8 ข้อคิดที่น่าเรียนรู้ตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นจาก Sex Education
หากจะพูดถึงซีรี่ส์วัยรุ่นดีๆ สักเรื่องในตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้น Sex Education แน่ๆ ด้วยการวางตัวที่เล่าถึงชีวิตวัยรุ่นโดยเฉพาะ ด้วยปัญหาของตัวละครที่หลากหลาย และต่างคนก็ต่างต้องจัดการกับปัญหาในชีวิตของตัวเอง จนทำให้หลายๆ เรื่องคนดูเองนั้นก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่างไปพร้อมๆ ตัวละครในเรื่องด้วย ควบคู่ไปกับความบันเทิงที่คนดูอยากให้ตัวละครที่เรารักหรือชอบนั้นสมหวังหรือแฮปปี้กับชีวิตสักที
โดย Sex Education เป็นเรื่องราวของ โอทิส มิลเบิร์น เด็กหนุ่มไฮสคูล ที่ไร้ซึ่งประสบการณ์ทางเพศ แต่ด้วยความที่ จีน แม่ของเขานั้นเป็นนักบำบัดทางเพศชื่อดัง จนทำให้เขานั้นซึมซับข้อมูลเรื่องเพศเข้ามามากมายโดยไม่รู้ตัว จนทำให้วันหนึ่งเขาได้พบกับ อีก สาวสุดเปรี้ยวที่มีชื่อเสียในโรงเรียน จึงมาร่วมมือกันในการวางตัวเป็นที่ปรึกษาเรื่องเพศในโรงเรียนของเขา จนเกิดเรื่องวุ่นๆ ตามมา ทำให้เขาคิดว่าบางทีตัวเขาเองก็เป็นคนที่มีปัญหาเรื่องเพศอยู่ไม่น้อยเลย
วันนี้ #โกดังหนัง จึงอยากหยิบเอาข้อคิดที่น่าเรียนรู้ตั้งแต่ที่ยังเป็นวัยรุ่น (เพราะตอนนี้อาจจะเลยวัยรุ่นกันมาแล้ว TwT) จาก #SexEducation มาดูกันว่า มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
มีเพื่อนแท้ ต้องดูแลให้ดี
นอกจากเรื่องรักๆ เซ็กส์ๆ ระหว่างกันในโรงเรียนแล้ว เรื่องของมิตรภาพตัวละครในเรื่องเองก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน โดยเฉพาะคู่ของ โอทิส และ เอริค ที่ทำให้เห็นว่าเพื่อนผู้ชาย 2 ก็สามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้ แม้ว่า เอริค จะเป็นเกย์ แต่ก็มองโอทิสเป็นแบบเพื่อนจริงๆ และไม่มีท่าทีอะไรที่เกินกว่านั้น อีกทั้งยังสนิทกันถึงระดับที่พูดถึงเรื่องนี่น่าชวนอึดอัดกันอย่างปัญหาเรื่องเพศของตัวเองได้ นอกจากนี้ในช่วงหลังๆ เราก็ยังความสัมพันธ์แบบแก๊งสาวๆ กันบ้าง ก็จะเห็นได้ว่าการที่จะมีเพื่อนแท้สักคนนั้น ต้องอาศัยความเข้าใจกันพอสมควรเลย ซึ่งเมื่อมาแล้วก็ต้องดูแลกันให้ดี เหมือนอย่างตัวละครเรื่อง ที่ยกให้เพื่อนมาก่อนเสมอ
การปฏิเสธบ้าง ไม่ใช่เรื่องที่ผิด
ในช่วงชีวิตของวัยรุ่นอาจเป็นช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตให้สุดของใครหลายๆ คน อะไรที่เพื่อนพร้อมลุย เราก็ตามกันไปจนหมด จนการ Say Yes แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น การปฏิเสธ หรือ Say No มาก ก็นับเป็นอีกสิ่งที่จำเป็นในชีวิตเหมือนกัน เมื่อสิ่งเหล่านั้นมันไม่ถูกต้องหรือทำให้เราไม่สบายใจ ซึ่งการปฏิเสธนี้ไม่เพียงแค่พูดถึงการคล้อยตามเพื่อนๆ เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเรื่อง Consent หรือการยินยอมในการมีเพศสัมพันธ์ด้วย เมื่อมีใครคนหนึ่งไม่พร้อมในความสัมพันธ์ หรือไม่ได้อยากจะมีเซ็กส์ หรือเซ็กส์ที่ไม่ได้ป้องกัน ก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธได้เช่นกัน โดยที่อีกฝ่ายก็ต้องเคารพในส่วนนั้นด้วย
เข้าใจเรื่องเพศของตัวเอง
จะเห็นได้ว่าในเรื่องนั้นมีตัวละครที่มีเพศหลากหลายมาก ทั้งชาย ทั้งหญิง และ LGBT ซึ่งในช่วงเริ่มนั้น เราจะเห็นตัวละครที่ไม่แน่ใจเพศตัวเองอย่าง อดัม ที่ทุกข์ทรมานกับการยอมรับเพศตัวเอง เขาจึงค่อยๆ เรียนรู้ความต้องการ และเพศของตัวเองผ่านการเรียนรู้ต่างๆ จนสามารถเข้าใจได้ว่าตัวเองนั้นต้องการอะไรจริงๆ เพราะในเรื่องก็บอกไว้ชัดเจนว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องที่ลื่นไหล และทุกคนจะเป็นอะไรจะชอบอะไรก็ได้ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องเพศเท่านั้น แต่ละตัวละครยังพยายามที่จะเข้าใจรสนิยมทางเพศของตัวเองด้วย เพราะแต่ละคนมีความชอบที่ไม่เหมือนกัน สิ่งที่เหมาะสมคือการบอกคู่ของตัวเองถือความชอบในส่วนนั้นแล้วก็ปรับกันไป เพื่อให้พอใจได้ทั้งสองฝ่าย
