เรื่องย่อ

หนิง และ กวิน คู่สามี ภรรยาที่มีลูกสาววัย 7 ขวบ น้องอิง ตัดสินใจย้ายออกจากบ้านไปอาศัยอยู่คอนโด แล้วปล่อยบ้านให้คนแปลกหน้ามาเช่า โดยมีผู้เช่าชื่อ ราตรี คุณหมอวัยเกษียณ และนุช ลูกสาววัย 40 ปี หลังจากปล่อยบ้านให้เช่าได้ไม่นาน หนิงก็พบว่ากวินเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ดูมีความลับ ชอบหายตัวไปตอนตีสี่ แถมยังมีรอยสักเป็นเอกลักษณ์สามเหลี่ยม ซึ่งเป็นรอยสักแบบเดียวกันกับที่พวกคนเช่าบ้านมี ขณะที่กวินเริ่มแปลกไป หนิงก็เริ่มเห็นว่า มีอันตรายที่มองไม่เห็นตามมารังควานอิง หนิงจึงต้องทำทุกทางเพื่อปกป้องลูกสาวของเธอจากลัทธิประหลาดนี้ให้ได้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับบ้านเช่าบูชายัญ เป็นหนังสยองขวัญที่เหมาะกับคนจิตแข็งโดยเฉพาะโหยหาความระทึกขวัญในมุมมองที่แปลกใหม่ พล็อตเรื่องมีบทหนังที่ค่อนข้างจะรัดกุมถ้าพลาดเนื้อหาหลุดสปอยล์แน่นอน บทหนังดำเนินเรื่องที่เป็นไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้น หรือการถ่ายทำที่ช่วยคลายปมให้คนดูไปจนตอบทุกข้อสงสัยได้ในตอนจบ คอหนังสยองขวัญไทย เราคุ้นเคยกับหนังผีและหนังไสยศาสตร์ มากกว่าหนังลัทธิแบบหนังทางฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นประเด็นที่ไม่ถูกหยิบมาสร้างหรือพูดถึงเท่าไหร่ในบริบทไทย  ทำให้เราได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งความเชื่อและแรงศรัทธาที่ไม่เหมือนในหนังสยองขวัญไทยเรื่องไหนอย่าลืมเก็บรายละเอียดระหว่างทางไปด้วย เพราะหนังเรื่องนี้ลึกลับซ่อนเงื่อนไว้จนคาดไม่ถึง

• สายหนังสยองขวัญ
• สายหนังไทย
• สายหนังลุ้นระทึก

รีวิว / สรุปเนื้อหา

จากตัวอย่างหนึ่งที่ปล่อยออกมาในช่วงแรกไม่ได้น่าดูน่าเชิญชวนให้เข้าไปดูในโรง จนกระทั่งเราพบว่า จิม โสภณ มีไอเดียมีลูกเล่นที่กล้านำมาเล่าให้คนดูเข้าใจได้ไม่ยากที่มาในสไตล์หนังสืบสวนสอบสวน ท่ามกลางหนังสยองขวัญยุคใหม่ที่ไม่ได้เล่นประเด็นผีมาล้างแค้น ผีอาฆาต แต่เทรนด์ยุคใหม่จะเน้นบรรยากาศความสยดสยองแทน ผู้กำกับเลือกจะทำให้ธีมหนังเต็มไปด้วยเนื้อหาที่ชวนขนลุกผ่านตัวละครที่ดูมีลับลมคมในไม่มีอะไรน่าไว้วางใจผ่านตัวละครอย่างคุณราตรี หนังไม่ได้ดำเนินเรื่องรวดเร็วชวนน่าเบื่อ แต่พอดูไปเรื่อยๆ จิม โสภณ โยงใยเนื้อหาทุกอย่างได้แนบเนียนและคลี่คลายปมทุกอย่างที่ชวนเหวอ ซึ่งเป็นข้อดีมากๆที่ผู้กำกับเลือกทำหนังสไตล์นี้คือมันมีความแปลกใหม่กับแวดวงหนังระทึกขวัญของไทยมากๆ การเอาเรื่องลัทธิความเรื่องเรื่องไสยศาสตร์บูชายัญมาเล่นในประเด็นนี้ทำให้เห็นว่าเขาฉลาดแยบยล แถมการดีไซต์ฉากโหดๆอยู่ในระดับที่ความน่ากลัวเรื่องนี้ดูไม่เหมาะกับคนจิตอ่อนสักเท่าไหร่

