My Name (2021)
มาย เนม
คะแนน
โกดังหนัง
งานแอ็คชั่นที่ดุเดือดเลือดพาลไปเลยจ้า ดุดันไม่แพ้ John Wick ฮันโซฮี พลิกบทบาทแล้วแจ้งเกิดบทนักฆ่าได้สง่างามมาก
คำคมจากภาพยนตร์
ตำรวจนี่เป็นอาชีพที่ดีจังนะ ขนาดคนไร้ความสามารถอย่างนายยังเป็นหัวหน้าทีมได้เลย
เรื่องย่อ
ยุนจีอู เด็กสาววัยมัธยมที่เห็นพ่อถูกฆ่าตายต่อหน้า เธอกลายเป็นเด็กมีปัญหาใช้อารมณ์อยู่เสมอจนโดนไล่ให้ย้ายออกจากโรงเรียนอีกตั้งหาก ชีวิตดูหมดสิ้นหวัง เธอต้องการล้างแค้นให้ได้มันเลยทำให้เธอเลือกจะตามหาตัวฆาตกร สถานการณ์บีบบังคับเธอเลยจำใจร่วมมือกับ หัวหน้าแก๊งค้ายาดงชอนที่ช่วยเธอตามหาฆาตกร แลกกับการแทรกซึมเข้าไปในหน่วยงานยาเสพติดตำรวจตามเบาะแสที่เขาให้ไว้ว่าคนที่ฆ่าพ่อของเธอเป็นตำรวจ และได้พบความจริงที่น่าโหดร้ายสำหรับคดีนี้
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ My Name คือซีรีส์ล้างแค้นที่คอหนังแอ็คชั่นไม่ควรพลาด สำหรับคนที่ชื่นชอบในหนังแอ็คชั่นแบบ Old School พล็อตเรื่องง่ายๆ เน้นศิลปะการสู้แบบมือเปล่า และฉากยิงกัน เพราะหนังเรื่องนี้ มันจะยกระดับความมันส์แบบ Old School ขึ้นไปอีก จากความดุเดือด ดุดัน ยิงทีเป็นตาย อัดทีเป็นร่วง ที่แท้คือหนังเป็นสไตล์ล้างแค้นโดยใช้ดารานำเป็นผู้หญิงมานำเรื่องเลยมีความแปลกใหม่เป็นการยกระดับงานสร้างของเกาหลีให้ทัดเทียมกับสายตาผู้ชมทั่วโลก แฟนหนังแบบ John Wick ไม่ควรพลาด
- สายหนังแอคชั่น Old School
- สายหนังแอคชั่นมันส์ระห่ำ
- สายหนังล่าล้างแค้น
รีวิว / สรุปเนื้อหา
เปิดเรื่องมาเหมือนเราดูเด็กสาวที่ชีวิตคนหนึ่งที่ใช้อารมณ์ตัดสินปัญหา ฟาดฟันคนอื่นในโรงเรียน ซึ่งปมในใจของเธอเกิดมาจากการที่เห็นพ่อถูกฆ่าตาย จุดนี้เองเลยทำให้เดินหน้าที่จะล้างแค้นที่ต่อสู้กับใครก็ตามที่หวังจะมาเล่นงานหรือรังแกเธอ เนื้อหาเดินเรื่องเร็วกระชับฉับไหว ความแค้นของเด็กสาวคนหนึ่งที่ไร้ทางเลือกไร้ครอบครัว สูญเสียทุกอย่างเลยทำให้เธอเลือกจะร่วมมือกับแก๊งค้ายาเพื่อยอมไปเป็นสายให้ตำรวจ เราได้เห็นเส้นแบ่งระหว่างโลกอาชญากรและโลกของตำรวจโลกเทาๆที่มีเส้นบางๆกั้นเอาไว้ หน้าที่ต่างกัน แต่จริงๆแล้ว 2 อาชีพนี้ต่างกันแค่ชื่อเรียกเท่านั้น เพราะจริงๆแล้วตำรวจในเรื่องก็เลวไม่ต่างจากโจรนั้นแหละ รับส่วยไม่ได้จับคนร้ายไถ่มันอย่างเดียว เราไว้ใจอะไรใครไม่ได้นอกจากความรู้สึกตัวเอง และมันก็สะท้อนความจริงในสังคมที่ดูยังไงก็โหดร้าย เธอเองเลือกจะเข้าสู่การไล่ล่า เพราะต้องการล้างแค้น เพราะถ้าไม่ทำปมในใจก็ไม่มีวันหายไปเธอเลยจะสู้แบบไม่มีลดละ
