The Conjuring 3 The Devil Made Me Do It (2021)
คนเรียกผี 3 มัจจุราชบงการ
คะแนน
โกดังหนัง
ภาคที่ 3 ของคู่ผัวเมียปราบผี ที่ดรอปโทนความน่ากลัวลงไม่น้อย
แต่เพิ่มสีสันและปูทางไปสู่หนังสืบสวนที่เหนือธรรมชาติแทน
คำคมจากภาพยนตร์
“Being brave doesn't mean you're not scared. It means you are scared but you hang in there.”
“การมีความกล้านั้นไม่หมายความว่าคุณไม่กล้วอะไร แต่หมายถึงแม้จะกลัวแต่คุณก็ยังทนอยู่ให้ไหวได้
เรื่องย่อ
ปี 1981 นั้น Ed และ Lorraine ถูกขอความช่วยเหลือให้ไปช่วยดูอาการของ David Glatzel เด็กน้อยที่มีลักษณะเหมือนผีเข้าอย่างรุนแรง ในขณะที่พวกเขากำลังทำการไล่ผีนั้น Arne Johnson แฟนหนุ่มของพี่สาว David ก็บอกให้ปีศาจปล่อย David แล้วเอาตัวเขาไปแทน จนสถานการณ์ทุกอย่างก็เหมือนจะสงบลง แต่แล้วไม่กี่วันต่อมา Arne ก็ได้ฆ่า Bruno Sauls เจ้าของที่ดินที่เป็นเพื่อนกับเขาโดยการใช้มีดแทงไม่ยั้ง โดยที่อ้างว่าทำลงไปเพราะถูกปีศาจควบคุมอยู่ จนทำให้ Ed และ Lorraine ต้องเข้ามาช่วยพิสูจน์ในสิ่งนี้ต่อกระบวนการกฏหมาย
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ The Conjuring 3: The Devil Made Me Do It นั้น เป็นภาคต่อที่ดูพยายามทดลองอะไรใหม่ๆ อยู่ไม่น้อย จนผลที่เกิดขึ้นคือความสยองที่อาจจะดรอปลงไปอยู่สมควร หรือในแง่มุขใหม่ๆ ในการหลอกหลอนก็ไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก แต่หนังไปโฟกัสที่พาร์ทการสืบสวน ที่คู่สามี ภรรยา Warren นั้นได้เข้ามาช่วยเหลือตำรวจในการสืบสวนคดีที่ไม่น่าจะเป็นไปได้มากกว่า แต่โดยรวมแล้วก็ยังน่าจะโดนใจคอหนังชุดนี้ ที่ติดตามหนังเรื่องก่อนๆ ในจักรวาล The Conjuring มากันอย่างเหนียวแน่นดี แม้ว่าจะแอบดรอปไปสักนิดก็ตาม
- สายหนังไล่ผี
- สายหนังสยองขวัญผีเข้า
- สายหนังสยองคุณภาพดี
รีวิว / สรุปเนื้อหา
The Conjuring นับเป็นอีกแฟรนไชส์หนังสยองขวัญคุณภาพ ที่ปั้นมาโดยผู้กำกับมือดีอย่าง James Wan ที่นอกจากจะพาหนังในภาคแรกไปสู่ความสำเร็จได้แล้ว ยังแตกหน่อแยกจักรวาลต่างๆ ออกมาได้มากมาย โดยอาศัยผู้กำกับเด็กปั้นหลายๆ คนมาสานต่อเจตนารมณ์นี้ ซึ่งในภาคล่าสุดอย่าง The Devil Make Me Do It ก็ได้ Michael Chaves ผู้กำกับที่เคยมีผลงานในจักรวาลนี้มาก่อนแล้วอย่าง The Curse of La LLorona หรือคำสาปหญิงร้องไห้ ที่ส่วนตัวค่อนข้างชอบในมุขในที่หลากหลาย และความโหดของตัวผี แต่หลายคนกลับไม่ค่อยชอบ จนโดนวิจารณ์ยับและถอดออกจากจักรวาลไป
กลับมาที่เรื่องราว The Conjuring ในภาคนี้ ที่หยิบเอาคดีดังของ Arne Johnson มาใช้ จากการที่ชายคนหนึ่งได้ลงมือฆ่าเจ้าของที่ตัวเอง แต่กลับให้การว่าเขาถูกปีศาจเข้าสิงและสั่งให้เขาเป็นคนทำ ซึ่งมันก็สร้างความฉงนมากๆ กับคนที่รับรู้ข่าวสาารนี้ หรือแม้แต่ศาลเองก็ยังงงว่าจะพิจารณาคดีสุดพิสดารนี้ยังไง การเล่าเรื่องของภาคนี้ จึงลดทอนในด้านความสยองลง และเน้นพาร์ทสืบสวน เพื่อให้เหตุผลประกอบคดีเสียมากกว่า และมีมุมที่ทำให้เราได้เห็นการทำงานร่วมกันของคู่สามี ภรรยา Warren และฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมากขึ้น เพื่อปูทางสู่ภาคต่อๆ ไป ที่พวกเขาจะมีเคสร่วมกันอีกมาก
ในพาร์ทสยองนั้นก็ไม่ได้นับว่าแย่เสียทีเดียว ในแง่โปรดักชั่น การหลอกอะไรก็ยังทำได้บันเทิงอยู่ เพียงแต่อาจจะไม่ได้ทำให้คนดูรู้หวาดกลัวได้ขนาดนั้น ในส่วนมุขก็ยังคงเล่นรูปแบบเดิมๆ ยังไม่ค่อยมีอะไรใหม่นัก แต่ส่วนที่หนังยังเก็บเอาไว้ และเอามาใช้ได้ดีเห็นจะเป็นในเรื่องความสัมพันธ์ของคู่สามี ภรรยา ที่ต่างประคับประคองดูแลกัน จนรู้สึกได้ว่าพวกเขาตายแทนกันได้ เลยเกิดเป็นโมเมนท์โรแมนติคในหนังสยองขวัญที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักออกมาได้ลงตัวดี จนทำให้ภาพรวมภาคนี้แม้จะดรอปที่ความสยอง แต่ก็เติมเต็มมาด้วยพาร์ทสืบสวน และความสัมพันธ์แทน จนรู้สึกว่าแม้จะไม่ค่อยคุ้นลิ้นหน่อย แต่ก็ยังดูเพลินได้อยู่
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- ลอเรน วอร์เรน ตัวจริงได้เสียชีวิตอย่างสงบไปเมื่อวันที่ 18 เมษายนปี 2019 ด้วยอายุ 92 ปี โดยที่เธอเองเป็นที่ปรึกษาระดับกิตติมศักดิ์ให้กับหนังชุด The Conjuring มาโดยตลอด จนน่าสนใจว่าในภาคต่อไปที่ไม่มีข้อมูลจากปากเจ้าตัวจะออกมาอย่างไร
- หลังจากศาลพิจาราณาคดีอยู่หลายชั่วโมง สุดท้ายแล้ว Arne ก็ได้รับข้อหาฆาตกรรมในขั้นต้น และถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 10-20 ปี แต่ด้วยความประพฤติตัวอย่างดี สุดท้ายแล้วโทษจึงลดลงเหลือเพียง 5 ปีเท่านั้น
- ผู้กำกับภาคล่าสุดอย่าง Michael Chaves บอกว่า เขาจะใช้เวลากับภาคต่อๆ ไปของ The Conjuring ในการสำรวจคดีในยุค 80s ไปก่อน เพราะมันเป็นยุคที่ผู้คนหวาดกลัวกับลัทธิซาตานกันอย่างมาก