อีก 1 สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของผู้กำกับคือเขาไม่ได้ทำหนังสยองขวัญชวนหลอนเพียงอย่างเดียว แต่เขาสามารถผสมผสานประเด็นดราม่าผ่านตัวละครชนชั้นกลางลงไปได้อย่างกลมกล่อม เจ้าของบ้านคือคนที่กระเสือกกระสนดิ้นรนที่จะมีชีวิตรอดในสภาพสังคมที่ค่าใช้จ่ายทุกอย่างแพงขึ้น การที่เป็นคนหาเช้ากินค่ำในยุคปัจจุบันก็ดูจะเป็นเรื่องยากซะเหลือเกิน ลำพังแค่หาเงินมาประคับประคองชีวิตในตอนนี้ก็เป็นเรื่องยากลำบากไปแล้ว ค่าครองชีพที่พุ่งขึ้นสูงสวนทางกับเงินที่ใช้จ่ายในแต่ละวัน ไหนจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของคนในบ้านที่ไม่ได้สวยหรู ไม่ได้เป็นครอบครัวสุขสันต์แบบที่ใครใฝ่ฝัน แถมการมีลูกเล็กที่กำลังเติบโตมันเป็นเรื่องยากภาระรัดตัวเข้าไปอีก ลำพังจะมีชีวิตที่ดีในแต่ละวันมันยังยากเลย พาร์ทดราม่ามันเต็มไปด้วยความโหดร้ายของกลุ่มคนชนชั้นกลางที่ดูจะสิ้นหวังในสภาพสังคมไทยที่ทุกอย่างมีเรื่องของเงินเข้ามาเกี่ยวข้องและมันทำให้เราเห็นภาพความอ่อนแอของตัวละครแบบหมดเปลือก

การรับบทนักแสดงนำใน บ้านเช่าบูชายัญ เป็นความท้าทายครั้งใหม่สำหรับ พี่เวียร์ ศุกลวัฒน์ คุณพ่อมือใหม่ป้ายแดงปีก่อนเล่นหนัง Hollywood ปีนี้เล่นหนังสยองขวัญ ที่เรื่องนี้บทดูจะแตกต่างจากงานแสดงละครช่อง 7 ดูเป็นคาแรกเตอร์ที่แปลกใหม่ซับซ้อนอ่อนไหวในด้านอารมณ์ ส่วนคุณ มิว นิษฐา คนนี้สบายหายห่วงเธอผ่านงานภาพยนตร์มาเยอะ เมื่อมาแสดงคู่กันถ่ายทอดสามารถบาลานซ์ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกได้ออกมาได้เต็มที่และสามารถทำให้คนดูอินไปกับความกดดันสั่นประสาทได้ทั้งเรื่อง ส่วนการกลับมาของตัวแม่อย่าง ต่าย เพ็ญพักตร์ ที่เคยแสดงในหนังผีมาแล้ว เรียกได้ว่าไม่ผิดหวังแน่นอน อีกคนที่น่าชื่นชมคือน้องกัสจังที่รับบทเป็นน้องอิงในเรื่องเธอกลมกลืนไปกับบท เข้ากับพี่ๆรุ่นใหญ่คนอื่นๆ 4 ตัวละครขับเคลื่อนจังหวะไปในทิศทางเดียวกัน กลายเป็นหัวใจหลักทำให้หนังที่น่าจับตามองของ ผู้กำกับ คุณจิม โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ ใครเคยดูเรื่อง ลัดดาแลนด์ จะรู้ดีว่าเขาคนนี้มีฝีมือในการผสมผสานระหว่างดราม่าหนักๆกับความสยองแค่ไหน แถมความสมจริงขององค์ประกอบต่างๆยังทำให้คนดูสามารถเข้าถึงสถานการณ์ที่ตัวละครกำลังเผชิญหน้าได้ไม่ยากอีกด้วย