Shutter Island (2010)

เกาะนรกซ่อนทมิฬ

Shutter Island Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังสายสืบสวนจิตวิทยาชั้นเยี่ยมให้ยุค ท่ามกลางบรรกาศสุดหลอน และความจริงของเรื่องราวที่จะทำให้ช็อคจนอ้าปากค้าง

หมวดหมู่ : Mystery Thriller
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Martin Scorsese
ความยาว : 2 ชั่วโมง 18 นาที
นักแสดงนำ : Leonardo DiCaprio, Emily Mortimer, Mark Ruffalo

คำคมจากภาพยนตร์

“Crazy people, they’re the perfect subjects. They talk, nobody listens.”
“พวกคนบ้านี่แหละ ที่จะเป็นตัวทดลองชั้นดี เพราะเมื่อพวกพูด ก็จะไม่มีใครฟัง"

เรื่องย่อ

เท็ดดี้ นายตำรวจหนุ่มที่มีอดีตอันขมขื่นจากการสูญเสียภรรยาไปในกองเพลิง เขาเข้ามาสืบคดีนักโทษหายบนเกาะแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า Shutter Island ร่วมกับคู่หูตำรวจหน้าใหม่อีกคนอย่าง ชัค ท่ามกลางบรรยากาศสุดหลอน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์แปลประหลาดมากมายขึ้นบนเกาะแห่งนี้ ทั้งความฝันประหลาดถึงคนรักเก่า รวมถึงบรรดาเจ้าหน้าที่บนเกาะที่มีบุคลิกชวนสงสัย แถมพอยิ่งสืบไปสืบมา บรรดาแพทย์บนเกาะก็ยังลงความเห็นว่าเขาบ้าไปอีก เขาจึงต้องหาทางพิสูจน์ความจริง และคลี่คลายปริศนาอันแสนลึกลับบนเกาะแห่งนี้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Shutter Island นั้น จะว่าหนังมันดูยาก มันก็ยากในระดับหนึ่งแหละ แต่มันก็ไม่ใช่หนังประเภทที่คอหนังสืบสวนสอบสวน ในบรรยากาศสุดระทึกขวัญจะพลาดได้เหมือนกัน ด้วยคุณภาพที่เต็มเปี่ยม ทั้งทีมดารา บท การเล่าเรื่อง งานโปรดักชั่นแล้วก็เรียกได้ว่าครบเครื่อง ซึ่งความยากที่ว่านี้ จริงๆ แล้วถ้าตั้งใจดูแล้วคิดตามก็รู้สึกว่า น่าจะสนุกไปกับหนัง และเข้าใจมันในตอนเฉลยได้เอง ทำให้ใครที่ชอบหนังสืบสวนจิตวิทยาแบบ Seven, Prisoners แล้ว นี่คือหนังสืบสวนสับขาหลอกอีกเรื่องแห่งยุคนี้เลย

  • สายหนังสืบสวนสุดระทึก
  • สายหนังสืบสวนจิตวิทยา
  • สายหนังระทึกขวัญหาความจริง

รีวิว / สรุปเนื้อหา

การได้เห็นชื่อผู้กำกับรุ่นปู่อย่าง Martin Scorsese ประกอบกับดาราสายรางวัลอย่าง Leonardo DiCaprio แล้ว คงจะเดาคุณภาพของหนังกันได้ไม่ยากว่าต้องออกมามีคุณภาพอย่างแน่นอน และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ กับหนังแนวระทึกขวัญผสมผสานกับเรื่องจิตวิทยาเรื่องนี้ ที่ได้รับคำชมไปอย่างล้นหลาม นอกจากยอดฝีมือทั้งสองจากการกำกับและการแสดงแล้ว ต้องขอบคุณทีมโปรดักชั่นของหนังที่สรรค์สร้างฉาก และบรรยากาศบนเกาะได้ออกมาอึ่มครึม ชวนไม่ไว้วางใจ จนหากจะมีสิ่งเหนือธรรมชาติออกมาในฉากก็จะไม่แปลกใจเท่าไรนัก 

ในตัวบทของหนังสร้างออกมาได้มีความลึกลับซับซ้อน ชวนติดตามไปกับเรื่องราวได้มากเหลือเกิน เพราะหนังเองก็ค่อยๆ หยอดปมเอาไว้รายทาง ผสมผสานไปกับอดีตของตัวเอกที่กำลังค่อยๆ เปิดเผยมากขึ้น ซึ่งทำให้คนดูไม่สามารถละสายตาไปได้เลย เพราะไม่งั้นจะหลุดจากหนังจนต่อไม่ติดแน่ๆ เพราะทุกๆ ฉากในหนังล้วนมีความหมายที่เป็นเหมือน Puzzle ให้คนดูได้ลองหยิบเบาะนั้นมาผสมกับหลักฐานนี้ จนสนุกไปกับการคาดเดาทั้งเหตุการณ์ต่อไปและบทสรุปสุดท้ายของหนังได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฉากย้อนอดีต ที่ดูเหมือนจะเป็นกุญแจสำคัญในการคลี่คลายปมในจิตใจของตัวละครไปด้วย

ซึ่งในระหว่างที่เรากำลังคิดเพลินๆ ไปกับหนังนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่หลงติดกับดักที่หนังวางเอาไว้มากขึ้นเรื่อยๆ และอาจมีเขวคาดเดาไปต่างๆ นานา จนไปถึงบทสรุปสุดท้ายของมันที่เราต้องยกนิ้วให้ไม่ว่าจะทายถูกหรือไม่ก็ตาม แม้ความยาวหนังจะยาวเกือบ 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะหนังนั้นสร้างความน่าติดตาม ให้เสพบรรยากาศ หลอกล่อเราให้คิดตามตัวละครไปได้ตลอดทั้งเรื่องเลยจริงๆ นับเป็นอีกหนังสืบสวน ระทึกขวัญ จิตวิทยา ดราม่า ที่ผสมผสานกันออกมาได้กลมกล่อม และมีความโดดเด่นในทุกทางจนควรค่าเก็บเข้าโกดังหนังในใจใครหลายๆ คนจริงๆ 

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • Mark Ruffalo ได้บทของคู่หูตำรวจอย่าง Chuck Aule มาจากการที่เขาส่งจดหมายแบบ Fanclub ไปถึงปู่ Martin Scorsese ที่เป็นผู้กำกับว่า เขาอยากร่วมงานด้วยขนาดไหน ซึ่งปู่ก็คงเห็นใจแล้วเลือกมาเล่นในหนังเรื่องนี้
  • หนังสร้างมาจากนิยายในชื่อเดียวกันในปี 2003 ของนักเขียนมือดีอย่าง Dennis Lehane ที่เคยมีผลงานที่ถูกเอามาสร้างเป็นหนังดังๆ คุณภาพดีมากมายตั้งแต่ Mystic River, Gone Baby Gone ด้วย
  • แม้แต่ผู้กำกับสายเนี้ยบอย่าง David Fincher ก็เคยถูกพิจารณามาเป็นผู้กำกับของหนังเรื่องนี้ ซึ่งเชื่อได้ว่า ได้จะออกมาด้วยโทนที่คล้ายๆ กันนี่แหละ