Morbius (2022)
มอร์เบียส
คะแนน
โกดังหนัง
หนังแอนตี้ฮีโร่ที่แฟนคอมมิคพันธ์แท้ไม่ควรพลาด Jared Leto แบกเรื่องราวได้อยู่หมัด แอนตี้ฮีโร่ที่ดูได้เพลินๆ อย่าเชื่อคำวิจารณ์จนลืมไปพิสูจน์ของจริงในโรง
คำคมจากภาพยนตร์
“I am venom."
"ข้าคือเวน่อม"
เรื่องย่อ
Michael Morbius นักวิทยาศาสตร์ผู้ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคเลือดหายากของตนเองตั้งแต่วัยเด็ก และเขาก็มีเป้าหมายที่จะรักษาตนเองให้หายให้กลายเป็นมนุษย์ปกติ แต่แทนที่เขาจะหาย การรักษาของเขาโดยใช้ค้างคาวเป็นตัวช่วย มันทำให้เขากลายเป็นแวมไพร์ผู้กระหายเลือด .
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Morbius แอนตี้ฮีโร่เรื่องที่ 2 จาก Sony Marvel ที่หวังจะเปิดจักรวาลคู่ปรับไอ้แมงมุมเหมือน Venom ที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว 2 ภาค หนังมาในสไตล์แบบหนังฮีโร่ยุคเก่า มีหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่ดำเนินเรื่องได้ไม่ไหวลื่น หนังออกแนวดูง่ายๆไม่มีอะไรซับซ้อนไม่มีซีนไคล้แม็กซ์ที่เร้าใจว่าง่ายๆคือเหมือนดำเนินเรื่องไปตามสูตรซะมากกว่า หน้าหนังไม่โดนใจนักวิจารณ์ที่ตำหนิว่าห่วย แต่หนังกลับไปโดนใจผู้ชมที่มองว่าไม่ได้แย่ อันนี้แล้วแต่มุมมอง โทนเรื่องไม่ได้หวือหวาเป็นหนังที่คนชอบหนังฮีโร่น่าจะชอบ ส่วนคอหนังทั่วไปเปิดใจดูได้สบายๆ
- สายหนังแอนตี้ฮีโร่
- สายหนังคอมมิค
- สายหนังไซไฟ
รีวิว / สรุปเนื้อหา
หากใครเป็นแฟนคอมมิคจะรู้ว่า Spider Man มีคู่ปรับมากมาย และหนึ่งในนันคือ Morbius แอนตี้ฮีโร่ ชายหนุ่มที่พยายามจะหาหนทางรักษาโรคเลือดหายากที่เขาต้องการช่วยเหลือคนที่ประสบปัญหาแบบเดิมกับเขา เมื่อเขาเสี่ยงเอาตัวเองไปทดลอง สิ่งที่ได้กลับมาคือพลังอันมหาศาลจากค้าวคาว มีร่างกายที่เป็นปกติ แต่ผลลัพธ์มันทำให้เขามีร่างกายที่อัปลักษณ์ หนังเล่าเรื่องถึงความทุ่มเทของชายคนหนึ่ง ที่ต้องมีชีวิตลมหายใจเป็นแอนตี้ฮีโร่ พยายามควบคุมไม่ให้ไปดูดเลือดฆ่าคน หนังเกริ่นนำไปกับตัวละคร จากนั้นก็ค่อยๆ เปิดเผยตัวละครร้ายที่เกิดมาพร้อมความทะเยอทะยานลุ่มหลงในพลังที่ได้มาใช้ไปในทางที่ผิดๆ ซึ่งแตกต่างจากตัว Morbius ที่ไม่ได้เต็มใจจะเป็นแวมไพรส์แบบนี้ น่าเสียดายที่การปูพื้นหลังแบ็คกราวด์ความสัมพันธ์ดูจะขาดๆเกินไปสักหน่อย
สิ่งที่ดีของหนังคือ การเล่าเรื่องโฟกัสไปยัง Morbius เป็นหลัก เราได้เห็นทักษะความสามารถที่เขาคอนโทรลคลื่นเสียง พลังที่เหาะเหินเดินบนอากาศได้ คือเทคนิคงานภาพในพาร์ทของตัวละครหลักทำออกมาได้ดี จุดนี้เองช่วยชับเคลื่อนให้หนังดูได้เพลินๆแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะจุดนี้เองช่วยเสริมให้ฉากแอ็คชั่นมีความแข็งแรงตามไปด้วย ช่วงครึ่งทางแรก Morbuis ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์เพื่อเอาตัวรอด แต่ครึ่งเรื่องหลังเขากลายเป็นฮีโร่ที่ใช้ความรู้สึกปกป้องคนรอบข้าง เขาไม่ได้ฆ่าใครโดยไม่มีเหตุผล เพื่อจะกินเลือดมนุษย์แต่เขายังมีจิตใจมีความเป็นมนุษย์และไม่หลงระเริงกับพลังที่ได้มาจากการทดลองที่ผิดพลาด มันเลยทำให้เรารู้ว่าเขาไม่ได้เป็นคนร้ายสักหน่อย ตรงข้ามเลยมันแค่รูปลักษณ์ที่โดนตัดสินแค่นั้น
ส่วนนักแสดงนำอย่าง Jared Leto ร็อคสตาร์มากความสามารถ การมารับบท Morbius ส่วนหนึ่งก็เพราะอยากจะพิสูจน์ตัวเองในบทแอนตี้ฮีโร่อีกครั้ง ฝีมือการแสดงชื่อเสียงเก่าๆช่วยหนังได้มาก แม้เนื้อหาจะเดินตามสูตรหนังฮีโร่ทั่วไป ปูพื้นหลังที่มาที่ไป รู้สึกว่าเขาตีความเป็นตัวละครแวมไพรส์ให้ออกมาดีกว่าที่เราคาดคิดเอาไว้ พอแปลงกายเป็นแวมไพรส์ดูดาร์ดดูโหด เสื้อผ้าหน้าผมคอสตูมช่วยเขาได้เยอะ คือออกแบบใช้ได้ พอได้เห็นฉากแอ็คชั่นความเร็ว การควบคุมพลังค้าวคาว หรือคลื่นไฟฟ้า คือหนังพยายามดึงจุดเด่นตัวละครนี้จากคอมมิคออกมาเพื่อให้มีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ เอาเป็นว่า Jared แบกเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบได้สบาย ทำให้หนังดูเพลินๆแบบไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อน
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Jared Leto ยอมพักวง Thirty Seconds to Mars ในระหว่างทัวร์ในยุโรปเพื่อมาถ่ายทำหนัง
- Jared Leto คือตัวเลือกเดียวของผู้กำกับในการรับบท Morbius
- Daniel Espinosa ผู้กำกับได้แรงบันดาลใจในการดีไซต์โทนเรื่องมาจากการ์ตูน Pokemon