เรื่องย่อ

บิล ฮาร์ดิ้ง นักรายงานพยากรณ์อากาศที่กลับมาในเมืองที่ตัวเองคุ้นเคยอีกครั้ง เพื่อ โจ ฮาร์ดิ้ง อดีตภรรยาที่เป็นนักล่าพายุ จัดการเซ็นเรื่องใบหย่าให้ ซึ่งในวันนั้นได้เกิดเหตุการณ์พายุครั้งใหญ่เข้ามาพอดี ประกอบกับ โจและทีมงานนั้นต้องการที่จะตัวเซ็นเซอร์โดโรธีไปไว้ในใจกลางทอร์นาโด เพื่อศึกษาพฤติกรรมของลักษณะพายุและสามารถแจ้งเตือนผู้คนให้หลบหนีหรือลีี้ภัยได้รวดเร็วทันท่วงทีมากขึ้น จนทำให้ บิล และแฟนใหม่ของเขาจึงต้องติดตามโจไปร่วมทำภารกิจเสี่ยงตายนี้ไปด้วยกัน

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Twister นั้น เป็นอีกหนึ่งหนังภัยพิบัติที่คลาสสิคมากๆ ด้วยการรวมดาวของทีมสร้างและดาราในยุคนั้นที่มารวมตัวกัน ประกอบกับการกับเล่นใหญ่ของมหันตภัยธรรมชาติอย่างพายุที่ไม่ค่อยเห็นมาก่อน เลยทำให้หนังออกมาดูสนุกและเพลินมาก ไปกับการไล่ล่าพายุ รวมไปถึงการเอาชีวิตรอดจากพายุในเรื่อง หลายมุมของหนังดูแปลกตามาก อย่างการถ่ายทำจุดที่เป็นใจกลางของพายุ รวมถึงฉากจำอย่างวัวบิน อะไรแบบนี้ แต่ต้องอย่าลืมว่าสุดท้ายหนังก็ได้รางวัลราซซี่มาครองด้วยบทที่ยับเยินของมัน จนทำให้หากใครที่ใส่ใจในบทหนังมากๆ อาจจะหงุดหงิดกันอยู่พอตัว แต่หากใครที่ชอบหนังพายุถล่มอย่างไม่ต้องคิดมากแบบ Into the Storm แล้ว นี่คือหนังพายุคลาสสิคอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด

• สายหนังระทึกขวัญภัยธรรมชาติ
• สายหนังเอาชีวิตรอดภัยพิบัติ
• สายหนังแอคชั่นพายุเข้า

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หลังจากที่ผู้กำกับ Jan de Bont นั้นเพิ่งประสบความสำเร็จในฐานะผู้กำกับจากเรื่อง Speed คราวนี้เขาก็หันมาจับในสิ่งที่เร็วกว่าและแรงกว่า อย่างพายุทอร์นาโดในเรื่องนั่นเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก เพราะเรียกได้ว่ามันเป็นหนังรวมดาว ที่มีผู้กำกับที่หนังที่ปังมาก่อน แถมได้พ่อมดแห่งวงการ Hollywood อย่าง Steven Spielberg มาเป็น Producer ให้ อีกทั้งยัง Michael Crichton ที่เป็นเทพแห่งนิยายไซไฟมาเขียนบท พร้อมทั้งทุนสร้างกว่า 92 ล้าน แต่หนังกลับถูกนักวิจารณ์สับยับ จนได้รางวัลราซซี่มาครอง ซึ่งมันก็คงไม่ได้เลวร้ายนักเมื่อพิจารณาถึงรายได้ทั่วโลกที่ $494 ล้านเลย

ส่วนนึงคงเป็นเพราะบทหนังที่ห่วยและดูไม่มีอะไรกับเรื่องของรักสามเส้าที่วนเวียนอยู่ในเรื่องนี้ แถมในด้านความสัมพันธ์ของตัวละครนั้น ก็เรียกได้ว่าไม่มีอะไรที่น่าดึงดูดหรือน่าสนใจเท่าไรนัก จนทำให้ความสนใจของคนดูจึงถูกบีบบังคับให้ไปลงที่การร่วมลุ้นไปกับชะตากรรมของตัวละครท่ามกลางพายุขนาดมหึมาเพียงอย่างเดียว แต่สำหรับส่วนตัวแล้วกลับยังรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของ บิล กับ โจ ยังออกมาเป็นอะไรที่ดูสนุก ในนิสัยของตัวละครนั้นก็มีเรื่องราวมารองรับ อย่างโจที่สูญเสียพ่อไปในพายุที่รุนแรง เลยทำให้เธอนั้นทุ่มเททั้งชีวิตและจิตใจให้กับงานตามล่าพายุมากกว่าสิ่งอื่นใด อีกทั้งยังมีความเป็นสาวแกร่งไม่ต่างจาก Sandra Bullock อย่างในหนัง Speed เรื่องก่อนหน้าของผู้กำกับเลย

ในส่วนของฉากพายุนั้นก็เป็นสิ่งที่ชดเชยความสนุกของหนังได้อย่างดี ทั้งจังหวะการไล่ล่าพายุทอร์นาโดก็ทำออกมาได้อย่างตื่นเต้น และเป็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็สร้างความตื่นตาตื่นใจอย่างมาก เพื่อเห็นบรรดาของตัวละครที่ต้องออกผจญภัยท่ามกลางพายุแบบนี้ อีกทั้งในส่วนของ Sound ประกอบก็ทำออกมาในแน่นดีมาก เสียงลมเสียงพายุก็จัดเต็มมากๆ ซึ่งจริงๆ ในส่วนของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในหนังก็ดูมีข้อมูลมารองรับค่อนข้างดี จนทำให้ถึงหนังจะบกพร้องด้านบทไปบ้าง แต่ในแง่ความบันเทิงความสนุกนั้น ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับเวลาเลยทีเดียว