Wind River (2017)
ล่าเดือด เลือดเย็น
คะแนน
โกดังหนัง
งานสืบสวนสอบสวนที่ยอดเยี่ยม เล่าเรื่องสไตล์ Slow Life ไม่เวอร์เนื้อหาดาร์คๆ ประชดประชันความห่วยแตกระบอบอเมริกันชนได้เจ็บแสบ
คำคมจากภาพยนตร์
“Sometimes we have to accept and live with the pain.”
“บางครั้งเราก็ต้องยอมรับและทนอยู่กับความเจ็บปวดนั้นให้ได้”
เรื่องย่อ
Cory นายพรานป่าที่ต้องเผชิญกับเหตุฆาตกรรม เมื่อเขาได้พบกับศพของเด็กสาวชาวอเมริกันถูกฆาตกรรมอยู่ในเขตของชาวพื้นเมืองอินเดียแดง แต่เมื่อยิ่งสืบยิ่งพบกับปริศนาหลายอย่างที่ชวนสงสัย จนทำให้ทาง FBI ก็ส่งเจ้าหน้าที่อย่าง Janes เข้ามาเพื่อสืบคดีนี้ ซึ่งเมื่อทั้งคู่ได้เริ่มสืบกัน ก็ยิ่งถลำลึกสู่ความจริงบางอย่าง ที่อาจทำให้พวกเขาเอาชีวิตไม่รอด
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Wind River เป็นงานสืบสวนสอบสวนที่คอหนังแนวนี้ไม่ควรพลาด มาในสไตล์ระทึกขวัญที่ตีแผ่ด้านมืดของสังคม เนื้อหาอาจจะเล่าเรื่องช้าๆ แต่รายละเอียดระหว่างทางทำได้สนุกสนาน ลึกลับซับซ้อน วิพากย์วิจารณ์ระบบความยุติธรรมของอเมริกาที่ละเลยไร้ความเท่าเทียมแบบที่โฆษณากับผู้คนภายนอก ใส่ความเป็นหนังคาวบอย สลับซับซ้อนที่ยากจะเข้าใจ ผสมผสานกับการไขคดีหาตัวคนร้ายท่ามกลางบรรยากาศที่หนาวเย็น จนยากที่จะชี้ชัดได้เลยว่าใครเป็นคนร้าย นี่ยังไม่รวมถึงคนในพื้นที่ดูจะละเลยอีก จนต้องมีตำรวจหญิงที่ถูกส่งส่งตัวมาทำคดีนี้ บทหนังวางเนื้อหาได้ดีทั้งดาร์ดทั้งหดหู่ลุ้นระทึกน่าติดตามเป็นของดีที่ไม่อยากให้พลาด จังหวะการนำเสนอฉากแอ็คชั่นพาร์ทดราม่าเร้าอารมณ์มาก ความดีงามของบทหนังอยู่ที่การแสดงของ Jeremy Renner และ Elizabeth Olsen จริงๆ เป็นของดีที่ไม่อยากให้พลาด
- สายหนังระทึกขวัญ
- สายหนังสืบสวนสอบสวน
รีวิว / สรุปเนื้อหา
นี่คือหนังที่ดีมากๆเรื่องหนึ่งจากมันสมองของ Taylor Sheridan มือเขียนบทหนังอาชญากรรมเรื่องดังอย่าง Sicario ผู้ชายที่เติบโตมากับสภาพสังคมที่โหดร้ายชนบทในอเมริกา เขาเลยหยิบจับประเด็นและเล่าเรื่องได้ละเอียดอ่อน บรรยากาศดาร์คดำดิ่งสมจริงๆ บทหนังมีนัยยะแอบแฝงไว้มากมาย พาคนดูไปสัมผัสพื้นที่ที่ห่างไกลไม่ได้รับการเหลียวแลจากภาครัฐ แล้วก็ประชดประชันผ่านบทหนังของตัวเองที่แยบยล นุ่มลึกซับซ้อน ยากที่จะคาดเดาเนื้อหาจากภาคแรกไปจนถึงฉากสุดท้ายได้ พื้นที่ห่างไกลความเจริญเกิดคดีฆาตกรรมเด็กหญิงสาว ตำรวจท้องที่ไม่ใส่ใจทำงานไปวันๆไม่คิดอะไร เดือดร้อนทางการส่งตำรวจหญิงมาสืบหาความจริง ตลกร้ายที่หนังพูดถึงตำรวจหญิง ที่เวลามีปัญหาคดีไกลๆ จะถูกส่งตัวมาทำคดีมากกว่าผู้ชายอกสามศอก หนังทำให้เห็นภาพชัดๆว่า งานในเมืองคดีใหญ่เอาหน้า ตำรวจผู้ชายยศใหญ่เลือกทำ แต่งานที่อยู่ห่างไกลพื้นที่เจริญแถมอยู่ในเขตอินเดียนแดง ไม่มีใครอยากมาเหนื่อยกับอากาศที่หนาวเย็นหิมะตกแบบนี้ และคดีนี้ความหวังที่จะหาตัวคนร้ายก็ดูจะยากเย็นเหลือเกิน ตำรวจสาวเลือกจะทำและไม่ปล่อยผ่านไปและได้รับการช่วยเหลือจากพรานหนุ่มคนในท้องที่แทน
