Pokémon Detective Pikachu (2019)
โปเกมอน ยอดนักสืบพิคาชู
คะแนน
โกดังหนัง
บทหนังอาจไม่ได้สนุกมาก
แต่ความน่ารักของเหล่าโปเกม่อนที่ชนะใจผู้ชม
คำคมจากภาพยนตร์
"Your Memory Will Be Gone, But Your Heart Will Know Who You Are." "ความทรงจำของคุณจะหายไป แต่หัวใจของคุณจะรู้ว่าคุณเป็นใคร"
เรื่องย่อ
เรื่องราวการผจญภัยครั้งนี้ เริ่มต้นเมื่อนักสืบมือฉมัง แฮร์รี่ กู้ดแมน หายตัวไปอย่างลึกลับ เป็นเหตุให้ ทิม กู้ดแมน ลูกชายวัย 21 ปีของเขาต้องตามหาคำตอบให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ด้วยการผนึกกำลังกับอดีตโปเกม่อนคู่ซี้ของพ่อ "พิคาชู" โปเกม่อนยอดนักสืบฝีมือฉกาจ ที่แม้จะมีหน้าตาน่ารักน่าชัง และพกความฉลาดเฉลียวมาเต็มร้อย แต่กลับมีมุมบ๊อง ๆ ตลก ๆ ชวนฉงนอยู่เพียบ! แต่เมื่อทิมและพิคาชูเริ่มปรับตัวเข้าหากันได้ ทั้งสองกลับกลายเป็นคู่หูคู่ซี้ที่พร้อมลุยทุกภารกิจอันน่าตื่นเต้น เพื่อคลี่คลายปริศนาแสนลึกลับซับซ้อน ภายใต้แสงไฟนีออนบนถนนของ ไรม์ ซิตี้ เมืองใหญ่สุดทันสมัยที่โปเกมอนและมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยกันอย่างสันติ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเหล่าโปเกม่อนมากหน้าหลายตา ก่อนค้นพบความลับชวนตกตะลึง ที่อาจทำลายความสงบสุขทั้งหมดบนโลก และพลิกโชคชะตาของจักรวาลโปเกม่อนไปตลอดกาล
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Pokémon Detective Pikachu เป็นหนังแอ็คชั่นแฟนตาซีที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่น แต่บรรยากาศในหนังจะเล่าเป็นในอีกรูปแบบหนึ่ง เลยมีกลิ่นอายแบบอเมริกัน เนื้อหาสนุกมาก หากเป็นคนที่ชอบกดเกมบอยโปเกม่อนหรือชอบอะไรก็ตามเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องนี้จะชอบมากแน่ๆ คุณจะได้เสพติดความน่ารักของเหล่าน้องๆ แฟนหนังคุณจะได้ฟินกับงานภาพสวยๆที่ทำได้สมจริง ดูแล้วเพลินตามาก
- สายหนังแอ็คชั่น
- สายหนังไซไฟ
- สายหนังแฟนตาซี
- สายหนังที่ชอบโปเกม่อน
รีวิว / สรุปเนื้อหา
หลายๆครั้งหนังจากเกมญี่ปุ่นเมื่อนำมาสร้างเป็นหนังแล้วไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จ แต่มันคงไม่ใช่กับเรื่องนี้ การหยิบโปเกม่อนมาทำเป็นหนังใหญ่ในหนนี้เรารู้สึกได้ว่า เนื้อหามันไม่เสียอรรถรสเลยแม้แต่น้อยกับการสร้างเป็นหนัง หนังใส่อิทธิพลจากเกมหรือการ์ตูนต้นฉบับขนเอาไว้ในเรื่องแทบทั้งหมด กลายเป็นจักรวาลโปเกมอนได้โชว์ของกันให้เต็มตากันไปเลย ตัวโปเกม่อนมาเต็ม CG ดีงามสุดยอด จนรู้สึกคล้อยตามไปกับโลกที่หนังเซ็ตขึ้นมา ตัวหนังสร้างเป็นแนวสืบสวนแบบไม่ได้ซับซ้อนมาก ใช้แค่เอามาเล่าเรื่องให้เดินหน้า แต่ส่วนที่ทำงานได้ดีกลับเป็นเส้นเรื่องความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะระหว่างพ่อลูกที่ห่างกัน หรือว่าคนกับโปเกมอน ซึ่งทำออกมาซึ้งกำลังดีสำหรับหนังบล็อกบัสเตอร์
พล็อตหนังคือการไขปริศนาของตัวละครโดยมีเจ้าปิกาจูที่ไปไหนเป็นเพื่อนมาโดยตลอด รวมถึงมีนักข่าวสาว ลูซี่ ที่มาช่วยหาเบาะแสอีกคน บทหนังไม่ได้มีความแปลกใหม่ออกจะแนวเชยซะด้วยซ้ำ แต่หนังโดดเด่นขึ้นมาเพราะวิสัยทัศน์ของผู้กำกับ ร็อบ เลตเทอร์แมน นั้นแหละที่ทำให้เนื้อเรื่องชวนว้าวตื่นตะลึงได้ตลอดเวลา การมีโปเกม่อน มีความน่ารักของตัวละครทั้งหมดมาช่วยขับเคลื่อนหนังพลิกขึ้นมามีเสน่ห์ โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของเรื่องฉากแอ็คชั่น การต่อสู้ของเหล่าโปเกมอน ที่ทำให้แฟนหนังทั้งฟินทั้งสนุกที่จะได้ชม ผู้กำกับให้เคารพตัวละครจากหนังสือต้นฉบับมาก
ส่วนทีมนักแสดง จัสติซ สมิธ ในบทพระเอก รู้สึกว่าเขาเล่นบทดราม่าได้ดีแต่น่าเสียดายที่หลายๆฉากดูไม่ Make Sense สักเท่าไหร่ ส่วนอีกคนอย่าง แคธรีน นิวตั้น ด้วยลุคสาวผมบลอนด์ยิ้มน่ารักก็ไม่ยากเลยที่หนุ่มๆจะตกหลุมรักเธอ โดยเฉพาะการแสดงแบบแบ๊วๆใสๆแบบนี้เหมาะมากกับหนังเด็กน้อยเรื่องนี้ก็ถือว่าทำหน้าที่อาหารตา ส่วนเสียงพากย์ของไรอัน เรย์โนลด์ นั้นต้องบอกว่าหากใครคาดหวังความกวนในระดับของ เดดพูล ก็คงต้องผิดหวังกันล่ะทำให้เขาต้องอั้นความกวนไว้พอสมควรแต่ก็ยังถือว่าทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีทำให้ ปิคาจู มีคาแรกเตอร์น่าจดจำ
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- หนังใช้เวลา 3 ปีในการเตรียมงาน ร่างบทหนังและถ่ายทำจนเสร็จสมบูรณ์
- ทีมงานใช้ Concept การ์ตูน Pokemon ในปี 1990 มาเป็นฉากหลัง
- Ryan Reynolds คือตัวเลือกแรกที่ทีมงานอยากให้มาพากย์เสียงปิกาจู