เรื่องย่อ

เรื่องราวความสัมพันธ์ของสองวัยรุ่นที่ป่วยเป็นมะเร็ง เฮเซล คือเด็กสาวที่เป็นมะเร็งปอดโดยต้องพึ่งถังออกซิเจนติดตัวเป็นดั่งคู่ซี้ และ กัส คือเด็กหนุ่มที่เสียขาข้างหนึ่งไปเพราะโรคร้ายที่เกาะกิน ทั้งสองได้พบกันและเกิดเป็นความเข้าอกเข้าใจร่วมกันจนนำไปสู่การเดินทางเพื่อเติมเต็มความฝันและการได้ตกหลุมรักใครคนหนึ่งอย่างหมดหัวใจ

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Fault in Our Stars คือหนังสายดราม่าโรแมนติกที่เรียกน้ำตาผู้ชมจนน้ำตาแตกมาแล้ว เมื่อปี 2014 บทหนังดัดแปลงจากหนังสือสุดฮอตที่เนื้อหากินใจ พล็อตอาจดูธรรมดาไม่ได้พิเศษอะไร แต่พลังจากนักแสดงทราบซึ้งกินใจ เจ็บปวดแต่ก็สร้างความสุข คนที่เส้นตื่นเมื่อดูแล้วอาจต้องร้องไห้แน่ๆ

• สายหนังดราม่า
• สายหนังโรแมนติก
• สายหนังเรียกน้ำตาผู้ชม

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หน้าปกหนังอาจดูเป็นหนังดราม่าซึ้งเรียกน้ำตา แต่เนื้อหาข้างในมันมีอะไรมากกว่าที่คนทั่วไปคิด บทหนังมีวิธีการเล่าเรื่องที่ดูสุขุมไม่ดาร์คไม่แรง พยายามอยู่ในพื้นฐานความเป็นจริง ตัวละครหลัก 2 คนที่ป่วยหนักเป็นมะเร็ง ที่พบกันจนเกิดเป็นความรู้สึกผูกพันและชอบกัน โดยที่พยายามใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีความสุขเคียงข้างกัน ไม่เลี่ยนไม่หวาน ไม่ฟูมฟาย ปล่อยให้อารมณ์ของหนังพาคนดูเอาใจช่วยความสัมพันธ์ของตัวละคร จุดนี้ทำให้หนังดูมีอะไรมากกว่าหนังรักที่บีบน้ำตาทั่วไป

จุดที่ชอบมากคือบทหนังสร้างอิมแพ็คให้ผู้ชมนำความเลวร้ายของโรคมะเร็งมาถ่ายทอดผสมผสานกับความรักวัยรุ่นที่มอบแง่คิดเอาไว้มากมาย ให้กำลังกับทุกๆชีวิตที่ต่อสู้กับโรคร้ายอย่างมีสติ บ่งบอกให้คนทั่วไปได้รู้ว่าชีวิตมันมีคุณค่าจะคนที่สมบูรณ์แบบ หรือไม่เพอร์เฟ็คก็มีหัวใจ แม้ตัวหนังจะดำเนินเรื่องง่ายๆ แต่บิ๊วอารมณ์ได้มากมาย นอกจากนี้ยังมีการสอดแทรกความสำคัญของสถาบันครอบครัวเอาไว้ ซึ่งสื่อให้เห็นถึงความอบอุ่นของพ่อแม่ลูกที่พร้อมยื่นเคียงข้างในช่วงเวลาทุกข์ยากอีกด้วย

นอกจากการเล่าเรื่องดีแล้ว ถ้าหากขาดนักแสดงนำ 2 คน เชลีน วูดลีย์ และ แอนเซล เอลกอร์ท สร้างความน่าเชื่อถือให้คนดูว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าจอคือคู่รักที่เป็นโรคมะเร็งแล้วอยากเติมเต็มให้กัน เคมีของทั้ง เชลีน และแอนเซล ประจวบเหมาะลงตัวมากๆ เมื่อแสดงร่วมกันในทุกๆซีน ดึงน้ำตาคนดูจนบ่อน้ำตาแตกมาแล้ว และทำให้ตัวหนังถูกพูดถึงปากต่อปากและยังครองใจคนเรื่อยมา