Moon Knight (2022)

มูนไนท์

Moon Knight Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

ซีรีส์ Marvel รสชาติแปลกใหม่ บ้าบินหลุดกรอบแบบเดิม สร้างความรู้สึกดีมากๆเมื่อได้ดี การจัดวางพระเอกตัวร้ายดูมีน้ำมีเนื้อ ซาวด์ประกอบเข้ากับเนื้อหาซีรีส์มาก ดูเถอะไม่ผิดหวังแน่ๆ

หมวดหมู่ : Action Hero
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Mohamed Diab
ความยาว : 6 Episodes
นักแสดงนำ : Oscar Isaac, Ethan Hawke

คำคมจากภาพยนตร์

"You were the only one true super power that I ever had."
"นายคือพลังวิเศษแท้จริงหนึ่งเดียว ที่ฉันเคยมี"

เรื่องย่อ

สตีเวน​ แกรนท์​ ชายหนุ่มที่ทำงานในพิพิธภัณฑ์​อียิปต์เพราะความหลงรักในเรื่องราวของอียิปต์โบราณ แต่​เขาดันมีปัญหานั่นก็คือ​ การนอนหลับ​ เนื่องจากปัญหาการนอนหลับและเห็นภาพแปลกๆทำให้กระทบต่อชีวิตการทำงานและความรักของเขา​ จนวันหนึ่งเขาตื่นมาพบว่าตัวเองอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้และถูกตามยิง​ แล้วเขาเริ่มได้ยินเสียงที่สั่งให้เขาทำนู่นทำนี่​ อาการที่วูบเป็นพักๆ​ เมื่อไหร่ที่เขารู้สึกตัวก็พบว่ามือเขาเองเปื้อนเลือดไปแล้ว​ วันหนึ่งคนที่ตามยิงสตีเวน​ ตามมาถึงที่ที่เขาทำงานอยู่และปล่อยสัตว์ประหลาด​ให้มาทำร้ายเขา​ และนั่นคือครั้งแรกที่สตีเวน​พบกับมาร์ค​ สเปคเตอร์​ ร่างอวตารอีก 1 บุคลิก ที่มาอาศัยอยู่ในร่างของเขานั้นเอง

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

รีวิว / สรุปเนื้อหา

บอกเลยว่านี่น่าจะเป็นฮีโร่สุดเฮี้ยนที่มาพร้อมกับความสนุกสนานแบบที่เราไม่ต้องคาดหวังหรือคาดเดาอะไรเลย การหยิบตัวละครที่ไม่เคยถูกนำมาสร้างเป็นหนังมาสู่จอแก้วเลยทำให้ทีมงานสร้างสรรค์ให้เรื่องราวออกมาตลกซับซ้อนมีหลากหลายเรื่องราวให้คนดูได้ติดตามไปได้ยาวๆ 6 ตอน การปูเรื่องราวให้รู้จัก สตีเวน​ แกรนท์​ ทีพบว่าตัวเองมีหลายบุคลิก การเจอปัญหานอนไม่หลับ จับพลัดจับผลู กลายเป็นฮีโร่ที่ต้องมาร่วมร่างกับ มาร์ค​ สเปคเตอร์​ สิ่งที่ต้องให้เครดิตซีรีส์ชุดนี้คือการเล่าเรื่องผ่าน Oscar Isaac ที่ต้องเล่นเป็นคน 3-4 บุคลิกมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยที่ต้องมาสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนตัวเองเป็นคนหลายคาแรกเตอร์มันเลยทำให้เนื้อหาซับซ้อนตามไปด้วย ชายติ๋มๆ ผู้ชายแข็งแกร่งเด็ดเดี่ยว หรือการสวมยูนิฟอร์มเป็นฮีโร่ เขาแบกเรื่องราวได้ตลอดรอดฝั่ง บทจะฮาก็ฮาบทจะบู๊ก็ดุดัน

เนื้อหามันค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์แบบเฉพาะตัวมันค่อนข้างจะซับซ้อนไม่ได้เน้นความเป็นฮีโร่เพี้ยนๆแอ็คชั่นพาผู้ชมไปสำรวจจิตใต้สำนึกของ Steven Grant และ Marc Spector ในโลกหลังใกล้ความตาย แถมตัวซีรีส์เองก็ยังไม่ได้เฉลยปมปัญหาทั้งหมดอย่างชัดเจน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้มาร่วมพูดคุยและคาดเดาเนื้อเรื่องได้อย่างอิสระ แถมพล็อตยังพาคนไปสัมผัสตำนานเทพอียิปต์โบราณผ่านเรื่องราวการผจญภัยของตัวละครหลัก มันทำให้ทุกอย่างขยายเรื่องราวในวงกว้าง แถมการไม่ผูกเรื่องราวกับจักรวาลอื่นของ MCU ไม่พยายามที่จะผูกปมปัญหาไว้เพื่อนำไปต่อยอดในภาพยนตร์หรือซีรีส์เรื่องอื่นๆ ในอนาคตมากจนเกินไป

การวางพล็อตเรื่อง 6 ตอนโปรดักชั่นทำได้ดีเกินคาด งานภาพตัวละครจริงๆกับ CGI ทำออกมาได้เนียนกริบ การใช้ฉากหนังดีไซน์ออกมาเป็นอียิปต์ตามท้องเรื่องที่มีตำนานมากมาย มันทำให้ธีมแตกต่างจากงาน MCU เนื้อหาสอดคล้องกันตีความออกมาได้กลมกล่อม ตัวละครที่ปรากฏตัวออกมาแต่ละฉากสามารถสร้าง Impact ให้ผู้ชม คือมันตาดเดาอะไรไม่ได้ตลอดทุกตอน เนี่ยแหละคุณภาพจริง แค่การปรับ Ethan Hawke ในบทวายร้ายก็มีความน่ากลัวมากๆแล้ว มีเสน่ห์ น่าเกรงขาม หรือจะเทพคอนชู องค์ประกอบจากตอนแรกๆไปจนถึงตอนสุดท้ายมันไต่ระดับความมันส์ ซาวด์ประกอบเองก็ช่วยบิ้วอัพได้เยอะ เทคนิคงานภาพมุมกล้องก็เล่าเรื่องออกมาดี การตัดต่อการรวดเร็วฉับไหว ทำให้คิวบู๊ในเรื่องดูแล้วไม่เสียอรรถรส

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • Oscar Isaac มาเล่นงานของ Marvel เพราะคำแนะนำของ Robert Downey Jr.
  • Oscar Isaac มีสัญญาระยะสั้นแค่โปรเจ็คนี้เท่านั้น