เรื่องย่อ

เรื่องจริงที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ทั้งโลก เรื่องราวการเดินทางของ ริชาร์ด วิลเลียมส์ คุณพ่อผู้ไม่ย่อท้อต่อการเลี้ยงดูสองนักกีฬาผู้มีพรสวรรค์พิเศษ จนได้กลายเป็นผู้เปลี่ยนแปลงวงการกีฬาเทนนิสตลอดกาล ทั้งคู่ได้แรงผลักดันจากพ่อผู้เห็นภาพอนาคตของพวกเขาอย่างชัดเจน และเลือกใช้วิธีที่ต่างจากแบบแผนทางสังคม ริชาร์ด วางแผนว่าจะพา วีนัส และ เซเรน่า วิลเลียมส์ ออกจากคอมป์ตัน รัฐแคลิฟอร์เนียสู่การเป็นผู้มีชื่อเสียงแห่งตำนานระดับโลก ภาพยนตร์เต็มไปด้วยความซาบซึ้งที่ถ่ายทอดให้เห็นพลังของครอบครัว ความพยายาม และความเชื่อมั่นที่นำไปสู่ความสำเร็จในเรื่องที่ยากจะเป็นไปได้ และมีอิทธิพลต่อทั้งโลก

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ King RIchard เป็นหนังกีฬาดราม่าที่เหมาะสมกับสถาบันครอบครัว เนื้อหาเล่าเรื่องได้เรียบง่ายทรงพลัง คุณพ่อผู้ทุ่มเทให้ลูกๆวางกฏระเบียบเพราะอยากให้ลูกๆมีชีวิตที่ดีจากความสามารถของพวกเธออดทนฝึกฝน หนังเติมเต็มแรงบันดาลใจให้ผู้ชม ถ้าหากใครคิดว่าตัวเองพบเจอความยากลำบาก เรื่องนี้แหละต้องไปดูครอบครัวผิวสีที่คุณพ่อผลักดันทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อลูกๆอย่างเต็มที่ จุดนี้เองหล่อหลอมทำให้ Venus และ Serena ก้าวมาเป็นขวัญใจอเมริกันชนไม่เว้นแม้แต่คนผิวสีเธอเป็นตัวแทนของนักสู้ที่ใช้กีฬาลบคำสบประมาท

• สายหนังดราม่า
• สายหนังรางวัล
• สายหนังกีฬา

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ในทีแรกไม่คาดหวังกับหนังเรื่องนี้มากเท่าไหร่ แต่พอดูจบความคิดนั้นเปลี่ยนทันที หนังไม่ได้เล่าถึงตัวตน Venus หรือ Serena เลยสักนิด แต่หนังเลือกจะเล่ามุมมองชายที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของลูกสาว 2 คนที่เขาผลักดันให้พวกเขาฝึกฝนเล่นเทนนิสอย่างจริงจังจนกลายเป็นคู่พี่น้องนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ชายผู้สีในย่าน อาชญากรรมและยาเสพติดที่อันตรายสุดใน California เขาส่งเสริมทุกอย่างให้ลูกๆทุกคนในครอบครัวเพื่อให้พวกเธอเหล่านั้นมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา กีฬา แน่นอนว่าเมื่อเป็นคนชนชั้นผิวสี โดนสบประมาทคนเป็นพ่อย่อมอยากสนับสนุนลูกเต็มที่ เขาวางกฏระเบียบที่เข้มงวด เพียงแต่บุคลิก Richard ท่าทางเขาดูอีโก้ ขี้โม้ พฤติกรรมหลายอย่างเลยดูขัดหูขัดตาคนรอบข้างไปหมด ในวันที่โลกไม่ยอมรับคนที่ดิ้นรนต่อสู้ พ่ออย่าง Richard งทุ่มสุดตัวในการสอน แม้ว่าจะต้องอดนอนกลางวัน โดนนักเลงแถวคอร์ตรุมสกรัม หรือแม้แต่วันที่ฝนตก เพียงเพื่อหวังให้ลูก ๆ ใช้กีฬาในการนำพาตัวเองออกไปจากย่านเสื่อมโทรมให้ได้ ไม่เว้นแม้แต่การแบกหน้าไปขอให้โค้ชเทนนิสสอนลูกสาวฟรีๆก็ยอมทำมาแล้ว

