![](https://kodungmovie.com/wp-content/uploads/2021/07/merlin_165236463_0cf5d864-13ad-46ff-93c4-0f240fe4a1f2-superJumbo-e1626847222370.jpg)
Portrait of a Lady on Fire (2020)
ภาพฝันของฉันคือเธอ
![Portrait of a Lady on Fire Poster](https://kodungmovie.com/wp-content/uploads/2021/07/054c24a1.jpg)
คะแนน
โกดังหนัง
นี่คือ Call Me By Your Name เวอร์ชั่นผู้หญิงที่เล่าเรื่องได้อย่างงดงามไร้ที่ติ สะกดผู้ชมได้อยู่หมัดด้วยบทพูดที่คมคายละมุนละไม ตราตรึงใจไปกับมุมมองความรักแบบผู้หญิงด้วยกัน
คำคมจากภาพยนตร์
"In solitude, I felt the liberty you spoke of. But I also felt your absence." "ในความเดียวดายนี้ ฉันรู้สึกถึงเสรีภาพที่เธอพูดออกมา แต่ฉันก็ยังรู้สึกถึงการไม่มีตัวตนของเธอ"
เรื่องย่อ
มารียาน จิตรกรสาวถูกจ้างมาวาดรูปของ เอลูอิส ลูกสาวคนเล็กของบ้านผู้มีอันจะกิน เพื่อส่งไปนัดดูตัว หากฝ่ายชายชอบรูปของเธอพวกเธอจะได้แต่งเข้าตระกูลใหญ่ที่มิลาน แต่เอลูอิสไม่ต้องการจะแต่งงาน แม่ของเอลูอิส จึงบอกให้มารียานแสร้งเป็นคนที่ถูกจ้างให้มาเดินเล่นด้วย แล้วแอบจำใบหน้าของเอลูอิสกลับไปวาดรูปเหมือนตอนกลางคืน แต่บนเกาะอันห่างไกล ความสัมพันธ์ของ 2 หญิงสาว พัฒนาไปมากกว่าแค่เพื่อนคลายเหงา หรือ จิตรกรและแบบวาด
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Portrait of a Lady on Fire จัดอยู่ในหมวดหนังอาร์ตที่ชูประเด็นหญิงรักหญิงได้อย่างละะมุนละไม มุมมองความรักที่โดนมองว่าไม่ถูกไม่ควร กลับถูกนำมาตีความได้มีชั้นเชิง ผ่านทางภาษาที่สละสลวย เติมเต็มประเด็นเพศหญิงยุคเก่า เราว่าคนที่เป็น LGBT หรือหญิงรักหญิงจะชอบเรื่องนี้เพราะเนื้อหาไม่ฟูมฟายเลยสักนิด
- สายหนังอาร์ต
- สายหนังรัก
- สายหนัง LGBT
รีวิว / สรุปเนื้อหา
![](https://kodungmovie.com/wp-content/uploads/2021/07/TheMo_portrait_of_a_lady_on_fire-Web-1024x576.png)
หนังมีความเป็น Call Me By Your Name ฉบับผู้หญิง แต่ยกระดับสุนทรีย์ทางด้านศิลปะที่มากกว่า ซึ่งความสละสลวยของมันจึงชัดเจนมากๆ ในทางภาพ’ แต่ในขณะเดียวกัน ทางด้านความรู้สึกที่สัมผัสได้จากความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เราชอบการตีความที่หนังสื่อสารอารมณ์หญิงรักหญิงออกมาได้ละมุนละไม มันเด่นมากๆกว่าเรื่องไหนๆที่เราเคยสัมผัสมา เหมือนเรากำลังจะเสพงานศิลปะชนิด 1 อยู่ ที่ความอิน การตีความในมุมมองที่แปลกใหม่จากหนัง LGBT หญิงรักหญิงเรื่องอื่นๆที่เราเคยดูมา หนังเปรียบเปรยอารมณ์ความรู้สึกความสัมพันธ์ของตัวละคร เริ่มต้นแบบช้าๆแล้วค่อยๆปฏิสัมพันธ์ หนังกำลังทำให้เห็นว่า ความใกล้ชิดก่อให้เกิด ความสัมพันธ์ได้จริง จากเพื่อนแก้เหงากลายเป็นความรักที่ต้องปิดบังเอาไว้ เพราะสังคมยุคเก่าการรักเพศเดียวกันเป็นสิ่งต้องห้ามไม่มีใครยอมรับ
