เรื่องย่อ

มัลคอล์ม โครว์ จิตแพทย์เด็กชื่อดังที่เพิ่งได้รางวัลกลับมา จึงตั้งใจที่จะฉลองกับภรรยาที่บ้าน แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ วินเซนต์ คนร้ายที่เป็นคนไข้ของตัวเองบุกรุกเข้ามาบ้าน จนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ หลังจากเหตุการณ์นั้น 1 ปี เขาได้พบกับ โคล เซียร์ คนไข้เด็กที่ทำให้เขากลับมานึกถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับวินเซนต์อีกครั้ง เขาจึงมีความตั้งใจที่จะช่วยรักษาโคลให้ได้ แต่เมื่อยิ่งเขารู้จักโคลมากเท่าไร เข้ากลับสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาดจากเด็กคนนี้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Sixth Sense นั้น หลายคนอาจจะคิดว่าคงเป็นหนังที่เหมาะกับคอหนังสยองขวัญ แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่ใช่เลย เพราะจริงๆ หนังเรื่องนี้เน้นไปทางดราม่า และการค่อยๆ กะเทาะเปลือกจิตใจของตัวละครมากกว่า แค่มันมีในส่วนของสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติเข้ามาประกอบเท่านั้นเอง ซึ่งก็มีไม่ค่อยเยอะเท่าไร อีกทั้งตัวผีก็ไม่ค่อยน่ากลัว ถึงจะกลัวผีก็สามารถดูได้ และอาจจะชอบด้วย ดังนั้น ถ้าคุณชอบหนังสไตล์ The Others หรือหนังของ M. Night อย่าง Unbreakable, Signs หรือ The Village แล้ว เรื่องนี้จะเป็น Masterpiece เลย

• สายหนังหักมุม
• สายหนังสยองขวัญ

รีวิว / สรุปเนื้อหา

งานระดับ Masterpiece ของผู้กำกับเชื้อสาย India ที่มีชื่อว่า M. Night Shyamalan (แต่งานช่วงหลังๆ แผ่วลงมาเยอะ) ที่ทำเอาคนเกือบทั้งโลกเหวอมาแล้วในตอนที่มันออกฉาย ซึ่งจุดเด่นของหนังเลยจริงๆ แล้วมันไม่ใช่หนังสยองขวัญเลย และออกจะเป็นในแนวดราม่า ลึกลับเสียมากกว่า เพราะกว่าตัวหนังจะเริ่มเข้าเรื่องก็ปูตัวละครกันมายาวนานแล้ว แต่มันค่อยๆ เล่นกับความรู้สึกอยากรู้ของคนดูมากกว่า ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วเมื่อคนดูกำลังตามอย่างเพลินๆ เพื่อรอลุ้นถึงบทสรุป จนแทบไม่ได้สังเกตอะไรมากเท่าไร หนังก็ซัดหมัดน็อคมาเข้าหน้า ให้ร้อง WTF กันได้เลยทีเดียว 

ในส่วนของหมัดน็อคนี่แหละที่ทำให้หนังถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะในสมัยในนั้นยังไม่ได้มี Social Media ที่แพร่หลาย จนทำให้ความลับของหนังก็ถูกเก็บงำมาได้มากกว่าปกติ ส่งผลให้หลายคนที่เข้าไปดูก็มักจะออกมาด้วยอาการเมาหมัดไปตามๆ กัน ซึ่งต้องชมตัวบทของ M. Night เองด้วยที่ทำออกมาได้ดีมากๆ เพราะต่อให้เรากลับไปดูอีกครั้งโดยที่รู้เรื่องราวอยู่แล้ว ก็จะพบว่าหนังมันเนียนกริบจริงๆ และแทบจะไม่มีอะไรหลุดให้จับผิดเลย 

ทำให้ถ้าใครมาดูหนังเรื่องนี้ยุคนี้ก็อาจจะไม่แปลกใจ ถ้าจะเดาทางอะไรกันได้ เพราะมีหนังมากมายที่ทำแนวนี้ออกแล้ว  แต่ทั้งนี้ทั้งนี้ ด้วยบทที่ทำออกมาได้สนุก ที่การพัฒนาการของตัวละครที่ซับซ้อน ประกอบกับการแสดงของ Haley Joel Osment ในตอนเป็นเด็กที่แสดงออกถึงความกลัวจนน่าเห็นใจแล้ว และค่อยๆ เสพรายละเอียดที่หนังค่อยๆ โยนมาบอกใบ้เรารายทาง โดยที่เราอาจไม่ได้สังเกตเห็นในครั้งแรก แม้ว่าหนังจะไม่ได้น่ากลัวแบบสุดติ่ง แต่ด้วยจุดจบที่ชวนช็อค ก็นับว่าภาพรวมของหนังมันยอดเยี่ยมมากๆ เลยทีเดียว