Man On Fire (2004)

คนจริงเผาแค้น

Man On Fire Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

งานแอ็คชั่นล้างแค้นที่บทหนังหลอกล่อคนดู กลายเป็นเรื่องราวสุดวุ่นวาย บอดี้การ์ดหนุ่มไม่เหลืออะไรในชีวิต ของทำดีกับเด็กสาวที่ตัวเองเรียกว่ามิตรแท้คนเดียว

หมวดหมู่ : Action Crime
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Tony Scott
ความยาว : 2 ชั่วโมง 26 นาที
นักแสดงนำ : Denzel Washington, Dakota Fanning, Christopher Walken

คำคมจากภาพยนตร์

“Forgiveness is between them and God. It's my job to arrange the meeting."
"การให้อภัยอยู่ที่พระเจ้าจะตัดสิน ผมมีหน้าที่พาไปเจอพระองค์"

เรื่องย่อ

จอห์น ครีซี่ อดีตเจ้าหน้าที่ มือสังหารซีไอเอไฟมอดผู้ทอดอาลัยกับชีวิต โดยที่ เรย์เบิร์น เพื่อนของครีซี่ ได้พาเขามายังเม็กซิโกซิตี้เพื่อทำหน้าที่คุ้มกันให้กับ ลูปิต้า รามอส ลูกสาววัยเก้าขวบของนักธุรกิจ แซมมวล รามอส และ ลิซ่า ภรรยาของเขา ครีซี่ไม่ได้สนใจกับการเป็นผู้คุ้มกัน โดยเฉพาะให้เด็ก แต่เห็นว่าไม่มีงานอย่างอื่นที่ดีไปกว่านั้น จึงตกลงรับหน้าที่นั้น ครีซี่แทบจะทนไม่ไหวกับเด็กแก่แดด ที่คอยตั้งคำถามน่ารำคาญเกี่ยวกับตัวเขาและชีวิตส่วนตัว แต่เธอก็ค่อย ๆ กะเทาะเปลือกนอกที่แข็งกระด้างของเขาจนกระทั่งเกราะป้องกันหลุดออก และเขาก็ยอมเปิดใจกับเธอ เป้าหมายใหม่ของชีวิตที่ครีซี่เพิ่งค้นพบ ต้องถูกสั่นคลอนเมื่อลูปิต้าถูกลักพาตัวไป โดยไม่คำนึงถึงบาดแผลสาหัสที่เขาได้รับในระหว่างการต่อสู้เพื่อขัดขวางลักพาตัว ครีซี่ได้กลายเป็น คนที่นั่งอยู่บนกองไฟ เมื่อเขาสาบานว่าจะฆ่าทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีผลประโยชน์จากการลักพาครั้งนี้ และไม่มีใครจะหยุดเขาได้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Man On Fire  เป็นหนังแอ็คชั่นล้างแค้นที่เข้าพวกแบบ John Wick เพียงแต่ว่าพล็อตเรื่องผสมผสานความเป็นหนังดราม่ามีปมที่ตัวละครสิ้นหวังในชีวิตสูญเสียทุกอย่าง บาดเจบเจียนตายเลยลุกขึ้นมาบดขยี้ไล่ล่าไล่ฆ่าทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวกับข้องกับการลักพาตัวเด็กสาวที่พระเอกรัก หนังอาจจะคล้ายๆกับ The Equalizer แต่เรื่องนี้จะเน้นประเด็นไปยังตัวละครเป็นหลัก เนื้อหาเลยเต็มไปด้วยเลยดาร์คบวกกับการตัดต่อที่ใส่ความกลิ่นอายแบบนัวร์ๆลงไป จนคนดูบางคนดูแล้วไม่เข้าใจ ทั้งที่ความจริงแล้วหนังดูง่ายมากเป็นงานล้างแค้นที่เดือดอีกเรื่องที่คนที่ชอบหนังสไตล์นี้ไม่ควรพลาด

  • สายหนังแอ็คชั่น Old School
  • สายหนังแอ็คชั่นมันส์ระห่ำ
  • สายหนังล่าล้างแค้น

