The Unbearable Weight Of Massive Talent (2022)

ข้านี่แหละ นิค ฟักกลิ้ง เคจ

The Unbearable Weight Of Massive Talent Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

นี่น่าจะเป็นหนังที่โดนใจของ Nicolas Cage ในรอบหลายปี ยำหนังบทพูดเก่าๆฉากแอ็คชั่นตัวเองไม่มียั้ง ใส่ความเป็นคอมเมดี้มุกตลกแบบกาวๆ บ้าบอไปให้สุด ดารานำ 2 คนเล่นได้เข้าขากันมาก ไม่แปลกโดนใจนักวิจารณ์ไปเต็มๆ

หมวดหมู่ : Action Comedy
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Tom Gormican
ความยาว : 1 ชั่วโมง 46 นาที
นักแสดงนำ : Nicolas Cage, Pedro Pascal

คำคมจากภาพยนตร์

"To Turn Your Back On That Gift Is To Turn Your Back On The Entire Human Race!"
"การหันหลังให้กับพรสวรรค์ตัวเองนั้นคือการหันหลังให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด!"

เรื่องย่อ

เรื่องราวของ Nicolas Cage ดาราฮอลลีวูดรุ่นใหญ่ตกอับ แม้ว่าในอดีตจะโด่งดังทำเงินมากมาย ทั้ง Con Air และ Face/Off แต่เขากลับต้องมาเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากไม่มีใครจ้างงาน จนต้องจำใจยอมรับข้อเสนอที่ไม่น่าไว้วางใจให้เดินทางไปร่วมงานวันเกิดของมหาเศรษฐีชาวสแปนิช แลกกับเงินหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเขาก็พบว่ามหาเศรษฐีคนนี้เป็นแฟนพันธุ์แท้ของตัวเขาเอง แต่ทว่างานมันดันไม่ได้ง่ายเมื่อเขารู้ความจริงว่านายจ้างคนนี้ค้ายาบ้าที่ CIA ต้องการตัว ทำให้เขาซวยไปเต็มๆและต้องหาทางหนีเอาตัวรอดจากเรื่องบ้าๆนี่ไปให้ได้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Unbearable Weight Of Massive Talent เป็นหนังคอมเมดี้ที่ทำมาเพื่อเอาใจสาวก Nicolas Cage โดยเฉพาะหยอกล้อแซวผลงานในอดีตของเขาแบบยับเยินแต่นำเสนอในมุมมองใหม่ๆที่ดูฮา มันแปลกฉีกกรอบไปจากแนวทางเดิมๆของป๋า Cage บนจะฮาก็ขยี้เอาจะร้องขำ บทจะซึ้งก็หนังเอาซะคาดเดาไม่ถูก คนดูหนังเรื่องนี้จะเป็นสายคอมเมดี้ ดูแบบไม่ต้องคิดเยอะคิดอะไรมาก เนื้อหาเรื่องราวไม่ได้ซับซ้อน เน้นเล่าเรื่องสนุกสนานปูตัวต้นอย่าง Cage โดยเฉพาะ

  • สายหนังคอมคอมเมดี้
  • สายหนัง Nicolas Cage

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หากใครมาบอกว่าหนังเรื่องนี้ไม่น่าดู Nicolas Cage ดาราที่หมดไฟไปแล้ว บอกเลยว่าคิดผิดคิดใหม่ได้เลย หนังเรื่องนี้น่าจะเป็นงานคุณภาพจริงๆในรอบ 15 ปีของเขาเลยก็ว่าได้นับตั้งแต่ National treasure 2 เมื่อปี 2007ที่เรารู้สึกอย่างนั้นเพราะว่าบทหนังทำออกมาค่อนข้างดี หยิบจับเรื่องราวชีวิตของดารารุ่นใหญ่วัย 58 ปีมาตีความได้น่าสนุกสนาน หยอกล้อแซวแบบไม่มียั้งมีค่อนข้างจะบันเทิงมาก มีที่ไหนบทหนังเขียนมาเพื่อให้เป็นป๋า Cage เล่นเป็นตัวเอง หนังค่อยๆเล่าถึงชีวิตปมปัญหาถึงตัวตนของเขา ความสัมพันธ์ในบ้านในครอบครัวกับลูกสาวตัวเองหรืออดีตภรรยาก็ไม่ดี แถมเขายังยึดติดกับความสำเร็จแบบเก่าๆสลัดมันไม่หลุด พล็อตเรื่องดูง่ายซับซ้อน ตบท้ายด้วยความฮาๆที่บันเทิง เราไม่คิดเลยว่าทีมงานจะสร้างสรรค์ไอเดียไดีดี มีที่ไหนแซวยับ Cage ทั้งเรื่องแบบไม่เกรงใจเขาเลย แฟนๆหนังของแอ็คชั่นสตาร์คนนี้ดูแล้วจะร้องกรี๊ด แซวยับทุกเรื่องทุกประเด็นทุกมีมฮา บอกเลยว่า Creative ทีมเขียนบทชุดนี้เก็บรายละเอียดดีมากๆ