เราได้เห็นมุมมองที่บ้าบอของ Richard ที่พยายามปฏิเสธโอกาสที่เขามาให้ลูกสาวเพียงเพราะว่าเขาไม่อยากให้ลูกๆกลายเป็นเครื่องมือให้ใครต่อใครใช้หาผลประโยชน์ แต่อีกนัยยะหนึ่งตราบาปในอดีตของเขาเองก็ทำให้เขาเป็นคนไม่กล้าเปิดใจไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของใคร โค้ชคนไหน เชื่อในแบบของตัวเอง เขาสอนลูกให้สนุกกับกีฬา แต่ต้องไม่มากเกินไป ให้ความสำคัญกับการฝึกซ้อม แบ่งเวลาแบ่งชีวิตไปทำอย่างอื่น ให้เกียรติคู่แข่งไม่หลงระเริงกับชัยชนะ แต่ถึงกระนั้นแผนการความคิดเขามันก็บ้ามากๆ ที่เมินเฉยไม่ให้ลูกไปแข่งเยาวชนหวังจะให้เทิร์นโปรแข่งขันเทนนิสอาชีพ จนโค้ชฝึกสอนบางคนเบื่อหน่ายกับทัศนคติคนแบบนี้ แต่พอมองย้อนกลับไปดูตัวตน Richard เราเองก็พบว่าเขาเองอยากสั่งสอนให้ลูกๆค้นพบกับคำว่าโอกาสในการเล่นเทนนิสมากกว่ามีใครสักคนมาผลักดันให้แบบเด็กเยาวชนที่เล่นเทนนิสแบบคนอื่นๆ หนังไม่ได้ทำให้เราเกลียด Richard แต่ตรงข้ามหนังค่อยๆชำแหละทัศนคติกลยุทธ์การสอน Venus และ Serena ให้โตเป็นนักกีฬาที่ดี

หนังเล่าเรื่องยาวเกินไปหน่อยมันเลยทำให้บางครั้งเราไม่ผ่อนคลายในการชม เว่้นเสียแต่ว่า WIll Smith นี่แหละที่ทำให้หนังดูทรงพลีงเข้าใจความหมายของเขาว่าสถาบันครอบครัว เราแบกคาแรกเตอร์ RIchard ได้อยู่หมัก ถ่ายทอดเรื่องราวคุณพ่อผลักดันลูกๆด้วยกีฬาเพื่อให้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม เขาตีความเป็นได้ดีมากๆ ไม่ว่าจะการแสดงออก ท่าทาง และสำเนียงการพูด จริงๆค่อนข้างชอบซีนที่เขาต่อปากต่อคำกับโค้ชเทนนิสอาชีพนะ เหมือนได้ดูคนจริงกับคนหมกหมุ่นเรื่องทฤษฎีมาเจอกันมันเลยกลายเป็นฉากที่ประทับใจมากสำหรับพาร์ท Will Smith ส่วนสาวน้อย 2 คนที่มารับบท Venus,​ Serena Saniyya Sidney และ Demi Singleton ที่ได้ปล่อยของโชว์ทักษะการเล่นเทนนิสทั้งเรื่องบอกเลยว่าสบายหายห่วงมาก เธอทั้งคู่ตอบรับอารมณ์บทบาทที่ต้องเล่นได้ดี อีกคนที่ต้องชื่นชมคือ Aunjanue Ellis การต่อปากต่อคำกับ Richard ในฐานะคู่ชีวิตคือเหมาะมาก สามีคือคนอีโก้จัดไม่ยอมคนเธอคือขั้วตรงข้ามปะทะคารมณ์กันอยู่บ่อยครั้ง