Petite Maman (2022)

เจ้าหญิงน้อย

Petite Maman Poster
8.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

ความยาวในหนังอาจจะสั้น 72 นาที แต่มันกลับเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข มันอบอุ่นหัวใจมากๆเรียบง่ายละมุนละไม นำพาผู้ชมอยากย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง บทหนังเล่าเรื่องได้คมคายมาก ไม่แปลกใจที่ชนะใจนักวิจารณ์ทั่วโลก

หมวดหมู่ : Drama Fantasy
สัญชาติ : French
กำกับโดย : Céline Sciamma
ความยาว : 1 ชั่วโมง 12 นาที
นักแสดงนำ : Joséphine Sanz,Gabrielle Sanz, Nina Meurisse

คำคมจากภาพยนตร์

"Sometimes secrets are kept, not because of undesireably being told but because of no listeners."
"ความลับบางครั้งไม่ใช่เพราะไม่อยากบอก แต่ไม่มีคนฟังต่างหาก"

เรื่องย่อ

เนลลี เด็กน้อยวัย 8 ขวบ ที่คุณยายเพิ่งเสียชีวิตไป เธอกับครอบครัวเลยต้องไปที่บ้านคุณยาย เพื่อจัดการกับข้าวของทุกอย่าง แต่เรื่องราวก็มาสะดุดลงตรงที่แม่ของเธอหายตัวไปในวันรุ่งขึ้น ซึ่งการไม่มีแม่อยู่ทำให้เด็กน้อยได้เจอเข้ากับเพื่อนใหม่ในป่า โดยที่ มาริยง เด็กหญิงในป่าคนนี้ ก็อายุ 8 ขวบ เท่ากับเธอนั่นแหละ แล้วเพื่อนใหม่คนนี้ยังเป็นคนที่น่าสนิทใจด้วยซะเหลือเกิน จะมีสักกี่คนที่เพิ่งเคยพบ แต่เหมือนรู้จักกันมานานแสนนานแบบนี้บ้างนะ?

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Petite Maman เป็นหนังที่เล่าเรื่องได้เรียบง่ายดูแล้วอบอุ่นหัวใจ นำเสนอความไร้เดียงสาของเด็กน้อยที่ปมกับความเศร้าความสูญเสียกับความไม่แน่นอนเรื่องความเป็นความตาย พล็อตหนังไม่ได้ดราม่าเชิงปรัชญา หนังจึงมีความเป็นหนังครอบครัวกลายๆได้เข้าอกเข้าใจการใช้ชีวิตที่มากขึ้น คนที่ดูหนังเรื่องนี้คือคนที่ชอบความสัมพันธ์ในครอบครัวโดยเฉพาะสายใยของแม่และลูกที่นำเสนอได้ตรงไปตรงมามากแถมยังแฝงไปด้วยความอ่อนโยน ไม่แปลกใจที่หนังชนะใจนักวิจารณ์ทั่วโลกมันซึ้งกินใจมาก

  • สายหนังรางวัล
  • สายหนังดราม่า
  • สายหนังความสัมพันธ์ในครอบครัว

 

 

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หลังจากที่ถ่ายทอดความรักผู้หญิงได้งดงามยังกับบทกวีใน  Portrait of a Lady on Fire ไปแล้ว มารอบนี้ผู้กำกับหญิงแกร่งจากแดนน้ำหอม Céline Sciamma ก็มาด้วยไอเดียแนวทางใหม่มาในสไตล์หนังดราม่าแฟนตาซีใช้ตัวละครผู้หญิงนำเรื่องเหมือนเช่นเคย เรื่องนี้ดูง่ายมากๆพล็อตแต่ทุกวินาทีของหนังตราตรึงทรงพลังมาก เนื้อหามีกลิ่นอายแบบนิทานก่อนนอน ตลอดทั้งเรื่องเวลาอาจสั้นแต่หนังกลับพาเราโหยหาช่วงชีวิตในวัยเด็กอีกครั้ง ความสนุกสนานแบบไร้เดียงสาไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ต้องแบกรับความรับผิดชอบ แต่ในขณะเดียวกันหนังก็แฝงไปด้วยความเจ็บปวดเรื่องการบอกลา และการมีชีวิตอยู่ของคนมันจะเกิดอะไรขึ้นหากบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับคนรอบข้างเราไม่ทันตั้งตัว เหมือนที่ตัวละครเสียยายที่รักไป และก็เดินเล่นสำรวจพื้นที่รอบๆข้างซุกซนไปตามประสาเด็กอยู่ดีๆกับไปสนิทกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ไม่เคยไปรู้จักอะไรมาก่อน บริเวณกระท่อมกลางป่า  แต่พวกเขากลับสนิทสนมกันรวดเร็วราวกับว่ารู้จักกันมานาน พวกเขาต่างแบ่งปันความสุขกันและกัน ความโศกเศร้าที่เนลลีมีค่อยๆจางหายไป

