The Adam Project (2022)

ย้อนเวลาหาอดัม

The Adam Project Poster
7.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังไซไฟที่มีกลิ่นอายยุค 70-80 ขายความกวนๆของขุ่นพี่ไรอัน เรย์โนลด์ งานวิชวลเอฟเฟ็กดีงามทำให้เรื่องราวย่อยง่าย แต่ที่เด็ดคือหนูน้อย วอล์คเกอร์ สโคเบลล์ ที่เล่นได้ดีเกินคาด

หมวดหมู่ : Adventure Sci-Fi
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Shawn Levy
ความยาว : 1 ชั่วโมง 48 นาที
นักแสดงนำ : Ryan Reynolds, Walker Scobell, Zoe Saldaña

คำคมจากภาพยนตร์

"I think that being angry is easier to do than being sad, and when I grow up, I start to not being able to tell which one is which."
"ผมคิดว่าการโกรธ มันแสดงออกได้ง่ายกว่าการเสียใจ และเมื่อผมโตขึ้น ผมก็เริ่มแยกมันไม่ออก"

เรื่องย่อ

อดัม รี๊ด นักบินจากโลกอนาคตปี 2050 ย้อนเวลามาเจอตัวเองในปี 2022 ที่เป็นเด็กอายุ 12 ขวบ เป้าหมายคือเพื่อหยุดยั้งจุดกำเนิดของเครื่องย้อนเวลาในโลกที่สร้างโดยพ่อของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว และตามสืบหาสาเหตุของการหายตัวไปของภรรยาของเขาที่ชื่อว่า ลอร่า ที่คาดว่าอาจจะเกี่ยวกับบริษัทผู้สร้างเครื่องย้อนเวลานี้เอง

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Adam Project คือหนังไซไฟที่เหมาะกับกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย คนดูจะได้รับความเพลิดเพลินเพราะหนังมีกลิ่นอายแบบหนังยุค Steven Spielberg ยุค 80 หนังผจญภัยข้ามเวลาในแบบที่ดูง่าย ย่อยง่าย และบันเทิงได้แบบเต็มอิ่มตลอดเวลาของหนัง เพราะมันมีทั้งความรู้สึก สนุก ตื่นเต้น ตลก และชวนลุ้นไปกับภารกิจของตัวเอกที่ต้องกลับไปแก้ไขสถานการณ์ตัวเองที่เคยทำผิดพลาด ยิ่งหนังมาอยู่ในมือเจ้าพ่อหนังคอเมดี้อย่าง Ryan Reynolds มันเลยดูแบบกาวๆมุกตลกการหยอกล้อแซวหนังบ้างเรื่องมีให้เห็นประจำ ดูเถอะไม่ผิดหวัง

  • สายหนังการเดินทางข้ามเวลา
  • สายหนังคอเมดี้
  • สายหนังไซไฟ
  • สายหนังที่ชอบ Ryan Reynolds

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังฟอร์มยักษ์ที่รวมดาราชื่อดังมาร่วมงานกันล้นจอ ใช้พล็อตเดิมๆไม่ต้องแปลกใหม่อะไรมาก เดินเรื่องราวการย้อนเวลาไปหาตัวเองในอดีตเพื่อแก้ไขปัญหาก่อนที่โลกอนาคตที่เขาอยู่จะไม่เหลืออะไร หนังไม่ได้ทิ้งความกวนๆของขุ่นพี่ Ryan Reynolds ที่มีการแซวหนังยำหนังดัง มีบทพูดกวนๆก็พอ ปล่อยให้ตัวละครนำ 2 คนคือ Adam วัยหนุ่มและวัยเด็ก เดินเรื่องราวทำภารกิจกอบกู้โลก สิ่งที่หนังใส่ลงไปคือความเป็นหนังครอบครัวเนี่ยแหละที่เป็นจุดขาย ตัวละครอย่าง Adam ในวัย 12 ขวบมีปมในใจเรื่องพ่อแม่ตัวเองที่แยกทาง กลายเป็นเด็กแสบที่โดนหาเรื่องไปทั่วเพราะบุคลิกที่น่ากลั่นแกล้ง คำพูดคำจาที่ไม่น่าเชื่อถือ พอเมื่อตัวละคร Adam กลับมาเจอตัวเองในสภาพแบบนี้เขาเองก็ไม่ชอบใจเหมือนกัน สิ่งที่หนังทำคือนึกถึงว่าหากเรามีโอกาสย้อนกลับไปเจอตัวเอง เราอยากบอกอะไรหนังสื่อสารตรงนี้ได้เคลียร์ดี เพราะตัวเขาเองก็นิสัยไม่ดีมาตั้งแต่เด็กแล้วเหมือนกัน

