A Quiet Place Part II (2021)

ดินแดนไร้เสียง 2

A Quiet Place Part II Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

นี่คือหนังที่ตอบโจทย์คนชอบความทริลเลอร์ระทึกขวัญ หรือชอบอะไรที่เกี่ยวกับสัตว์ประหลาด คือเนื้อหาออกแบบมาให้เราลุ้นระทึกในทุกๆฉากไปพร้อมกับตัวละคร บอกเลยสนุกมากรับรองไม่ผิดหวัง

หมวดหมู่ : Horror Thriller
สัญชาติ : American
กำกับโดย : John Krasinski
ความยาว : 1 ชั่วโมง 37 นาที
นักแสดงนำ : Emily Blunt, Cillian Murphy

คำคมจากภาพยนตร์

“The people that are left they’re not worth saving.”
“คนที่เหลืออยู่ไม่คุ้มที่จะรักษาไว้”

เรื่องย่อ

A Quiet Place Part II เล่าเรื่องราวต่อจากหนังภาคแรกแบบนาทีต่อนาที พาคนดูเดินทางไปกับครอบครัว Abbott ออกสำรวจดินแดนไร้เสียง หวังว่าจะมีใครสักคนในโลกภายนอกที่ยอดรอดชีวิตและพอจะช่วยเหลือครอบครัวของเธอได้ แต่สิ่งที่รอพวกเขาอยู่ข้างหน้ากลับเต็มไปด้วยความอันตรายที่พวกเขาไม่อาจหันหลังกลับได้อีกต่อไป

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ A Quiet Place 2 สานต่อความสนุกจากภาคแรกได้ยอดเยี่ยม โทนเรื่องคงจะเหมาะกับคนที่ชอบหนังสายระทึกขวัญชวนลุ้น หรือหนังประเภทสัตว์ประหลาดอะไรพวกนี้มากๆ เพราะหนังมีกิมมิคที่น่าสนใจนั่นก็คือ “ความเงียบ” ที่ถูกเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อยู่ตลอดทั้งเรื่อง จนคนดูเองก็อดลุ้นจนเงียบตามไม่ได้ และการสื่อสารด้วยความเงียบในหนังก็สร้างความอึดอัดกดดันได้เป็นอย่างดี ทำให้ใครที่ชอบหนังระทึกที่สร้างเงื่อนไข ห้ามส่งเสียง ห้ามมองเห็น ประมาณพวก Bird Box หรือ Don’t Breathe แล้ว นี่ก็จะเป็นอีกเรื่องที่จะมาบีบหัวใจของคนดูเลย

  • สายหนังระทึกขวัญสร้างเงื่อนไข
  • สายหนังเอาชีวิตรอดจากสัตว์ประหลาด
  • สายหนังสัตว์ประหลาด

รีวิว / สรุปเนื้อหา

เดิมทีเราไม่ใช่สาวกหนังแนวแบบนี้ แต่พอมาดูแล้ว มุมมองทางความคิดก็เปลี่ยนไปทันที ความเจ๋งของหนังเรื่องนี้คือการสร้างฉากเอาตัวรอดจากฝูงสัตว์ประหลาดที่ทำให้เราตื่นเต้นลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลา เนื้อหาสานต่อภาคแรกได้อย่างลงตัว คืออยากจะมีชีวิตรอดต้องเงียบอย่างเดียวไม่อย่างนั้นสัตว์ประหลาดจะดาหน้ามาไล่ฆ่าทันที ภาคนี้มีเยอะเต็มไปหมด สร้างสรรค์ CG ได้สวยงาม หนังมีพัฒนาการจากภาคแรกตรงที่ว่าโฟกัสตัวละครเป็นหลัก เราได้เห็นการที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดของครอบครัว Abbott แบบเรียงไปเลยทีละคน พวกเขาต้องนิ่งและเงียบสงบมากที่สุดเพื่อเดินหน้าหาที่อยู่ที่ปลอดภัย และต้องระวังระวังสัตว์ประหลาดในทุกฝีก้าวเลยทำให้เราได้เห็นอะไรที่ต่างไปจากเดิม

บทหนังทำให้เราสนุกโดยที่ไม่ต้องไปพยายามบิ้วอัพอะไร ปล่อยให้แวดล้อมที่ตัวละครเผชิญหน้าอยู่ตรงหน้า จะแก้ปัญหายังไงก็หลบซ่อนตัวยังไง ตัวละครใหม่ที่ได้ Cilian Murphy เข้ามามีอิมแพ็คต่อ ครอบครัว Abbott นิ่งสุขุมเยือกเย็น เหมือนมาทดแทนหัวหน้าครอบครัวนี้ยังไงยังนั้น หนังทำให้เราได้สำรวจพื้นที่ใหม่ๆ เห็นกลุ่มคนที่เอาตัวรอดมีชีวิตอยู่มีทั้งดีและร้าย หนังเลยให้อารมณ์แบบน่าติดตาม เพราะแวดล้อมใหม่ๆเลยทำให้เห็นทัศนคติคนที่อยู่รอดที่มีทั้งความเห็นแก่ตัว เห็นใจเพื่อนมนุษย์ มีอยู่ฉาก 1 ที่เราชอบมากตัวละครหลักกำลังจะโดนฆ่าแต่เขากลับงัดสกิลเอาตัวรอดออกมาได้ โดยใช้พลังเสียงมาเล่นงาน

สิ่งสุดท้ายที่อยากชื่นชมคือการวางเฟรมภาพยอดเยี่ยมการคัทในแต่ละซีนลุ้นระทึกดี ทำให้เราสติแตกกระเจิงไม่แพ้ตัวละคร เราก็ร้องและเงียบตามไปด้วย คือยอมรับว่าบรรยากาศหนังตั้งแต่เปิดเรื่องจนถึงฉากสุดท้ายลุ้นมาก ทุกอย่างเชื่อมโยงกันไปหมด เครดิตส่วนใหญ่ต้องยกให้ John Krasinski ผู้กำกับ ผู้เขียนบท และผู้แสดงเป็นพ่อผู้ล่วงลับของครอบครัว สามารถเล่าเรื่องได้อย่างชาญฉลาด สนุก ตื่นเต้น และน่าติดตาม การเล่าเรื่องตัดสลับออกมามีชั้นเชิง และมันจะยอดเยี่ยมมากหากคุณตีตั๋วไปดูในโรง

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • หนังใช้เวลาถ่ายทำไปเพียงแค่ 47 วัน
  • John Krasinski ใช้เวลาเขียนบทหนัง 3 สัปดาห์ครึ่ง