The Menu (2022)
เมนูสยอง
คะแนน
โกดังหนัง
บทหนังนี่แหละทีเด็ด เข้าใจแหละว่าทำไมนักวิจารณ์ถึงชอบเรื่องนี้ เพราะวิพากย์วิจารณ์ระบบทุนนิยมโลกยุคใหม่ กัดจิกชำแหละคนในวงการอาหารแบบไม่มีชิ้นดี บรรยากาศหนังเรื่องเล่าน่าทึ่งคาดเดาอะไรไม่ได้ พลังของดารานำทำให้หนังสนุก
คำคมจากภาพยนตร์
"Tonight you should to be here."
“คืนนี้คุณไม่น่ามาที่นี้เลย”
เรื่องย่อ
คู่รักคู่หนึ่ง มาร์โก และ ไทเลอร์ เดินไปทางไปที่เกาะแถบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อรับประทานอาหารในภัตรคารสุดพิเศษ ฮอว์ธอร์น โดยมีเชฟมากฝีกมือที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เชฟจูเลียน สโลวิค ทุ่มทุนตระเตรียมเมนูให้กับแขกพิเศษที่ได้รับเลือกเพียงไม่กี่คน นอกจากพวกเขาแล้วยังมีสามหนุ่มจากบริษัทเทคโนโลยีชื่อดัง, คู่รักมหาเศรษฐี, นักวิจารย์อาหารชื่อดัง, นักแสดงวัยกลางคนชื่อดัง แต่เมื่อกินไปกินมา อาหารแต่ละจาน แขกแต่ละโต๊ะเริ่มมีความลับความไม่ชอบมาพากล จนทำให้อาหารมื้อนี้เริ่มมีสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ The Menu เป็นหนังตลกร้ายกัดจิกเสียดสีสังคมวงการอาหาร วงการนักชิม วงการนักวิจารณ์ทุกสายงาน มันจัดจ้านคมคายซะเหลือเกิน โลกปัจจุบันเราให้ค่าคนมีชื่อเสียง คำพูดแค่มุมมองเดียวเปลี่ยนมุมมองต่ออาหารไปได้เลย จนมีสถานะเป็นเหมือนสมมุติเทพในวงการนั้น ๆ ชอบที่มันเสพง่าย เข้าใจง่าย และน่าตื่นตะลึง หนังเรื่องนี้ไม่ได้ระทึกขวัญ ไม่ได้เป็นแนวฆาตกรรมแต่เป็นงานที่ชำแหละความห่วยแตกของกลุ่มคนที่เติบโตในวัฒนธรรมแบบปลอมๆ และคิดว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ นักปั้น ที่คิดว่าตัวเองดังชั่วข้ามคืนซึี่งมันโดนใจมากๆ
- สายหนังกัดจิกเสียดสีสังคม
- สายหนังดาร์คคอมเมดี้
- สายหนังวิพากย์วิจารณ์สังคม
รีวิว / สรุปเนื้อหา
ฉากหน้าของหนังดูเหมือนจับคนมาฆ่าในร้านอาหาร แต่ในความจริงแล้ว หนังออกแนวตลกร้ายออกแนวเสียดสีประชดประชันมากกว่า โดยเฉพาะโลกในยุคนี้ที่คนอยากเด่นอยากดังอยากโอ้อวด อยากได้รับการยอมรับ เรามีสื่ออยู่ในมือโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม โลกที่ใครต่อใครก็เป็นนักวิจารณ์กันได้ คุณมีสื่ออยู่ในมือโซเชียลมีเดีย Facebook Twitter, IG, Tiktok อวยอารีย์ ด่ากันสนุกปาก ทำร้ายคนโน่นคนนี่แบบไม่ทันตั้งตัว เลยมีพื้นที่ได้วิจารณ์อะไรกันได้สนุกปาก ถ้าดีจริงก็อวยก็สุดเหวี่ยง ถ้าแย่ไม่ถูกใจก็ด่าทอกันยับเยิน เรามีอาวุธที่พรัอมจะทำร้ายกันได้ทันที หนังจึงไม่ได้เป็นการชำแหละคนในวงการหนังอาหารอย่างเดียว แต่มันก็กระทบมายังกลุ่มนักวิจารณ์หนังแบบเราๆที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ บางคนแค่ไม่ชอบไม่ประทับใจ ก็พร้อมจะจัดหนักทำให้หนังเรื่องนั้นเสียหาย และมุมมองเพียงแค่ด้านเดียวก็ทำให้คนอื่นพร้อมเชื่อและคล้อยตามเราได้ทันทีแบบไม่มีวิจารณญาณ
