Zack Snyder’s Justice League (2021)
แซ็ค สไนเดอร์ส จัสติก ลีก
คะแนน
โกดังหนัง
หากคุณชอบดูหนังฮีโร่ ไม่ว่าจะเป็นแฟน DC หรือ Marvel นี่คือ 4 ชั่วโมงที่คุ้มค่า คุณจะได้ดูฉากแอ็คชั่นมันๆวิชวลเอฟเฟ็คชั้นดี มาดูเถอะไม่ผิดหวัง และอยากให้มี Justice League 2 ออกมาจริงๆ
คำคมจากภาพยนตร์
“The world needs Superman... the team needs Clark.”
“โลกใบนี้ต้องการซุปเปอร์แมน ทีมของเราต้องการคลาร์ก“
เรื่องย่อ
หลังจากเหตุการณ์ที่ทั้งโลกสูญเสียซุปเปอร์ฮีโร่คนสำคัญอย่าง ซุปเปอร์แมน ไปจากการต่อสู้กับดูมส์เดย์ การตายของเขาส่งผลให้กล่อง Motherbox ขุมพลัง 3 กล่องที่ซ่อนอยู่ในที่ต่างๆ ได้ส่งสัญญาณออกมาอีกครั้ง จนไปถึง สเตฟเฟนวูฟ วายร้ายที่หวังรวบรวม Motherbox ให้กับ ดาร์กไซด์ นายของเขา เหล่าฮีโร่ในแต่ละพื้นที่ต่างต้องปกป้อง Motherbox ในแดนของตัวเอง แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เลยทำให้ บรูซ เวย์น และ ไดอาน่า ต้องออกตามหาบรรดาซุปเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ เพื่อมาปกป้องโลกด้วยกัน
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Justice League ก็เป็นหนังรวมฮีโร่ของทางค่ายฝั่ง DC ถือว่าเป็นการแก้ตัวจากหนังรวมทีมฮีโร่ที่พังยับเยินในปี 2017 งานภาพซาวด์กระหึ่ม บทหนังขยายเรื่องราวได้ใหญ่ขึ้นหนังจึงมีความแข็งแรง หลายๆฉากสร้างเสียงฮือฮาได้เพราะหนังต่างจากเวอร์ชั่นเดิมไปสิ้นเชิง คอหนังทั่วไปคอหนังที่รอคอยการดูหนังฮีโร่หนังกระแสจะเพลิดเพลินกับเรื่องราวตลอด 4 ชั่วโมง โดยไม่เสียอรรถรส เอาเป็นว่าใครชอบหนังค่าย DC จากเรื่องก่อนๆ อย่าง Aquaman, Superman หรือ Wonder Woman มาก่อน ยังไงก็คงไม่อยากพลาดการรวมฮีโร่กลุ่มนี้กันแน่ๆ
- สายหนังแอคชั่นซุปเปอร์ฮีโร่
- สายหนังซุปเปอร์ฮีโร่ค่าย DC
- สายหนังรวมฮีโีร่
รีวิว / สรุปเนื้อหา
น่าเสียดายเหมือนกันนะ ถ้าหากหนังเวอร์ชั่นได้รับโอกาสได้ฉายโรง ไม่โดนแทรกแซง มีอิสระในการทำงานอย่างเต็มที่บางที DC คงไม่ตกระกำลำบากในการรีบูตหนังฮีโร่เดิมซ้ำซากๆ หนังเวอร์ชั่นนี้ออกมาได้สมบูรณ์แบบอาจข้อบกพร่องมีน้อยมาก เส้นเรื่องหลักของหนังถูกแบ่งออกเป็น 6 พาร์ทแยกย่อยออกมา เปิดหัวที่มาที่ไปของตัวละครหลัก Bruce Wayne หรือ Batman พยายามที่จะฟอร์มทีมซูเปอร์ฮีโร่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Wonder Woman, Cyborg, The Flash, Aquaman และฟื้นคืนชีพ Superman เพื่อต่อสู้กับศัตรูตัวใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม Steppenwolf เนื้อหาไม่ต่างจากเวอร์ชั่นฉายโรงเมื่อปี 2017 แต่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม คือการพาคนดูไปรู้จักตัวละครมากขึ้นทำให้ทุกคนมีบทบาทสำคัญทุกซีนที่ปรากฏตัว
งานโปรคักชั่น Zack Snyder งัดสกิลส่วนตัวที่ถนัดออกมาใช้ งานวิชวลเอฟเฟ็ค, ซีจี จนหมดแม็กซ์ ฉากแอ็คชั่นถูกออกแบบมาให้อลังการ ดูแล้วไม่เสียอรรถรสเลยสักนิด หนังมีมิติจุดนี้ทำให้เนื้อหามีความแข็งแรง กลุ่มนักแสดง พอมาดูเวอร์ชั่น 4 ชั่วโมงเต็ม รับรู้เลยว่า Zack Snyder เลือกคนที่เหมาะกับคาแรกเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น Batman ที่แสดงโดย Ben Affleck พี่แกเหมาะเป็น Bruce Wayne เท่ห์ สุขุม เยือกเย็น ดุดันมากๆ คือเรารู้สึกเสียดายมากที่เขาไม่ได้เป็น Batman ต่อ เพราะเมื่อได้เห็นหนังชุดนี้ อยากให้มีหนังเดี่ยวภาคแยกเลย
ส่วนตัวละครอื่นๆ ผู้ชมได้รู้จักที่มาที่ไปมากขึ้น เช่น Ray Fisher ในบท Cyborg หรือ Ezra Miller ในบท The Flash คือโดดเด่นขึ้นมาจากเวอร์ชั่นหนังปี 2017 คือได้เห็นพลังงานการแสดงมหาศาลของทั้งรับรู้เลยว่าทั้ง 2 คนมีของเยอะมาก ขณะที่ Aquaman แม้ว่าจะมีหนังเดี่ยวไปแล้ว แต่ใน Justice League เวอร์ชั่นนี้ก็ปูพื้นเบื้องต้นว่าเหตุการณ์ในหนังจะคาบเกี่ยวกับหนังเดี่ยวของ Aquaman จริงๆ ที่มาเซอร์ไพรส์ผู้ชมจริงๆคงหนีไม่พ้น Jared Leto นี่แหละมาซีนเดียว เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วโลกโซเชียล ลบภาพจำเดิมๆว่าเป็น Joker ห่วยแตกทิ้งไปเลย จนมีคนเรียกร้องอยากให้สร้างหนังเดี่ยวเพิ่มอีกคน
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- หนังไม่ได้ใช้ฟุตเทจเวอร์ชั่นปี 2017
- หนังถ่ายซ่อมแค่บางจุดไม่ถึง 25 เปอร์เซนต์
- Zack Snyder ไปกล่อม Jared Leto ให้กลับมาแสดงเป็น Joker ออกมาฉากเดียวได้รับความนิยมทันที
- Jared Leto พบ Ben Affeck ฉากนั้นนักแสดงแยกกันถ่ายไม่ได้เจอกัน
- แม้ว่าหนังประสบความสำเร็จแต่ค่าย Warner ไม่สนใจจะสานต่อเรื่องราว