Joker (2019)
โจ๊กเกอร์
คะแนน
โกดังหนัง
ด่ำดิ่งไปกับหนังอาชญากรรมกับวายร้ายอันดับ 1 DC สำรวจโลกที่เลวร้าย ดำมืด หดหู่ ไร้แสงสว่าง บีบให้ชายหนุ่มอ่อนแอ กลายเป็นคนที่มีจิตใจอำมหิต
คำคมจากภาพยนตร์
"Throughout my life ... I don't know that Do I really exist, but I exist and people must start to see"
"ตลอดชีวิตของผม...ผมไม่รู้ว่า ผมมีตัวตนอยู่จริงไหม แต่ผมมีตัวตน และผู้คนจะต้องเริ่มมองเห็น”
เรื่องย่อ
Arthur Fleck ชายที่ต้องใช้ชีวิตอย่างฟันฝ่าในสังคมที่มีความแตกแยกในก็อตแธม เขาเป็นตัวตลกรับจ้างรายวันและอยากเป็นนักแสดงตลกสแตนอัพในช่วงค่ำคืน แต่กลับต้องพบกับเรื่องตลกที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เขาต้องใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ท่ามกลางความเมินเฉยและความโหดร้ายทารุณ อาเธอร์ จึงเลือกตัดสินใจตอบโต้อย่างรุนแรงในหลายเหตุการณ์จนกลายเป็นเรื่องราวที่น่าศึกษาของตัวละครที่มีความอดทนกล้าหาญรายนี้ อาเธอร์ อุทิศชีวิตของเขาให้กับการดูแลแม่ผู้เป็นที่รักที่กำลังเจ็บป่วย ตลอดชีวิตเขามองหาความรักจากผู้เป็นพ่อที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน และพบเจอความอบอุ่นนั้นในตัวของ โทมัส เวย์น นักธุรกิจจิตใจดี และ เมอร์รีย์ แฟรงคลิน พิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดัง แต่แล้วกลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่ทำให้ความจริงบางอย่างปรากฏขึ้น ทำให้เกิดความบ้าคลั่ง และการตัดสินใจที่ทำให้เกิดเรื่องร้าย ๆ ตามมา
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Joker เป็นหนังดราม่าระทึกขวัญที่เข้าขั้นดาร์คดำดิ่งไปกับตัวละครที่มีปมในใจชีวิตโหดร้าย จะบอกว่าหนังไม่ค่อยเหมาะกับคนโลกสวยหรือคนที่มีจิตใจย่ำแย่ เพราะมันจะทำให้จิตใจของคุณยิ่งแย่ขึ้นไปอีก หนังมันสะท้อนความจริงของด้านมืดของจิตใจคนเราออกมาได้แบบจริงที่สุด ดึงจิตใจของคุณดูให้หดหู่เพิ่มขึ้น หนังสะท้อนด้านมืดออกมาได้แบบไม่เหมือนหนังเรื่องไหนๆแน่นอน มันจะทำให้คุณดำดิ่งสู่ความจริงของโลกอีกด้านที่น้อยคนจะพูดถึง แฝงไปด้วยข้อคิดของสังคมและผู้คนในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ยิ่งด้วยตัวนักแสดงที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกได้แบบนี้ ทำให้ทุกอย่างมันดูสมจริง
รีวิว / สรุปเนื้อหา
ภาพของ Joker ในสายตาคนดูหนัง เขาคือวายร้ายคู่ปรับตลอดกาลของ Batman ผู้ชมมากมายตัวละครจากการแสดงใน Dark Knight ของ Heath Ledger แต่ในอีกด้านหนึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าที่มาที่ไปของเขานั้นคืออะไร ทำไมอาชญากรอันดับ 1 ของก็อตแธม ซิตี้ ถึงกลายเป็นคนที่โหดเหี้ยม ฉลาดรอบจัด ไหวพริบดี หนังเรื่องนี้มีคำตอบให้ หนังไม่ได้เล่าไปยังจุดเริ่มต้นของ Joker แต่มันพูดถึงโลกที่ตัวตนอย่าง อาเธอร์ มีฝันอยากเป็นดาวตลก เขาพยายามแล้วพยายามอีก แต่ที่สุดแล้วเขาไม่มีหวัง อับจนหนทาง สภาพสังคมที่เลวร้าย คนจนไร้ที่ยืน มีแต่ความเหลื่อมล้ำ ความโหดร้ายจากเมืองที่อยู่อาศัยและผู้คนค่อยๆเกาะกินจิตใจเขาไปเรื่อยๆ จากคนที่ไม่ได้มีความเลวร้ายอะไร แต่ความสกปรกในจิตใจของคนดันเป็นสิ่งอันตรายที่สุดมันเกินที่เขาจะแบกรับไว้ จากผู้ชายที่อยากจะมอบรอยยิ้ม เปลี่ยนไปในอีกรูปแบบหนึ่ง ถ้ามองดูดีๆ เราจะพบว่า Joker คือเหยื่อจากสังคมที่ห่วยแตก โดนกลั่นแกล้งแทบทุกรูปแบบ จิตใจที่อ่อนแอและบอบช้ำมันค่อยๆพัฒนาเป็นความโหดร้ายทีละนิดทีละนิด จนกลายเป็นระเบิดที่รุนแรง ชายหนุ่มไร้ตัวตนที่ดันลุกออกมาสู้จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้คนที่โดนกดขี่เหมือนกัน และเป็นคนที่ขับเคลื่อนความรุนแรงแล้วพิพากษาความเหลื่อมล้ำของสังคม