หนังมีความฮามีความเพี้ยนมีความกาวผ่านการทับซ้อนตัวละครของ Cage เอง ที่ชีวิตจริงไม่ได้หมดไฟกลับตีความเป็นตัวเองในมุมมองที่ดูแล้วสบายๆ จากดาราไปโชว์ตัวในงานวันเกิดแล้วต้องหาทางหนีตายออกมา เขาจะทำยังไงดีละในเมื่อชีวิตอยู่ดีๆก็มีเงินใช้แต่เงินที่จะได้มานั้นสกปรก ตามมาด้วยนายจ้างเขาดันคลั่งไคล้เขามากไม่ยอมให้เขาเลิกเล่นนั้น มันเลยทำให้การเดินเรื่องลากยาวแล้วไม่มีอะไรน่าเบื่อหรืออยากเดินหนี นอกจากจะแซวงานเก่าๆของ Cage แล้ว หนังยังผสมผสานความเป็นแอ็คชั่นกับคอมเมดี้ได้ลงตัว ดาราที่ครั้งหนึ่งผ่านงานแอ็คชั่นมาโชกชวนก็ต้องมาสืบหาข้อมูลช่วยเหลือทางการซะอย่างนั้น หน้าหนังไม่ได้แซวงานเก่า Cage แต่ยังแซวหนังดังๆมากมาย โปรดักชั่นลงทุนใช้งาน การวางเฉดภาพให้ใกล้เคียงกับคิวบุ๊งานแอ็คชั่นเก่าๆของ Cage นึกถึงคิวบู๊แบบเก่าๆเหมือนกันนะ เหมือนจงใจทำมาคาระวะงานระดับตำนานของป๋าเขาเลยละ

ที่ไม่พูดไม่ได้หากไม่มีเขาคนนี้ คงไม่มีหนังเรื่องนี้ที่กลับมาท็อปฟอร์ม Nicolas Cage แสดงเป็นตัวเองและตรงกับชีวิตจริงด้วย เราค่อนข้างชอบที่ได้เห็นป๋ามาเล่นหนังสไตล์คอมเมดี้ที่ไม่ต้องดูซีเรียสจริงจังมากเกินไป ภาพที่ออกมามันเลยเป็นหนังกาวๆที่ดูเอามันส์เอาฮาได้ทุกเมื่อ การยำผลงานตัวเองก็เป็นมุมมองที่ดีเหมือนกันนะ เพราะเขาเกิดจากผลงานดังๆมากมาย ทำให้แฟนคลับจดจำเป็นเรื่องที่ดี ยิ่งมาแสดงร่วมกับ Pedro Pascal นักแสดงชาวชิเลี่ยนที่เป็นแฟนคลับเขาอีก มันเลยเข้าขาสนุกสนาน ปล่อยมุกฮา มีจังหวะนรกให้ดูตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นฉากแอ็คชั่นฉากดราม่านับถือหัวจิตหัวใจทั้งคู่มากเล่นใหญ่บทพูดไฟแลบมาก มันเลยทำงานกับคนดูอย่างเราที่เติบโตมากับหนังของ Nicolas Cage มาก กลายเป็นงานที่เติมเต็มหัวใจเราอีกครั้งที่ได้เห็นบทที่ดีของ Cage อีกครั้ง

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • Nicolas Cage ปฏิเสธบทหนังเรื่องนี้ในตอนแรก เพราะเขาคิดว่าจะมาทำหนังล้อเลียนเขา
  • Daniel Day-Lewis และ Christian Bale เป็นตัวเลือกสำรอง ถ้าหาก Nicolas Cage ปฏิเสธบทนำ
  • นักวิจารณ์ยกย่องหนังเรื่องนี้ว่าเป็นผลงานที่ดีของ Nicolas Cage ในรอบเกือบ 20 ปี
  • Pedro Pascal ตอบรับเล่นหนังเรื่องนี้เพราะเป็นแฟนคลับ Nicolas Cage