The Mauritanian (2021)

พลิกคดี จองจำอำมหิต

The Mauritanian Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

นี่คือการถ่ายทอดความโหดร้ายป่าเถื่อนของระบบทหาร ที่มีต่อผู้บริสุทธิ์ได้ตรงไปตรงมาและสะเทือนอารมณ์คนดู เปิดโปงความชั่วร้ายของรัฐได้แบบเจ็บแสบ

หมวดหมู่ : Drama
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Kevin Macdonald
ความยาว : 2 ชั่วโมง 9 นาที
นักแสดงนำ : Jodie Foster, Tahar Rahim, Shailene Woodley, Benedict Cumberbatch

คำคมจากภาพยนตร์

“I believe this court decides by law not fear"
“ผมเชื่อว่าศาลนี้ตัดสินโดยกฎหมาย ไม่ใช่ความกลัว"

เรื่องย่อ

หนังว่าด้วยเรื่องราวของ โมฮัมมาดู สลาฮี ชาวมอริตาเนียที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์ 911 และถูกจับตัวไปโดยถูกคุมขังอยู่ที่ คุกกวนตานาโม ถึง 14 ปี โดยไม่มีการแจ้งข้อหา แถมยังถูกซ้อมทรมานให้รับสารภาพอย่างหนักหน่วง โชคดีว่าเขาได้พบทนายความหญิงที่กล้าหาญเข้ามาช่วยเหลือจนได้รับอิสระ

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Mauritanian ก็เป็นหนังที่เหมือนเป็นการแฉระบบฉ้อฉลของอเมริกาเอง ที่ทำเนื้อหาออกมาได้เข้มข้น น่าสนใจ และชวนสิ้นหวังกับกระบวนการยุติธรรมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงท้ายๆ ของหนังก็ทำเราเห็นใจตัวละครจนน้ำตาแทบไหล แม้จะมีฉากอืดๆ อยู่บ้างแต่ก็ไม่เยอะมากนัก เราว่าหนังมีเนื้อหาที่หนักอิงเกมการเมืองมากและทิศทางก็อิงมาจากเรื่องจริงจากเหตุการณ์ 11 กันยายน นับเป็นหนังรางวัลระดับดีอีกเรื่องที่อยากให้ได้ชมกัน คนชอบสไตล์แบบนี้น่าจะถูกใจ
  • สายหนังการเมือง
  • สายหนังดราม่า
  • สายหนังที่ชอบดูความไม่ยุติธรรม
  • สายหนังทีี่แฉอเมริกา

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังอาจดูน่าเบื่อโหดร้าย ทนายความว่าความให้นักโทษแต่ๆลึกๆแล้วเรื่องราวมันมีมากกว่านั้น นักโทษคน 1 โดนจับโดนไม่มีการแจ้งข้อหามาก่อน เขาเพียงแค่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าอยู่ในขบวนการอัลกออิดะฮ์ เหตุการณ์ 9/11 จากนั้นเขาก็โดนซ้อมอย่างหนัก โดนทรมาน ทารุณอย่างโหดร้าย บีบให้นักโทษยอมรับความผิดแบบไม่รู้ตัว ไร้โอกาสที่จะได้พบญาติ ไม่มีหนทางที่จะไปต่อสู้คดีได้เลย เป็นสิ่งที่แสดงออกแบบป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรม ทำเหมือนไม่ใช่คน เพียงเพราะว่าคนนี่คือคนมุสลิม หนังจึงมีกลิ่นอายความอคติความบาดหมาง เหมารวมว่าคนโน่นคนนี่เป็นศัตรูของชาติตัวเองไปหมด

จากนั้นหนังก็มาถึงการต่อสู้ของทนายความสาวและล่ามแปลภาษาเข้ามา เป็นคนกลางต่อสู้และว่าความให้ โมฮัมมาดู สลาฮี โดยไม่เกรงกลัวต่ออำนาจรัฐ พวกเขารู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ จึงต้องพูดคุยเก็บหลักฐานหาข้อเท็จจริง แต่คู่ต่อสู้ในครั้งนี้คือ สจวร์ต เคาช์ อัยการทหารสุดโหดที่ต้องการจะปิดคดีประหารชีวิตนักโทษคนนี้ซะเลย และต้องมานั่งหาหลักฐานต่อสู้กัน หนังเหมือนสะท้อนให้เห็นถึงด้านมืดของสหรัฐ ใช้อำนาจการปกครอง มาเล่นงานผู้บริสุทธิ์โดยไม่ได้อิงสิทธิ์ความเป็นคนเลย เพราะเชื่อมั่นในหลักฐานตัวเองแน่นหนาแต่พอต่อสู้คดีแพ้ก็หาหนทางมาเล่นงานอีกฝ่ายอีกครั้ง และก็ทำให้เนื้อหาบานปลายไปกันใหญ่ เนื้อหาจึงมีความตึงเครียดทำให้เราต้องมาลุ้นว่าบทสรุปสุดท้ายแล้วว่าช่องโหว่อะไรที่ทำให้ โมฮัมมาดู สลาฮี หลุดคดีในครั้งนี้ อยากให้แฟนหนังไปหาคำตอบกันเอาเอง เพราะดูแล้วก็รู้สึกสะเทือนใจพอควร

กลุ่มนักแสดง โจดี้ ฟอสเตอร์ ทนายความสาวผู้ทวงความยุติธรรมให้นักโทษผู้บริสุทธิ์ ชอบคาแรกเตอร์แนนซี่ในหนังสู้หยิบตาเพื่อให้ โมฮัมมาดู โอ ซาลาฮี พ้นผิด,ทาฮาร์ ราฮิม นักแสดงหน้าใหม่ที่มาเป็นนักโทษ เป็นคีย์แมนหลักของเรื่อง แม้จะเป็นแค่การแสดงแต่รับรู้ว่ามันสะเทือนใจที่ต้องมารับบทคนที่โดนกระทำแบบนี้ เขาตีบทแตกทำให้คนดูอินไปตามๆกัน, เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ ทหารสุดโหด ออกเยอะปล่อยอารมณ์มาได้เต็มที่ ไม่ทำให้แฟนหนังผิดหวัง

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • หนังเรื่องนี้ใช้เวลาถ่ายทำไป 7 เดือน
  • จริงๆแล้ว Jodie Foster พูดภาษาฝรั่งเศสได้คล่อง แต่บทที่เธอเล่นเพื่อคุยกับนักโทษดันบอกว่าไม่ให้พูดต้องมีล่ามผู้ช่วย
  • Benedict Cumberbatch เป็นคนอังกฤษแต่ต้องรับบทเป็นทหารอเมริกา ทำให้ต้องปรับสำเนียงการพูดเล็กน้อย