จะว่าไปตัวละคร Joker ค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์คาแรกเตอร์ที่ชัดเจนมากๆ Todd Phillips เล่าเรื่องดีและรู้ว่าจะนำเสนอในแง่มุมไหน เลยทำให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ๆจากตัวละครนี้มากกว่าคำว่าวายร้ายในหนังเก่าๆของ Batman สิ่งที่น่าสนใจคือ Joker มีการนำเสนอจุดเริ่มต้น จุดเปลี่ยนสำคัญ นี่คือตัวละครที่ไม่มีใครมาล้มไปได้ง่ายๆ บทบาทของ Joker มีความร่วมสมัย สะท้อนให้ว่าตัวละครนี้มีมิติมีความซับซ้อน คือเราไม่รู้ว่า Joker มีความรู้สึกนึกคิดวางแผนจะทำอะไร การแต่งหน้า เสียงหัวเราะ ท่าทีหรือการร้องไห้ เขาคือตัวละครที่มีความพิเศษแตกต่างจากวายร้ายในทั่วๆไป ถ้ามองดูในมุมกว้างมองด้วยความเป็นกลาง เรารู้สึกว่านี่คือตัวละครที่ยืมมือคนอื่นมาทำลายโลก โดยไม่ต้องออกแรงเอง ตลอดทั้งเรื่องหนังมีฉากที่ตราตรึงใจคนดูหนังมากๆ มันค่อนข้างดาร์คหดหู่สะเทือนอารมณ์ถึงสุดขีด ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มมันคือความเจ็บปวดของตัวละครนี้ที่เผชิญหน้ากับความสาหัสในชีวิต แถมการนำเสนอเฟรมภาพบรรยากาศในเมือง ของ Lawrence Sher ก็ชวนให้หดหู่สิ้นหวังตามไปด้วย ผสมผสานกับซาวด์ประกอบที่ดาร์คเข้าไปอีก เลยทำให้รู้สึกว่า การตีความตัวละครนี้ค่อนข้างแปลกแหวกแนวจากหนังในตระกูล Comic ที่ดัดแปลงขึ้นจอใหญ่
นอกจากนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Joaquin Phoenix นักแสดงมากคุณภาพ พิสูจน์แล้วว่าเขาคือดาราเจ้าบทบาท สามารถตีความหมายตัวละครนี้ในมุมที่แตกต่างออกไปจากนักแสดงคนเก่าๆ การเข้าถึงบทบาท Joker ในทุกอิริยาบถ นอนในตู้เย็น สูบบุหรี่ ทำหลายๆสิ่งหลายอย่างในหนัง พร้อมจะดำดิ่งไปกับตัวละครนี้ เรียกว่ากล้าสร้างสรรค์มอบการแสดงที่มีคุณภาพ ถอดคาแรคเตอร์นี้ออกมาให้มีความ ล้ำลึก และทรงพลังแบบสุดๆ ใส่ความมืดหม่นไปแบบเต็มที่ คนละ Feel กับ Heath Ledger จนไม่มีใครกล้านำไปเปรียบเทียบอีกเลยในช่วงเวลาหนังฉาย ชอบการแสดงที่เขาถ่ายทอดความเป็นเหยื่อ การโดน Bully โดนรังแก เพียงเพราะว่าเขาดูตลก บ้าบอ อ่อนแอ จากคนรอบข้าง และพลังงานการแสดงก็ค่อยๆไต่ระดับไปเรื่อย สีหน้าแววตา จากที่ดูไร้ความหวัง จนกลายเป็นความดาร์ค กลมกลืนไปกับตัวละคร มันเลยสะท้อนให้เห็นว่า Joker เกิดมาจากความดำมืดจากสังคมความเลวร้ายของผู้คน และเขาเองก็คือเหยื่อ ส่วนตัวแล้วชอบฉาก Talk Show มันคือที่สุดของหนังจริงๆ
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Todd Phillips ใช้เวลา 3 เดือน พูดคุยโน้มน้าว Joaquin Phoenix ถึงบ้าน เพื่อให้เขามารับบท Joker
- Joaquin Phoenix และ Robert De Niro มีปัญหาตอนถ่ายทำหนัง
- ฉากที่ Arthur เข้าไปนอนในตู้เย็น มันคือการด้นสดของ Joaquin Phoenix เพื่อแสดงว่าตัวละครนี้อยู่ในภาวะนอนไม่หลับ