พ่อ กับ แม่ ก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง
สิ่งที่เห็นได้ชัดในเรื่องก็คือ ซีรี่ส์ไม่ได้ทำให้พ่อ แม่เป็นคนที่ลูกต้องเชื่อฟังในทุกๆ เรื่อง เพราะในหลายๆ เรื่องนั้น เราก็จะเห็นว่า แม่ของโอทิส ก็ตัดสินใจอะไรผิด และไม่เข้าใจลูกได้เหมือนกัน ยกตัวอย่างที่แม่ของเขา เลือกที่จะมีความสัมพันธ์กับพ่อของ โอลา ทั้งที่ลูกตัวเองกำลังคบกันอยู่ หรือแม้แต่ตอนปันใจกลับมาหาสามีเก่า ก็ดูเป็นการตัดสินใจที่ทำตามใจตัวเองในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเช่นกัน ดังนั้นหากเกิดปัญหาใดๆ ก็ตาม กับครอบครัวแล้ว การเลือกที่จะคุยด้วยเหตุและผล มากกว่าที่จะเชื่อว่าพ่อ แม่คือคนที่ถูกเสมอ
การสอนตัวเอง คือการเรียนรู้ที่ดีที่สุด
ต่อให้ชีวิตติดตาม Life Coach ที่ดีขนาดไหน ก็ไม่มีใครที่จะเข้าใจเราเท่ากับตัวเราเองอีกแล้ว เพราะสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้ดีที่สุดก็คือประสบการณ์ของตัวเอง หรือจากสิ่งที่ผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น เพื่อนำมาปรับใช้ไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก หรือปรับให้ชีวิตมันดีขึ้น เหมือนอย่างที่ตัวละครหลายๆ ตัวได้ทำ ที่แม้ว่าจะมีการช่วยเหลือจากเพื่อนๆ บ้าง หรือพ่อ แม่บ้าง แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องก้าวข้ามผ่านในทุกปัญหา และเติบโตขึ้นได้ด้วยตัวเองทั้งนั้น
ความ Virgin เสียเมื่อพร้อม ไม่ใช่เสียตามเทรนด์
ในขณะที่หนังวัยรุ่นเรื่องอื่นๆ ที่ออกมานั้น มักเล่นเรื่องของความพยายามของตัวละครที่จะมีเพศสัมพันธ์ให้ได้ก่อนจบมอปลาย จนกลายเป็นเหมือนค่านิยมไปแล้วว่าทุกคนต้องรีบเสียความ Virgin ให้ได้ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยจึงจะดูเจ๋ง และดูเท่ แต่ในเรื่องนี้ดันกลับด้านค่านิยมเสียใหม่ ที่จะบอกกับคนดูว่าของแบบนี้ไม่จำเป็นต้องรีบเลย แต่อยู่ที่ความพร้อม และการยอมรับกันของทั้งสองฝ่ายมากกว่า หากทั้งคู่ต่างพร้อมและมีอุปกรณ์ป้องกันเรียบร้อยแล้ว ก็แล้วแต่ทั้งสองฝ่ายได้เลย
การคุกคามทางเพศ ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม
ช่วงหนึ่งของ Season 2 นั้น ตัวละครอย่างเอมีได้ประสบกับปัญหาการโดนคุกคามทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง กับชายที่ช่วยตัวเองใส่เธอบนรถเมล์ ท่ามกลางผู้คนบนรถที่ต่างไม่ได้สนใจปัญหาที่เกิดขึ้น จริงๆ แล้วแม้กระทั่งตัวเธอเองในตอนแรกก็ยังมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ได้กระทบอะไร แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปมันกลับกระทบกับสภาพจิตใจเธอเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเพราะในการคุกคามทางเพศนั้นไม่ว่าจะเล็กน้อย หรือแค่ไหนก็ตาม ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามจริงๆ และทุกคนที่มีส่วนรู้เห็นตรงนั้น ก็ควรช่วยกันสร้างสังคมที่ไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น
ปัญหาที่แก้ไม่ได้ ก็อย่าแก้คนเดียว
ต่อเนื่องมาจากข้อของการมีเพื่อนที่ดีนั้น เพื่อนที่ดีจะไม่ได้อยู่กับเราแค่ยามสุขเท่านั้น แต่ในยามที่มีปัญหาหรือยามที่เป็นทุกข์นั้น เราสามารถร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนของเราได้เสมอ โดยเฉพาะปัญหาที่เราแก้เองไมไ่ด้ เพราะในหลายๆ ครั้ง เพื่อนก็อาจจะมีมุมมองที่เราอาจะคิดไม่ถึง หรือมีบางอย่างที่ช่วยได้ ซึ่งก็จะดีกว่าการจมอยู่กับปัญหาคนเดียวโดยที่แก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย แต่ทั้งนี้เมื่อได้รับความช่วยเหลือมาแล้ว ต่อจากนี้ก็อย่าลืมช่วยเหลือเพื่อนในเวลาที่มีปัญหากันด้วย