Scream 4 (2011)

หวีด...แหกกฏ

Scream 4 Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

การกลับมาของหนังสายหวีดที่รัก ที่ขนมาทั้งตัวละครหน้าใหม่และหน้าเก่า สู่เรื่องราวการไล่เชือดสุดโหด ที่ยังคงเอกลักษณ์ และความคลาสสิคเอาไว้ทุกประการ

หมวดหมู่ : Horror Mystery
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Wes Craven
ความยาว : 1 ชั่วโมง 51 นาที
นักแสดงนำ : Neve Campbell, Courteney Cox, David Arquette

คำคมจากภาพยนตร์

“You forgot the first rule of remakel. Don't fuck with the original!”
“แกลืมนึกถึงกฏข้อแรกของการรีเมค นั่นคืออย่าพังต้นฉบับของเรื่อง!”

เรื่องย่อ

เล่าเรื่องราวต่อจากภาค 3 ที่ผ่านมา 10 ปี ซิดนี่ย์ เพรสคอตต์ ก็ได้กลับมายังเมืองวู๊ดส์โบโรอีกครั้งเพื่อทำการโปรโมทหนังสือที่เธอเขียน แต่กลับมาไม่ทันไรก็เกิดเหตุฆาตกรรมวัยรุ่นในเมืองขึ้นอีกครั้ง โดยมีเธอที่จะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป จนทำให้นายตำรวจ ดิวอี้ และนักข่าว เกล เวอธอร์ส ต้องร่วมมือกันตามหาฆาตกรสวมหน้ากากโกสต์เฟสกันอีกครั้ง ก่อนที่จะมีผู้เคราะห์ร้ายเพิ่มขึ้นอีกในเมือง

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Scream 4 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นแฟนหนัง Scream มาตั้งแต่เริ่ม หรือหากนับจริงๆ ก็คือตั้งแต่ภาคหนึ่งที่ปี 1996 ที่หากใครชอบหนังแนว Slasher หรือไล่เชือดมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หรือต้องการหาความแปลกใหม่จากหนังแนวนี้ นี่จะเป็นหนังชุดที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมากมาโดยตลอด แม้ว่าเรื่องราวมันจะชุลมุนวุ่นวาย และดูเหนือเหตุและผลไปบ้าง แต่หากมองในแง่ความบันเทิง เอาสะใจ ให้ชวนคิดถึงบรรยากาศเดิมๆ แล้วนั้น ก็เรียกได้ว่าหนังตอบโจทย์ให้กับเราได้เป็นอย่างดี ทำให้ใครที่ชอบหนัง Scream ภาคเดิมๆ มาอยู่แล้ว หรือหนังแนว Slasher ฆาตกรหน้ากาก อย่าง I know what you did last summer หรือ Halloween อะไรพวกนี้แล้ว รับรองเลยว่าเหมาะมากๆ

  • สายหนังสยองขวัญไล่เชือด
  • สายหนังฆาตกรโรคจิต
  • สายหนังไล่ฆ่าตลกร้าย

รีวิว / สรุปเนื้อหา

Scream นั้นนับเป็นอีกหนึ่งตำนานหนังแนว Slasher ของยุค 90s ท่ามกลางหนังไล่เชือดที่ทำกันออกมาเป็นสูตรสำเร็จแบบเดิมๆ ที่เหล่าวัยรุ่นมักเป็นเหยื่อ ของฆาตกรสุดโหดใส่หน้ากาก แต่ Scream กลับสร้างความโดดเด่นของตัวเอง โดยการทำตัวเป็นหนังสายรู้ทัน ที่คิดดูคิดทันมุขทุกอย่างที่มักเกิดในหนังประเภทนี้ อีกทั้งยังใส่การหักมุมฉีกกฏได้อย่างสนุกมาก จนกระทั่งการมาถึงของภาค 4 ที่ทิ้งห่างจากภาคก่อนมาถึง 11 ปีในเวลาจริง และห่าง 10 ปีในเรื่องราว ที่ยังไม่หมดมุขไปซะทีเดียว เพราะงวดนี้มันกลับมาพร้อมกับการรู้ทันหนังจำพวกรีเมคที่ออกมามากมายในช่วงที่ผ่านมาเช่นกัน

แต่ดูเหมือนผู้กำกับอย่าง Wes Craven ที่คร่ำหวอดมาในวงการหนังสยอง และเป็นผู้ให้กำเนิดหนังชุด Scream มาโดยตลอดนั้น จะเข้าใจระบบการรีเมค รีบู้ตเป็นอย่างดี และหยิบเอาสิ่งที่ควรจะเป็นมาใช้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการพยายามยึดโยงเรื่องราวให้เข้ากับภาคก่อนๆ ด้วยตัวละครอันเป็นที่รัก อีกทั้งยังใช้พล็อตเรื่องแบบเดิมที่คนชอบ แต่เติมสีสันในยุคใหม่เข้าไปด้วยตัวละครที่ใหม่ขึ้น มุขที่สดขึ้นให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป มันเลยทำให้ตัวหนังนั้นมีความสดใหม่ และการคารวะของเดิมไปในเวลาเดียวกันได้อย่างน่าชื่นชม จนทำให้คนที่ดู Scream มาโดยตลอดก็ต้องหลงรักภาคนี้ได้โดยไม่ยาก ในขณะที่แฟนๆ หน้าใหม่อาจจะรู้สึกอิหยังวะ ถ้าไม่ได้ดูภาคเก่าๆ มาก่อน 

ด้วยการดำเนินเรื่องที่ฉับไว และการยังคงเล่นกับหนังซ้อนหนังอย่าง Stab ก็นับว่าเป็นอะไรที่สร้างสีสันมากๆ สำหรับคอหนังชุดนี้ แม้ว่าหนังจะรู้ตัวอยู่แล้วว่าการหักมุมในยุคนี้ ต่อให้หักยังไงก็ไม่มีอะไรใหม่อีกต่อไปแล้ว ทำให้หนังจึงกลับมาเล่นกับเรื่องราวล้อขนบเดิมๆ ของหนังชุดตัวเองกันยังดีกว่า ซึ่งมันก็สร้างความตลกร้าย ชวนฮาให้กับหนังได้เป็นอย่างดี จนไปถึงการพาไปสู่บทสรุปที่อาจจะเดาไม่ยาก แต่สาแก่ใจคอหนังชุดนี้ซะเหลือเกิน โดยเฉพาะการตราหน้าไปถึงกลุ่มคนทำหนังที่เอาหนังคลาสสิคหรือที่มีคนรักมารีเมคปู้ยี่ปู้ยำให้มันเลวร้ายกว่าเดิมว่า “Don’t fuck with the original.” กันได้แล้ว

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ เพราะ Scream 4 คือหนังเรื่องสุดท้ายที่ Wes Craven กำกับก่อนที่เขาจะเสียชีวิตเนื่องจากมะเร็งสมองในปี 2015 ในวัย 76 ปี
  • Scream คือหนังสยองขวัญชุดเดียวที่สามารถเอาตัวละครหลักทุกคนกลับมาได้ทุกภาค และได้ผู้กำกับเดิมมาโดยตลอดทั้ง 4 ภาคที่ผ่านมา