ฉากแอ็คชั่นเล่าเรื่องได้พิถีพิถีนเล่นจากเบาๆไปหนักหน่วงรุนแรงเข้าขั้นเลือดสาย โหดระห่ำระดับติดเรท ไหนๆเกาหลีเดินเครื่องสร้างซีรีส์ในสไตล์นี้ก็เล่นใหญ่ไปเลยคิวบู๊ออกแบบมาดี ไม่มีความรู้สึกว่าหลอกตาคนดู มัดเท้าเข่าศอกมาหมด มีดปืน อาวุธรอบตัวงัดมาทุกอย่าง ลีลาการต่อสู่ว่องไวมาก คือซีรีส์สามารถเล่าเรื่องทักษะการต่อสู้ของเธอที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เมื่อเจออันตรายสามารถต่อกรรับมือได้สบาย ไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกว่าเก่งเว่อแบบไม่มีที่มาที่ไป เลยทำให้เราเพลิดเพลินกับฉากบู๊ ปาดคอเลือดพุ่ง มีดแทงทะลุตัว ยิงหัวทะลุแบบไม่เซ็น ซึ่งเทียบได้กับหนังฝรั่งแนวนี้ดีๆ อย่าง John Wick เลยละ ที่ประเคนความโหดเหี้ยมในสไตล์นักฆ่าสาวที่ไม่มีงานเกาหลีทำมาก่อน เลยรู้สึกว่ามันส์สะใจ กล้าคิดกล้าทำกล้าแตกต่าง พอขับเคลื่อนด้วยฉากแอ็คชั่นที่ดูจริงจัง ออกแบบโปรดักชั่นให้ดีขึ้นอีกระดับ แถมส่วนผสมของพาร์ทดราม่าที่ดูอินแต่แฝงไปด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดของนางเอกผ่านงานภาพที่สื่อสารออกมาโทนนัวร์หม่นหมอง
นักแสดงนำอย่างคงไม่พูดก็คงไม่ได้ ฮันโซฮี อดีตสาวหวานที่ขอมาพลิกลุคฟิตร่างกาย เข้าคอร์สเต็มที่ปล่อยพลังที่มีออกมาเล่นฉากบู๊เป็นนักฆ่าสาวที่สะสมไฟความแค้นเต็มตัว เราได้เห็นพลังงานของเธอที่ลบความสบประมาทว่าสาวหวานเล่นซีรีส์ใสๆ มาเล่นเรื่องนี้จะไหวไหมแต่สุดท้ายเธอสอบผ่านฉลุย ดูเนียนตากว่านักแสดงหญิงจากฝั่งตะวันตกที่มาเล่นฉากแอ็คชั่นซะอีก
เราสัมผัสได้ถึงความสามารถที่สื่อสารออกมาได้แบบบ้าระห่ำ เท่ ฉลาด เก่ง อึด ถึก ทนยิ่งกว่าชายอกสามศอกซะอีก ได้เห็นทักษะที่แท้จริงของเธอ กลายเป็นผู้หญิงที่ดูครบเครื่องไม่หวงสวย พกความโหดมาเพียบ จนลบภาพจำเดิมทิ้งไปได้ ตีบทแตกกระจาย
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- บทนักฆ่าล้างแค้นในซีรีส์ My Name ทีมงานได้แรงบันดาลใจมาจาก Charlize Theron ใน Atomic Blonde
- ซีรีส์ชุดนี้ใช้เวลาถ่ายทำ 4 เดือน