เรื่องย่อ

ธรรม์ ช่างภาพหนุ่มฝีมือดี กับ เจน แฟนสาวของเขา นั้น ขับรถชนหญิงสาวคนหนึ่งอย่างแรง จนทั้งคู่นั้นตัดสินใจขับรถหนีเพราะกลัวความผิด หลังจากเหตุการณ์นั้นพวกเขาต้องได้เจอกับเหตุการณ์ประหลาดที่ตามมา เมื่อเวลาธรรม์ ถ่ายภาพอะไรก็ตาม ก็มักมีเงาคล้ายใบหน้าผู้หญิงติดมาด้วยอยู่เสมอ จนทำให้พวกเขาเริ่มสืบหาความจริงว่าสุดท้ายแล้ว หญิงสาวที่อยู่ในภาพนั้นเป็นใครกันแน่ และต้องการอะไรจากพวกเขา

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ นั้น นับเป็นหนังผีสุดคลาสสิคอีกเรื่องของไทย ที่ในตอนฉายก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทะลุ 100 ล้านบาทไปแบบเต็มๆ อีกทั้งด้วยความสำเร็จบ้านตัวเอง ก็เลยได้รับความสนใจจากต่างประเทศทั้งจากฮอลลีวู้ดและอินเดีย ที่ขอซื้อเอาลิขสิทธิไปสร้างต่ออีก ซึ่งหากใครที่ชอบหนังผี หนังสยองขวัญอยู่แล้ว Shutter ก็คงเป็นอีกเรื่องที่ต้องเก็บไว้ใน List ต้องดูอีกเรื่องอยู่เหมือนกัน ใครที่ชอบหนังสยองไทยพล็อตดีๆ จากค่ายนี้อย่าง แฝด หรือ ลัดดาแลนด์ แล้ว ก็ควรเก็บเรื่องนี้เอาไว้อีกสักเรื่อง

• สายหนังผีสยองขวัญ
• สายหนังสยองขวัญไทย
• สายหนังผีพล็อตเรื่องดี

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณนั้น เรียกได้ว่าเป็นตำนานของหนังผีไทยอีกหนึ่งเรื่อง เพราะในยุคที่มีแต่หนังผีแบบที่เน้นผีแบบโจ่งแจ้ง เน้นแต่ฉาก Jump Scare ชวนตกอกตกใจ แต่มีน้อยเรื่องนักที่จะใส่เนื้อหาและเรื่องราวลงไป ให้เป็นตัวขับเคลื่อนในผีเรื่องนี้ ผลที่ได้มันเลยเป็นความสยองขวัญแบบเต็มที่ และมีความปริศนาในเรื่องที่ชวนติดตามเป็นอย่างมาก ด้วยไอเดียที่แปลกใหม่ ที่เรามักเคยได้ยินเรื่องภาพติดวิญญาณมาโดยเสมอในชีวิตจริง แต่หนังก็เอาข่าว หรือเรื่องเล่าเหล่านั้น เอามาประกอบให้เป็นเรื่องเป็นราวมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการใช้เทคนิคทำให้ภาพชวนหลอนได้สุดๆ 

ตัวหนังนั้นจริงๆ แล้วเน้นเป็นในเชิง Mystery หรือการสืบสวนเสียมากกว่า จากเรื่องราวทุกอย่างที่เริ่มในวันที่ตัวเอกทั้งคู่ขับรถชนหญิงสาวคนหนึ่ง เลยทำให้มีอะไรบางอย่างติดเข้ามาในรูป พวกเขาจึงเริ่มสืบสวนความจริงว่าคนในรูปนั้นเป็นใคร และต้องการอะไร ซึ่งหนังก็ใส่ความซับซ้อน สับขาหลอก คนดูอยู่ไปมา จนกระตุ้นความอยากรู้ของเรื่องได้อยู่ไม่น้อย ด้วยจังหวะการเล่าที่ค่อยๆ คลายปมมาทีละนิด แทรกผีเข้ามาในเรื่องอยู่ตลอด จนทำให้ในส่วนหลอนก็หลอน แต่อยากรู้ก็อยากรู้ เลยพร้อมที่จะติดตามไปจนจบเรื่อง และไม่มีจังหวะไหนของหนังที่รู้สึกว่าน่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย

ในส่วนของผีเองในเรื่องนั้น นอกจากจะเที่ยวปรากฏตัวตามรูปถ่ายแบบหลอนๆ แล้ว รวมถึงฉากในห้องล้างรูปสีแดงก็ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ดูน่ากลัวมากขึ้นไปอีก นักแสดงอย่าง อิม อชิตะ (ชื่อในตอนนั้น) ก็สวมบทผีได้สยองมาก ทุกครั้งที่ปรากฏตัวออกมาในแบบตัวเป็นๆ นั้น ล้วนสร้างความสยองได้ในระดับสุด (แม้ว่าการเอามาดูในยุคนี้จะไม่น่ากลัวเท่า เพราะเราติดภาพตลกของนักแสดงคนนี้ไปแล้วก็ตาม) เมื่อเรื่องดำเนินด้วยองค์ประกอบชั้นดีมาโดยตลอด และพอมาถึงตอนสุดท้ายที่เป็นการเฉลยเรื่องราวทั้งหมดออกมาแล้ว ก็เป็นอะไรที่ชวนว้าว และสร้างความน่าจดจำได้เป็นอย่างดีในฉากสุดท้าย จนทุกวันนี้หลายๆ คนก็ยังพูดถึง และหยิบมาแซวกันอยู่เรื่อยมา