สิ่งที่ทำให้หนังน่าดูแม้ว่าบทหนังจะเบาบางอ่อนไปสักหน่อย คือการถ่ายภาพมุมกล้อง การลำดับภาพลำดับเหตุการณ์ การตัดต่อ การวางเฟรมภาพวิช่วลเอฟเฟกต์ทำออกมาได้ดี บางมุมบางช็อตนึกว่าเหมือนหนังไซไฟแบบสตีเว่น สปีลเบิร์ก หรือ Star War ออกมาเลย คือสีสันมันจัดจ้านดีมาก เหมือนกับว่า Shawn Levy จะรู้ว่าจะทำยังไงให้หนังมันน่าสนใจไปได้ตลอดรอดฝั่ง งานโปรดักชั่น CG ทั้งหมดก็ทำได้ดี ปรุงแต่งออกมาได้ดีกว่าหนังโรงบ้างเรื่องซะอีก จุดนี้มันสำคัญมากเพราะทำให้เราได้เห็นฉากแอ็คชั่นไซไฟที่ดูสนุกดูเอามันส์ดูแล้วบันเทิงไม่ต้องคิดอะไรมาก เลยทำให้นักแสดงจากโลกอนาคต หรือช่วงซีนย้อนเวลาได้เล่ยคิวบู๊กันหมด ถือว่าใช้ว่าได้คุ้มค่า

ส่วนนักแสดงนำคงไม่มีใครเด่นเกินเจ้าหนู Walker Scobell แฟนคลับ Ryan Reynolds ผู้ไม่เคยเล่นหนังอะไรมาก่อน ท่องบนพูดเพื่อมาออดิชั่นแล้วค้า Adam ในวัย 12 ขวบไปครอง กลายเป็นเด็กมีปัญหาอารมณ์รุนแรงก้าวร้าว เรียกร้องความสนใจ เป็นคนขี้แพ้ เมื่อมาเข้าฉากกับขุ่นพี่ Ryan ที่ต้องมาเป็น Adam ในตอนโตคือเคมีเข้ากันเปรียบเสมือนฝาแฝด ทั้งคู่เข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ส่วน Ryan ผู้ชายคนนี้ไม่ต้องอะไรมาก แค่มุกตลกบทพูดของเขา ฉากแอ็คชั่นที่เขาเล่นก็สร้างสีสันได้มากพอแล้ว นักแสดงอีก 2 คนที่ไม่พูดไม่ได้คือ Mark Ruffalo นี่แหละ คุณพ่อของ Adam โผล่มาแล้วขโมยซีน การรับบทเป็นนักวิทยาศาสตร์อีกแล้ว เปิดโอกาสให้เขาได้มีฉากแสดงที่เท่ห์ๆมีคุณภาพไม่มากก็น้อยเลยละ ส่วนอีกคนคือ Jennifer Garner แม่ของ Adam ที่มารับมือกับลูกชายเจ้าปัญหา การแสดงของอดีตคนรัก Ben Affleck มาน้อยแต่ไม่ทำให้ผิดหวังเลยละแก

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • หนังเรื่องนี้วางแผนจะทำมาตั้งแต่ปี 2012
  • บท Ryan Reynolds แสดงนำ เดิมทีเป็นของ Tom Cruise
  • Walker Scobell เป็นแฟนคลับ Ryan Reynolds ดูหนังทุกเรื่องทำให้ท่องบทได้สบาย