ในโลกที่เต็มไปด้วยทุนนิยม คนนิยมชมชอบผู้คนจากเปลือกนอก ใครรวย ใครมียอดตามเยอะ ใครมีชื่อเสียงมักได้เปรียบ ก็ได้รับความสนใจเป็นเรื่องปกติ มันจึงไม่แปลกเลยว่าทำไมหนังเรื่องนี้จึงพูดประเด็นนี้ พอหนังเลือกจะพูดถึงการแซะวงการ Fine Dining มันจึงสนุกแบบเหนือความคาดหมาย การหยิบเรื่องอาหารการกินเรื่องใกล้ตัวของคนมาพูด คนรวยมีเงินไปกินอาหารหรูๆ แต่ไม่เคยสนใจใส่ใจรสชาติอาหาร, นักวิจารณ์อาหาร ดาราตกกระป๋องที่มักคุยโวโอ้อวด คนที่อยากอัพเกรดมีหน้าตาทางสังคม คนทำคอนเทนต์มีเยอะหายอดไลค์เข้าว่า เนื้อหาเลยค่อยๆพูดถึงการปรุงอาหารไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าจะได้กินได้ชิม ทุกอย่างต้องลงมือทำอย่างพิถีพิถันใส่ใจทุกขั้นตอนการเล่าเรื่องที่เหมือนเป็นการทยอยเสิร์ฟอาหาร มันชวนให้น่าติดตาม หนังนำเสนอไม่ได้มีแค่อาหารอย่างเดียว แต่ยังตีความได้แบบสนุกสนาน ตลกร้าย ขมขื่น แทงใจดำ เพราะทุกจานมันกำลังบอกเล่าถึงสิ่งที่เชฟเคยเผชิญ และเป็นการลงทัณฑ์กลุ่มคนที่ต่างมีแบ็คกราวด์กันคนละแบบ บางคนเคยสร้างปมที่เลวร้าย บางคนทุจริต หรือแม้แต่บางคนไม่ได้สร้างปมทางตรงก็โดนไปกับเขาด้วย
ชอบที่หนังไม่ได้ดำเนินเรื่องหน้าเดียวนอกจากการแชะคนที่สารบบนักชิมแล้ว หนังก็เปิดพื้นที่ให้ตัวละครที่ไม่ได้สนใจเรื่องการกินคนนอกในวงการอย่าง Marko ตัวละครของ Anya Taylor Joy เข้ามาด้วยคนนอกวงการคนแปลกหน้าที่ไม่ได้อินอะไรกับเรื่องพวกนี้ พอมีพื้นที่ให้เธอสิ่งที่ได้คือ เราก็รับรู้เลยว่ามันไม่ใช่ทุกคนที่ชอบอาหารเลิศหรู ถ่ายรูปเก๋ๆแล้วประกาศว่ามาชิมแล้วนะ ทุกคนมีชุดความคิดมีความชอบในการกินในแบบของตัวเอง บางครั้งไม่ต้องยัดเยียดเพราะบอกว่านี่คืออาหารหรู ราคาโคตรแพงจากร้านๆแพง จะว่าไปการแสดงของดารานำในเรื่องถือว่า ขับเคลื่อนอารมณ์หนังได้สุดทาง นอกจากน้อง Joy ที่สวยหน้าตาดูเก๋ในเรื่องแล้ว การปะทะคารมของนักแสดงทุกคนก็อุดช่องโหว่ของหนังได้หมด พลังการแสดงของ Ralph Fiennes นิ่งเยือกเย็น สีหน้าแววตาเชฟที่ดุดันไว้ใจอะไรไม่ได้ พร้อมจะสร้างความสั่นสะเทือนให้ผู้ชมได้ทุกฉากที่ปรากฏตัว หรือสุดหล่อ Nicholas Hoult หนุ่มนักชิมนักกินที่จ่ายเงินไม่อั้นเพื่อมากินอาหารหรูๆ กินแบบไม่แคร์ใครหน้าไหน คือ 3 ดารานำทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี มันเลยช่วยให้ตัวละครสมทบมีซีนที่น่าจดจำมากมายในเรื่อง องค์ประกอบหนังเรื่องนี้งานศิลป์งานภาพถ่ายออกมาดีมากๆ ทำให้ใครต่อใครได้เห็นอาหารในเรื่องคงมีหิวบ้างละแก
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- บทนางเอกเป็นของ Emma Stone แต่นางขอถอนตัวน้อง Anya Taylor-Joy เลยคว้าบทนี้ไปครอง
- Ralph Fiennes และ Nicholas Hoult เคยทำงานร่วมกันมาก่อนใน Clash of the Titans