The Tomorrow War (2021)
เดอะ ทูมอร์โรว์ วอร์
คะแนน
โกดังหนัง
หนังสนุกมากๆสาดกระสุนจัดหนักด้วยฉากแอ็คชั่นเต็มที่ CG งดงามมาก แฟนหนังบู๊หรือแนวไซไฟเอเลียนควรหามาดู ไม่ผิดหวังแน่นอน
คำคมจากภาพยนตร์
"I'm not a hero. I was trying to save my daughter. If i got to save the world to save her, Then I'm damn sure gonna do it." "ผมไม่ใช่ฮีโร่ ผมยายามจะช่วยลูกสาวของผม ถ้าผมต้องกอบกู้โลกเพื่อช่วยเธอ ผมก็จะทำ"
เรื่องย่อ
ทหารในอนาคตเดินทางข้ามเวลามาจากปี 2051 เพื่อบอกข้อความเร่งด่วน อนาคตในอีก 30 ปี มนุษยชาติกำลังจะพ่ายแพ้สงครามในการสู้กับเอเลี่ยน จนประชากรบนโลกเหลือเพียงแค่ 5 แสนคนความหวังเดียวในการรอดชีวิตคือการส่งทหารและพลเรือนไปอนาคตเพื่อร่วมต่อสู้ ตัวเอก แดน ฟอเรสเตอร์ อดีตทหารผ่านศึกจากอิรักถูกเกณฑ์เข้าร่วมรบในศึกแห่งอนาคต
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ The Tomorrow War เป็นหนังอีกเรื่องสำหรับคนที่ชอบหนังสงครามระหว่างมนุษย์กับต่างดาว ที่มีสไตล์ใกล้เคียงและคล้ายคลึงกับ Edge of Tomorrow หนังไม่ได้มีความแปลกใหม่ เน้นเอาความมันส์ใส่ฉากแอ็คชั่นที่ตัวละครจับมือปืนไล่ยิ่งเอเลี่ยนที่ดุร้ายน่ากลัวไล่ฆ่าคนไม่เลือกที่ หนังจัดเต็ม CGI เล่นใหญ่ตูมตาม เหมาะกับคนที่่ชอบความสนุกแบบดุเดือดเลือดพล่าน
- สายหนังแอ็คชั่นไซไฟ
- สายหนังสงครามต่างดาว
รีวิว / สรุปเนื้อหา
พอได้ดูแล้วรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้สนุกกว่าที่เราคาดหวังเอาไว้เลยละ และเสียดายมากที่หนังไม่ได้ถูกฉายในโรง เพราะสเกลหนังไซไฟเอเลี่ยนถล่มโลกดูยังไงก็ตอบโจทย์คนดูที่รักการเสพหนังแอ็คชั่นระเบิดตูบตาม CG เยอะๆได้แน่ เนื้อหามีความคล้ายๆ Edge of Tomorrow และ Starship Troopers ภาคแรก คือเปลี่ยนเนื้อหาทหารจากโลกอนาคตมาขอความช่วยเหลือคนในยุคปัจจุบันเพื่อไปรบหยุดยั้งภัยร้าย พล็อตเรื่องช่วงแรกน่าเบื่อไปซะหน่อย เพราะปูเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวพระเอก ที่มีลูกสาวครอบครัวและพ่อของเขา หลังจากนั้นเนื้อหาก็สาดความมันส์แบบไม่หยุดหย่อนทันที คนมากมายถูกเกณฑ์นำไปฝึกฝนจับอาวุธจับปืนต่อสู้กับฝูงเอเลียนที่ดุร้ายน่ากลัวมาก เห็นแล้วสะดุ้งเลย
สิ่งหนึ่งที่รู้สึกตลกคือ กองทัพจากโลกอนาคตมาขอให้คนธรรมดาในยุคปัจจุบันไปช่วยรบ ที่ทักษะความสามารภไม่มีเลยฝึกมาไม่เท่าไหร่ แต่กลับมาขอให้คนเหล่านั้นช่วยเหลืออ้างว่าทำเพื่อลูกหลาน อ้าวแล้วทำไมไม่ไปรบเองละ โลกอนาคตมันดูสิ้นหวังเอเลียนบุกจนไม่มีทหารไปต่อกรแล้วจริงๆ สุดท้ายหนังก็แอบซุกซ่อนเบื้องหลังที่แท้จริงเอาไว้ เราอยากให้ไปค้นหาคำตอบตรงนี้โดยตัวเอง เพราะเห็นแล้วก็รู้สึกสะเทือนใจมากเหมือนกันนะ ที่มาหลอกใช้คนธรรมดาไปสู้กันเอเลียนฝูงนรกแบบนั้น พล็อตหนังบางมุมไม่ได้มีความแปลกใหม่ อาศัยการต่อสู้คนกับเอเลียนกลุ่มใหญ่ ที่สาดกระสุนกันได้เมามันส์มาก ลุ้นต่อเนื่องกันขนาดลืมหายใจได้เลย คนที่ชอบหนังบู๊ดูไม่ซับซ้อนยิงๆๆอย่างเดียวคงจะชอบได้ไม่ยาก เพราะทุกๆฉากออกแบบมาดีคุ้มค่ากับสเกลหนังที่ใหญ่แบบนี้
ประเด็นดราม่าตัวละครที่เป็นประเด็นรองที่ไม่ใช่ฉากแอ็คชั่น ถ้าสังเกตุดีๆหลายๆจุดค่อนข้างอธิบายได้เคลียร์ ว่าทำไมทหารต้องมาขอคนช่วยเหลือ และประเด็นการหยุดยั้งสงครามของพระเอกรู้สึกว่าหนังทำได้แบบไม่มีอะไรที่คนดูสงสัยหรือติดค้างเลยสักนิด เราว่า Chris Pratt แบกพลังการแสดงได้เยอะมาก ทั้งในฉากแอ็คชั่นที่สู้หยิบตา วิ่งหนี ช่วยเหลือผู้คนในหนัง คือแบบได้เห็นซีนเท่ห์ๆของเขามากมายเลยละ โดยเฉพาะช่วงท้ายนี่แหละไคลแม้กซ์เลย พอเขาเล่นดีช่วยทำให้นักแสดงคนอื่นๆ เช่น Yvonne Strahovski, J. K. Simmons ต่อยอดได้สบาย
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- หนังเตรียมสร้างภาค 2 เอาไว้แล้ว หลัง Amazon พอใจกับฟีดแบ็คของหนังเรื่องนี้และยอดการสมัครเพื่อดูคอนเทนต์เรื่องนี้สูงขึ้น
- Paramount จำใจต้องขายสิทธิ์หนังเรื่องนี้ หลังไร้วี่แววจะได้ฉายโรงในปี 2020
- ทุนสร้างของหนังสูงถึง $200 ล้านเหรียญ