เรื่องย่อ

จ่าสิบเอก แนนซ์ ที่ใกล้จะเกษียณอายุราชการ แต่ดันมีเหตุการณ์ที่มนุษย์ต่างดาวเข้าตีบรรดาหัวเมืองใหญ่ทั่วโลกเสียก่อน ซึ่งเมืองที่เขาอยู่อย่านครลอสแองเจิลเลสก็เป็นหนึ่งในนั้น ทำให้เขาต้องกลับมารับภารกิจร่วมกับ มาติเนซ เพื่อนทหารของเขาในการเข้าปกป้องผู้คนจากบรรดามนุษย์ต่างดาว ไปพร้อมๆ กับการยึดเอาพื้นที่ของเขากลับคืนมา

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Battle Los Angeles มันเป็นหนังที่ทำมาสำหรับการดูเอามันส์ล้วนๆ เพราะมาจากฝีมือของผู้กำกับสายแอคชั่นที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมาก และเรียกว่ามีหนังที่ประสบความสำเร็จได้ไม่เต็มปากสักเรื่อง แต่งานของเขาโดยส่วนมากก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดูเอามันส์ ดูเอาเพลินในแบบที่ไม่คิดอะไรมากจริงๆ เพราะในฉากแอคชั่นก็ยังพอตอบสนองความต้องการของคนดูในส่วนนี้ได้ ไม่ต่างอะไรจากหนังปะทะเอเลี่ยนแบบพวก Battleship หรือ Skyline กันเลย หากคุณรับชม 2 เรื่องก่อนหน้าด้วยความสนุกได้ ก็น่าจะได้รับความสนุกจากเรื่องนี้เหมือนกัน

• สายหนังแอคชั่นมันส์ล้วนๆ
• สายหนังแอคชั่นต่างดาว
• สายหนังเอเลี่ยนบุกโลก

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังที่มีพล็อตเรื่องหลวมๆ ว่าด้วยมนุษย์ต่างดาวเข้ามาบุกโลก โดยการตีหัวเมืองสำคัญก่อน แต่ในหนังก็จะเน้นไปที่กรุง Los Angeles ที่โดนถล่มอย่างหนักจากทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้า น้ำ หรืออากาศ แต่สุดท้ายหนังก็โฟกัสอยู่ที่แค่กลุ่มทหารราบเท่านั้น ซึ่งจากการที่หนังได้ผู้กำกับอย่าง Jonathan Liebesman ที่มีผลงานหนังสยองขวัญมาก่อน แต่สุดท้ายก็พลิกตัวมาเป็นสายแอคชั่นแบบเต็มตัว แต่ก็น่าเสียดายที่หนังแอคชั่นของเขาโดยส่วนมากก็จะออกมาในลักษณะกลวงๆ และสนุกแบบไม่สุดเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้เองก็นับว่าเป็นหนึ่งในนั้น 

ด้วยความที่หนังดูเหมือนจะไม่มีบทเลย ทำให้หนังผ่านไปแค่ไม่กี่นาทีก็เปิดฉากซัดกับมนุษย์ต่างดาวที่บุกลงมากันซะแล้ว โดยที่เรายังไม่ทันที่จะได้ทำความรู้จักกับตัวละคร หรือรู้จักพวกเขามากขึ้นแต่อย่างใด สิ่งที่ทำได้ก็เลยเป็นการจำได้แต่ตัวละครจากดาราที่เรารู้จักเท่านั้น อย่าง Aaron Eckhart, Michelle Rodriguez และ Ne-Yo ส่วนดาราคนอื่นๆ นั้นกลับกลายเป็นเหมือนตัวประกอบที่วิ่งผ่านหน้าไปๆ มาๆ แล้วก็ยิงๆ วนเวียนให้เราเห็นกันอยู่ตลอดทั้งเรื่อง จนกลายเป็นว่าเราไม่มีความผูกพันกับตัวละครใดๆ เลยสักตัว แม้ว่าพวกเขาจะมีการทยอยตายกันลงไปก็ตาม เราก็จำไม่ได้ว่าเขาเป็นใครด้วยซ้ำ 

ด้วยเหตุที่หนังนั้นนอกจากไม่มีพล็อตเรื่อง แถมยังไม่มีตัวละครที่น่าจดจำ มันเลยทำให้มันออกมาดูเหมือนเป็นโชว์แอคชั่นแบบจัดเต็มตลอดเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงเสียมากกว่า ซึ่งตัวเอเลี่ยนนั้นก็ไม่ได้มีอะไรที่หวือหวาสักเท่าไร นอกจากเทคโนโลยีเจ๋งๆ ที่ขนกันมาถล่มด้วยอาวุธครบมือครบเครื่องให้หนังดูสิ้นหวังกันมากขึ้น และดูเป็นสงครามระหว่าง 2 ฝ่ายมากกว่าจริงๆ แต่ก็ยังดีที่ CG ของหนังยังทำออกมาได้เนียนดี ไม่ว่าจะเป็นฉากยิงถล่มกัน หรือฉากยานพาหนะระเบิด หรือฝูงลงต่างๆ ก็เข้ากับฉากแอคชั่นได้เป็นอย่างดี เอาเป็นว่าใครที่ชอบหนังประเภทดูเอามันส์ ก็ยังน่าจะพอรับได้อยู่ดี