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ถ้าจะบอกว่าหนังเรื่องนี้อยู่ในหมวดล้างแค้นแบบเดียวกับ John Wick ก็คงไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร และ Denzel Washington ก่อนเป็นนักฆ่าโฮมโปร เขาก็เป็นนักฆ่าล้างแค้นเด็ดหัวแก๊งมาเฟียเม็กซิกันมาก่อน เพียงแต่ว่าเรื่องนี้เข้าขั้นดาร์ค บรรยากาศหม่นหมองกดดัน มีความตรึงเครียด บทหนังมีความเป็นแอ็คชั่นดราม่า ชายหนุ่มที่ชีวิตไม่เคยผูกพันธ์กับเด็กมาก่อน แต่ต้องมารับงานนี้ เพราะไม่มีอะไรทำ บทหนังในช่วงแรกคือการพา 2 ตัวละครหลักมาพบเจอกัน มือสังหารหมดไฟหมดหวังในชีวิตกับเด็กสาววัย 9 ขวบที่กำลังเติบโตอยากรู้อยากเห็นช่างตั้งคำถาม ความไร้เดียงสาของเด็กที่มาถามโน่นถามนี่ให้กับมือสังหารที่มีสถานะเป็นคนขับรถรับส่งเด็กสาวไปโรงเรียนแทบทุกวัน อาชีพใหม่สิ่งใหม่ทำให้ได้เรียนรู้ได้เข้าใจชีวิต เปิดหมวดที่เย็นชาทำให้คนที่มีปมในใจมีมุมมองใหม่ๆ ใช่แล้วเด็กสาวแค่ 9 ขวบผลักดันทำให้สายลับไร้จุดหมายรู้ว่าชีวิตต้องการอะไร จากนั้นความมันส์ก็คืบคลานเข้ามา 2 ตัวละครที่กลายเป็นเพื่อนต่างวัย กลับเจอเหตุการณ์หลักพาตัว แน่นอนว่ามันเปิดบาดแผลทำให้สายลับคนนี้งัดสกิลออกมาไล่ล่าไล่ฆ่าทุกคนที่เกี่ยวกับการลักพาตัว ลูปิต้า

ค่อนข้างชอบบรรยากาศหนังที่เนรมิตรเม็กซิโก เมืองที่สุดแสนวุ่นวายเต็มไปด้วยความชั่วร้ายทุกรูปแบบ อาชญากรรมแฝงตัวไปพร้อมๆกันคนทั่วไป กลายเป็นสังเวียนห่ำหั่นกันแบบถึงพริกถึงขิง แต่สิ่งที่อดีตสายลับไม่รู้คือเบื้องลึกเบื้องหลังการที่เด็กสาวหายตัวไปมันมาจากคนที่เขาไม่คาดคิด การลักพาตัวในครั้งนี้ ทุกอย่างถูกจัดฉากเอาไว้ พอพระเอกได้ค้นพบความจริงมันช่างโหดร้ายกับเด็กสาวคนนี้ซะเหลือเกินที่แวดล้อมรอบข้างมันย่ำแย่ไปหมด  หนังไม่ได้เน้นโหดล้างแค้นเน้นเอามันส์เน้นสะใจแบบ John Wick แต่เนื้อหาจะเปิดพื้นที่ให้ Chris ได้สืบเสาะหาปมทุกอย่าง และฉากฆ่าคนร้ายบุกไปเล่นงานถึงที่แต่ละช็อตค่อนข้างโหดไล่บดขยี้จากโจรตัวเล็กลูกกระจอกไปจนถึงตัวใหญ่ตัวสังการ นี่ยังไม่รวมถึงมือมืดที่มองไม่เห็นที่มาเอี่ยวกับการลักพาตัวในครั้งนี้ กลายเป็นว่าความโหดความโกรธเลวของพระเอกไล่ล่าไล่ฆ่าทุกคนที่ขว้างหน้า  อารมณ์หนังจะเหมือนกัน  Leon The Professional 

แม้ว่าภาพรวมของหนังจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่หนังกลับถูกพูดถึงและจัดอยู่ในหมวดหนังล้างแค้นที่ควรค่าแก่การชมสักครั้ง การแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Denzel Washington จากความหมดอาลัยในชีวิตในช่วงแรกกราฟชีวิตค่อยๆพีคขึ้นเรื่อยๆ ชอบพาร์ทดราม่าในช่วงแรกผู้ชายเย็นชาแต่อ่อนไหวให้กับหนูน้อยอย่าง Dakota Fanning ที่แสดงได้น่ารัก ไม่แปลกใจที่ทั้งคู่ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกคนที่เป็นห่วงกันออกมาได้ดี ค่อนข้างชอบความโกรธของ Chris ที่เดินหน้าไล่ล่าทุกคนที่ขว้างหน้าขว้างทางมีส่วนร่วมกับการลักพาตัวในครั้งนี้แน่นอนว่าเขารักเด็กสาวคนนี้มากมันเต็มไปด้วยความห่วงใย ทำให้ 2 ตัวละครรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า การปูพาร์ทดราม่าดีมากๆ และเชื่อมต่อกับฉากแอ็คชั่นที่รุนแรงเลือดสาดได้สมเหตุสมผลแล้ว

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • บทหนังวางแผนจะไปถ่ายทำที่ Naples ที่อิตาลี แต่พอมีข่าวเด็กถูกลักพาตัวในเม็กซิโก เลยเปลี่ยนแผนไปถ่ายทำที่นั้นแทน
  • Denzel Washington, Dakota Fanning กลับมาเจอกันในรอบ 19 ปีใน The Equalizer 3