![](https://kodungmovie.com/wp-content/uploads/2021/07/Screen-Shot-2019-09-09-at-11.02.58-AM-1024x585.png)
หนังค่อยๆเล่าเรื่องความรักให้สมกับบริบทยุคเก่าที่เป็นธรรมชาติ ไม่มีเพลงประกอบ ไม่ได้บิ้วอัพคนดูแต่อย่างใด นำพาคนดูไปสัมผัสชีวิตของผู้หญิงฝรั่งเศสยุคเก่า ที่ต้องช่วยเหลือประคับประคองกันในห้วงเวลาที่ลำบากทุกข์ยาก ตั้งครรภ์, ปวดท้องประจำเดือน, แท้งลูก ซึ่งที่ว่ามานี่สุภาพสตรียุคก่อนต้องเผชิญกับเรื่องราวที่หนักหนา ผู้กำกับสื่อสารด้วยความข้อความของเพศหญิงล้วนๆเข้าใจหัวอกเพศเมีย ไม่มีการพูดถึงผู้ชายถึงมีก็น้อยมาก เห็นได้ชัดว่าในตัวหนังนักแสดงชายสมทบมีบทพูดหรือถูกดึงเข้ามาอยู่ฉากประมาณ 4-5 เฟรม แต่ก็มีเวลาให้พูดไม่ถึง 1 นาทีในบางมุมบางซีน คือไหนๆจะทำหนังรักผู้หญิงด้วยกันแล้ว ก็ทำให้ปราศจากมุมมอง การตำหนินินทาเพศชายไปเลย นับถือไอเดียตรงนี้มากและเพราะทุกอย่างดูมีมุมมองแบบผู้หญิงล้วนไปเลย
![](https://kodungmovie.com/wp-content/uploads/2021/07/portrait-of-a-lady-on-fire-2019-1024x576.jpeg)
สิ่งที่ทำให้หนังพีคมากนอกจากบท คือการจัดวางภาพที่สวยงามดูละเอียด จนแทบจะเป็นพระเอกของหนังไปแล้ว เพราะจุดนี้เองทำให้ทุกๆฉากมีงานที่สวยงามในทุกโลเคชั่น ดึงดูดให้เราดูไปได้จนจบ การนำตัวละครผู้หญิง 2 คน เดินทางไปในหลายๆสถานที่ การออกไปเที่ยว, การช่วยเหลือผู้คนระหว่าง มันขยายประเด็นให้ตัวหนังผูกโยงเรื่องรักของเพศหญิงได้ชาญฉลาดน่าเชื่อถือให้คนดู กลายเป็นหนังที่รักดราม่าที่ไม่ต้องละมุนละไมสร้างความเลี่ยน มีภาษาที่ใช้สื่อสารสละสลวย ดีงามไร้ที่ติ และส่งผลให้นักแสดงนำ 2 คน Noémie Merlant, Adèle Haenel ตีบทแตกทำให้รู้สึกว่านี่คือหนังรักที่โหยหา ผ่านการจ้องมองอารมณ์แบบศิลปะ ที่ไม่จำเป็นต้องมีการบอกรักเลยแม้แต่น้อย แต่มีนัยยะที่โคตรโรแมนติกที่หาไม่ได้ในตลาดหนังยุคนี้
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- หนังคว้ารางวัลบทยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2020
- หนังกวาดรางวัลจากสถาบันต่างๆทั่วโลกมาถึง 24 โทรฟี่