึงภาค The Movie ด้วย ซึ่งการดัดแปลงค่อนข้างตรงกับต้นฉบับมาก และเห็นภาพของเกมมากขึ้นเมื่อดัดแปลงแล้ว นับเป็น Live Action ชั้นดีอีกเรื่องเลย ซึ่งในความดังนั้นก็ไปไกลจนเกาหลีเอาไปสร้างด้วย แต่อาจจะลำไยนิดๆ เพราะเน้นเรื่องความรักอยู่ไม่น้อยเลย