หนังนำเสนอไอเดียว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากเด็กน้อยคนหนึ่งได้ย้อนเวลากลับไปเจอแม่ของตัวเองในวัยเด็ก มันเหมือนเป็นการย้อนเวลา หากเราได้เห็นกับแม่เราในวัยเดียวกันเราจะรู้สึกอย่างไรบ้าง หนังไม่ได้ทำอะไรให้ซับซ้อนเลย ไม่มีธีมย้อนเวลา มีเพียงแค่ว่าเด็กน้อยวัย 8 ขวบคนหนึ่งมาเล่นสนุกในพื้นที่คุ้นเคยของครอบครัวเธอ แต่หนังแค่ขยายความสัมพันธ์ให้เห็นว่าเรารู้จักแม่ตัวเองดีแล้วหรือยัง แม่ของเธอพบความเศร้าอะไรบ้าง หนังกระเทาะจิตใจผูชมว่าเรามองพ่อแม่ตัวเองยังไง คนที่ผูกพันธ์ทางสายเลือด แม่เราพบเจอเรื่องราวอะไรมาบ้างก่อนจะส่งผลมาที่ชีวิตในปัจจุบัน เพราะข้อความที่หนังแอบแฝงพ่อแม่ก็เคยก้าวผ่านคำว่าเด็กมาก่อน เขาเองก็มีความฝัน พวกเขาก็มีความใสซื่อ มีความรู้สึกนึกคิดไม่ต่างจากเราที่มีความกังวล จิตใจที่อ่อนแอมาก่อน บทหนังมีความเศร้าแฝงไปด้วยความอ่อนโยน เพราะที่ผ่านมาแม่ของเนลลี่ก็มีความทุกข์ก็บอกกับใครระบายอะไรไม่ได้ ทำให้เธอเลือกหายตัวไปแบบไม่บอกไม่กล่าว เธอแค่อยากให้ใครสักคนมาเข้าใจเพียงแต่ว่าคนคนนั้นไม่มีนั้นเอง

บทหนังถ่ายทอดเรื่องราวมิตรภาพได้อย่างงดงามผ่านการแสดงของเด็กน้อย 2 คน Joséphine Sanz และ Gabrielle Sanz ซึ่งทั้งคู่เป็นฝาแฝดกัน ความสนิทชิดเชื้อในชีวิตจริงของทั้งคู่แบกเรื่องราวให้หนังละมุนละไมดูแล้วมีความสุขอมยิ้มกลับมานั่งคิดตามในหลายๆประเด็น เสนอสายสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกที่ได้แบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ร่วมกัน ถึงจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม ก็ทำให้เธอได้เรียนรู้ถึงความเศร้าที่กัดกินในปัจจุบัน เห็นสัจธรรมของชีวิต และการอยู่ร่วมกับความสูญเสีย ที่มีเพียงแค่เวลาเท่านั้น ที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้   2 สาวน้อยถ่ายทอดออกมาจนกลายเป็นหนังเด็กหวานอมขมคล้ายสิ่งที่แอนิเมชั่นค่ายจิบลิของฝั่งญี่ปุ่นนำเสนอมาเป็น 72 นาทีที่คุ้มค่าชีวิตที่ได้ดูมาก ๆ หลังจบเราทั้งยิ้มอย่างปรีดาและร้องไห้กับความเข้าใจตัวละครอย่างที่สุข

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • นักวิจารณ์หนังในภาคพื้นยุโรปยกให้หนังติดท็อปเท็นหนังยอดเยี่ยมปี 2021
  • นี่คือหนังที่ Céline Sciamma กำกับแล้วมีความยาวน้อยที่สุด 72 นาที
  • หนังคว้ารางวัลหนังต่างประเทศยอดเยี่ยมจากเวที Los Angeles Film Critics Association