ตอนแรกนึกว่าหนังจะดูแบบสบายๆแต่บท และเนื้อหามันทำให้เราลุ้นอยู่ตลอดเวลา พอผ่านไปเรื่อยๆหนังค่อยๆสำรวจตัวละครแบบเจาะลึกลงไป ทำให้พบเห็นปัญหาากมายในเขตอินเดียนแดง มีหญิงสาวหายตัวไปเรื่อยๆไร้ร่องรอยไม่มีรายงานการเสียชีวิต กลายเป็นว่าพื้นที่นี้ถูกปกปิดปิดบังความจริง ตำรวจท้องที่ก็อยู่ไปวันๆ มันน่าสะเทือนใจที่หนังถ่ายทอดออกมาให้เห็นว่าคนบริสุทธ์ได้รับผลกระทบโดยไม่ได้รับความเป็นธรรมอะไรเลย พอหนังเจาะลึกลงไปเรื่อยๆทำให้เห็นว่าทำไมพื้นที่ห่างไกลความเจริญแบบนี้ถึงไม่มีใครสนใจ บทหนังพอคลี่คลายปมปัญหาจากการเรื่องร้อยเรียงได้ดีมากๆไปจนถึงตอนจบ และหนังก็พูดถึงกลุ่มคนอินเดียนแดงได้น่าสนใจว่าทำไมพวกเขาไม่อยากออกไปไหนทั้งที่รู้ว่าพื้นที่นี้อันตราย เพราะบางคนรักและคุ้นเคยกับบ้านเกิด และอีกมุมหนึ่งก็ทำให้รู้ว่าพวกเขาเองก็ไม่รู้จะไปที่ไหน เทคนิคการถ่ายทำของหนัง Slow Burn แต่ผู้กำกับ Taylor Sheridan ถ่ายทอดห้วงอารมณ์บรรยากาศหนังได้ชวนขนหัวลุก เพลงสกอร์ได้ซีนดราม่าที่ดีมาก โลเคชั่นที่ไปถ่ายในรัฐ Utah แทนที่จะไปสถานที่จริงอย่าง Wyoming ก็ปรับโลเคชั่นได้กลมเกลือนแบบไม่น่าเชื่อ ได้บรรยกาศอินเดียนแดงที่ดูห่างไกลความเจริญ ไร้แสงสีสถานบันเทิง เต็มไปด้วยป่าเขา กลุ่มคนที่อยู่อาศัยโดนดูถูกเหยียดยามจากคนเมืองอีกว่าเป็นคนเผ่าล้าหลังอีก ชื่นชมที่หนังหยิบประเด็นฆาตกรรมมาร้อยเรียงเรื่องราวได้น่าคิด น่าดูน่าติดตามมากๆ
การแสดงของ 2 ดาราหนังจาก Marvel ทำอกมาได้ลึกลับดี Elizabeth Olsen ตำรวจหญิงที่ถูกส่งตัวมาทำคดีที่ห่างไกลความเจริญ อาจเป็นผู้หญิงที่ดูอ่อนหัดคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อใจ แต่เพราะสภาพสังคมบีบบังคับทำให้เธอต้องเดินทางไกลมาทำคดีนี้ ชอบการต่อสู้ของเธอลำพังการเป็นผู้หญิงในสังคมตำรวจก็ไม่ได้รับโอกาสมากพออยู่แล้ว เข้าใจเลยว่าทำไมทีมงานเลือกจะว่าตัวละครผู้หญิงมาสืบหาความจริง เพื่อทำให้รู้ว่าผู้หญิงมีดีในการไขคดีไม่แพ้ผู้ชาย และโลกใบนี้ก็ควรเปิดโอกาสเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมในการทำงานให้มากกว่านี้ ความเด็ดเดี่ยวการต่อสู้เพื่อไขคดีของตัวละคร Jane คือสิ่งที่น่ายกย่องไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ ด้าน Jeremy Renner นายพรานป่าดูนิ่งๆไม่มีอะไรลีกลับ แต่กลับมีความเยือกเย็นมากๆ ชายที่ยิงปืนได้แม่นยำ เป็นคนมีปม และบทหนังก็เล่าเรื่อง Cory ได้น่าติดตามและค่อยชี้นำว่าทำไมตัวละครว่าทำไมเขาถึงเป็นคนแบบนี้เรียกว่าหนังใช้เวลาสืบไขคดีจนได้เข้าใจตัวตน Cory อย่างแท้จริง
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- หนังได้รับเสียงปรบมือยาวนาน 8 นาที จากเทศกาลหนังเมืองคานส์
- หนังใช้เวลาถ่ายทำเพียงแค่ 40 นาที
- นี่คือหนังเรื่องที่ 3 ที่ Elizabeth Olsen และ Jeremy Renner แสดงร่วมกัน
- หนังไปถ่ายที่ Utah แทนการไปรัฐ Wyoming