เรื่องย่อ

เจ้าหน้าที่ด้านการลดจำนวนพนักงานองค์กร ที่คอยเป็นคนพูดให้คำปรึกษาต่อผู้ที่กำลังจะตกงาน เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน โดยบินข้ามรัฐไปมาตลอดหลายวันติดต่อกัน และเฉลี่ยแล้วต่อปีเขาได้กลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเพียงแค่เดือนเศษเท่านั้น แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะไรอัน มีความสุขกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ไม่มีพันธะ โดยมีเป้าหมายในชีวิตในการสะสมไมล์การเดินทางให้ถึง 10 ล้าน แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งเขาเกิดพบรักกับเพื่อนนักเดินทางสาว จึงเกิดระบบความคิดใหม่ และพยายามทบทวนเรื่องของการอยู่แบบไม่มีพันธะ ว่าควรจะลงเอยด้วยการสร้างชีวิตครอบครัวดีหรือไม่

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Up in the Air  เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงของคนที่มีหน้าที่ไปไล่คนออกจากงาน ชีวิตดูเหมือนมีความสุขได้เดินทางสัญจรไปมา แต่ในความจริงแล้วงานแบบนี้ทำให้เขาโดดเดี่ยวจริงๆ และมันยากที่จะสานต่อหรือมีความรักกับใครสักคน หรือไปมีความผูกพันกับใครจริงๆ สุดท้ายมันเลยจบแค่การเป็นคู่นอน หนังมันเลยดูเหงาๆ เหมือนจะมีพร้อมแต่ก็ขาดความรัก ชีวิตไม่ได้เพียบพร้อมสมบูรณ์เสมอไปสำหรับบางคนจริงๆ จอร์จ คลูนี่ย์ สื่อสารประเด็นนี้ออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก ทำให้คนโสดแบบผมก็รู้สึกเหงาไม่ต่างกัน

• สายหนังดราม่า
• สายหนังที่เหมาะกับคนเหงา
• สายหนังที่ชอบ จอร์จ คลูนี่ย์

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังดำเนินเรื่องเรียบง่ายไม่ได้มีอะไรพิเศษแปลกใหม่ ชายหนุ่มผู้เดินทางขึ้นเครื่องบินบ่อย จนหลายๆคนรู้สึกอิจฉา แต่เขากลับมีหน้าที่ไปไล่คนโน่นคนนี่ออกจากงาน เพื่อลดพนักงานให้แค่ละองค์กรน้อย หน้าที่การงานสวยหรูแต่ลึกๆแล้วทำร้ายความรู้สึกผู้คนมาหนักต่อหนัก มันสะท้อนให้เห็นว่ายิ่งทำงานมีภาระมากขึ้นเท่าไหร่ การทำงานของเขาต้องจริงจังมากขึ้นเท่านั้น บทหนังใส่จุดขายคือเมื่อชีวิตของไรอันเป็นแบบนี้ ทำให้เขาไม่ได้อยากมีความสัมพันธ์แบบคนรักกับใคร เพราะมันทำให้เขาเกิดความคิดขึ้นมาว่ามันคือภาระ อาจทำให้ชีวิตขยับขยายไปข้างหน้าไม่ได้อย่างที่หวัง ชีวิตคู่ทำให้เป้าหมายการทำงานอาจสั่นคลอนเขาได้
.

หนังใส่ตัวละครหญิงเข้ามาเพื่อทำให้พระเอกรู้สึกหวั่นไหวกับความเป็นหญิงที่อยู่ตรงหน้า 2 สาว คน 1 คือสาวที่เจอในสนามบิน อีกคนคือผู้หญิงที่ถูกส่งตัวมาฝึกงานไล่พนักงานออกกับเขา มันเริ่มส่งผลต่อชีวิตมุมมองทัศนคติของไรอันไปแล้ว เมื่อเขารู้สึกตัวอีกที เขาก็มีผู้หญิงมาหลับนอนด้วยและมีความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด พอได้เรียนรู้การมีใครสักคนในชีวิตอย่างช้าๆ แต่มันจะสายเกินไปแล้วรึเปล่าที่เราจะใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคนด้วยวัยขนาดนี้ หนังเปรียบเสมือนภาพจำลองของคนที่มีพร้อมทุกอย่างแต่ปราศจากความรัก ที่เขามองว่ามันคือภาระที่หนักอึ่งไม่ต่างจากสัมภาระในกระเป๋าที่เขาต้องแบกขึ้นเครื่องไปในทุกๆครั้ง มันทำให้ชีวิตเขาเดินหน้าไปอย่างช้าเมื่อเจอการเข้ามาของ 2 สาว เขาเลือกจะผละมันออกไปและยืนหยัดกับชีวิตโสดแบบนี้ซะมากกว่า มันคือหนังที่ทำให้คนดูเหงาแต่เชื่อเถอะเวลาที่เรามีความสุขสิ่งที่เรานึกภาพออกคือการอยู่ตัวคนเดียวแบบไม่มีแฟน
.

รู้สึกชอบการแสดงของป๋าจอร์จ คลูนี่ย์มากๆ เราได้เห็นมุมมองทัศนะคติของตัวละครที่ครองตัวเป็นโสดจากนักแสดงวัยเก๋าเจ้าเสน่ห์ผู้นี้ ได้เห็นบทพูดที่ดูแมน การพูดจาโน่นน้าวคนในแต่ละฉาก ส่วนตัวแล้วรู้สึกชอบคาแรกเตอร์นี้มากกว่าผลงานเรื่องอื่นๆซะอีก เวร่า ฟาร์มิก้า สาว Working Woman ที่มาทำให้พระเอกสั่นคลอน เธอมาเติมเต็มให้เราเห็นภาพผู้หญิงที่มีความต้องการอยากจะมีความสุขกับคนรัก ซึ่งไม่ใช่แค่คู่นอน อารมณ์การสื่อสารออกมามันชัดเจนมาก และ แอนนา เคนดริก สาวน้อยผู้มาฝึกงานกับไรอันในเรื่อง มาแต่ละซีนปล่อยพลังการแสดงได้เหลือล้น ชอบที่เธอเข้าฉากกับป๋าจอร์จได้ลงตัวมากๆ