Glass Onion: A Knives Out Mystery (2022)

ฆาตกรรมหรรษาใครฆ่าเพื่อน

Glass Onion: A Knives Out Mystery Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

ภาคใหม่หนังสืบสวนสอบสวนที่เนื้อหาจัดจ้าน บทหนังแยลยล ลูกเล่นแพรวพราว เป็นหนังฆาตกรรมที่ยกระดับจากภาคที่แล้ว ใครชอบหนังแนวไขคดีไม่ควรพลาดเด็ดขาด

หมวดหมู่ : Comedy Mystery
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Rian Johnson
ความยาว : 2 ชั่วโมง 20 นาที
นักแสดงนำ : Daniel Craig, Edward Norton, Janelle Monáe

คำคมจากภาพยนตร์

"I've learned through bitter experience that an anonymous invitation is not to be trifled with."
"ผมได้เรียนรู้จากประสบการณ์อันขมขื่นว่าคำเชิญที่ไม่เปิดเผยตัวตนนั้นไม่ควรล้อเล่น"

เรื่องย่อ

Miles Bron มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยี ได้ชวนเพื่อนๆ มาพักผ่อนบนเกาะส่วนตัวในกรีซ แต่แล้วเหตุการณ์ที่เราไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีหนึ่งในผู้ร่วมงานถูกฆ่าตายอย่างเป็นปริศนา จึงต้องเป็นหน้าที่ของ Benoit Blanc ที่ต้องคลี่คลายคดีหาเบาะแสหาตัวคนร้ายตัวจริงในครั้งนี้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Glass Onion เป็นหนังสืบสวนสอบสวนไขคดีหาตัวคนร้ายที่สนุกสนานเนื้อหาจัดจ้านมากขึ้นกว่าเดิม การใช้ปาร์ตี้คนรวยช่วงโควิดเป็นฉากหลัง นำเสนอได้ได้มากแอบเสียดสีคนมีเงินได้แบบเฉียบขาด หนังเล่นใหญ่มากกว่าภาคก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด โดดเด่นของการไขปริศนาฆาตกรรมที่เต็มไปด้วยความตลบตะแลง จังหวะหักมุมเล็กๆที่มอบทั้งความขบขันตลอดทาง พล็อตเรื่องเปิดพื้นที่ให้ผู้ชมจับสังเกตความแปลกปลอม หยอดข้อมูลบอกใบ้เรื่องราวไปมา ทำให้ได้แผนฆาตกรรมที่ฉลาดหลักแหลม อัดแน่นด้วยคุณภาพและความบันเทิงครบรส ใครเป็นแฟนหนังสืบสวนหรือหนังสายรางวัลไม่ควรพลาดเรื่องนี้เลย

  • สายหนังตลกคอเมดี้ดราม่า
  • สายหนังสืบสวนสอบสวน
  • สายหนังพล็อตสับขาซับซ้อน

รีวิว / สรุปเนื้อหา

นี่ไม่ใช่ภาคต่อจากKnives Out ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่ หนังเปิดเส้นเรื่องใหม่ เนื้อหามีความสดใหม่ บทหนังสลับซับซ้อนมีความเฉียบขาดมากกว่าเก่า และผลลัพธ์ของหนังค่อนข้างทำออกมาได้แข็งแรง การสร้างสรรค์หนังฆาตกรรมในสไตล์ห้องปิดตาย 1 โลเคชั่น ทำออกมาได้ฉลาดแยบยล และผู้กำกับสามารถขับเคลื่อนจังหวะหนังได้สนุกสนาน แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เต็มไปด้วยปมประเด็นความขัดแย้งของตัวละคร ที่ทำออกมาได้ไม่น่าไว้วางใจ การวางบทเกลี่ยพื้นที่ได้ดี มันคือการกระจายปัญหาของตัวละครทุกตัวทำให้คนดูสงสัยคนโน้นคนนี้เชื่อมโยงได้ องค์ประกอบหนังสมเหตุสมผลไม่ได้มีจุดที่รู้สึกผิดหวัง หนังไม่ได้หลุดธีมเลยสักนิด ที่สำคัญคือพอเจาะลึกรายละเอียดลงไปเราเองก็พบว่าผู้กำกับ ไม่ได้ทำแค่หนังไขคดีเท่านั้น แต่เขาเองก็ใส่ลายเซ็นชัดเจน วิพากษ์วิจารณ์สังคมไฮโซคนรวยยุคนี้ ที่ใช้ชีวิตสุขสบาย เราจะพบว่าบางคนคบกันเพื่อผลประโยชน์ตอบแทน ไม่ใช่เรื่องแปลกใจเลย เมื่อโลกยุคนี้คนมากมายขับเคลื่อนด้วยเงิน ด้วยชื่อเสียง หน้าตาทางสังคม ยอดไลก์ยอดติดตาม แต่หารู้ไม่ว่าข้างในคนเหล่านี้ก็คนธรรมดา ที่มีความเลวร้ายเห็นแก่ตัวเหมือนคนทั่วไปเช่นกัน

หนังมอบความสนุกเล่าเรื่องได้แพรวพราว ไม่ใช่ว่าจะเสียดสีสังคมไฮโซอย่างเดียว หรือว่าไปเปิดพื้นที่ให้คนดู หาคำตอบว่าใครเป็นคนร้าย ฆ่าคนยังไง Benoit Blanc หาเบาะแสอะไร แต่หนังเองก็พูดและให้คนดูเอาใจช่วยตัวละครปริศนาคนหนึ่งว่าจะเอาตัวรอดจากเกาะนี้ยังไง ต้องต่อสู้ดิ้นรนเอาตัวรอดในแวดวงไฮโซแบบนี้ได้อย่างไร ซึ่งพาร์ตนี้ค่อนข้างน่าประทับใจมากๆ คือไม่ได้โฟกัสที่จะเล่าเรื่องในมุมมองเดียว ตัวละครนี้มาเสริมทำให้บทหนังตีความออกมาหวือหวาและเป็นส่วนสำคัญในการไขคดีปริศนาในภาคนี้จริงๆ ซึ่งบทสรุปออกมาน่าทึ่งมากๆ เพราะหนังเรื่องนี้ทำให้เราได้รับรู้และเข้าใจหน้าที่ที่แท้จริงของนักสืบจริงว่าพวกเขาทำงานอย่างไร ส่วนประเด็นอื่น การเล่าเรื่องด้วยภาพ การลำดับภาพทำออกมาได้ดีกว่าภาคแรกพอสมควร หนังละเอียดอ่อนมาก การเลือกเพลงเข้ากับทุกซีน โปรดักชั่นประณีตมาก แถมการเซ็ตติ้งโลเคชั่นหนังโคตรอลังการปังมาก ทั้งเกาะหรู คอสตูมเสื้อผ้าหน้าผมนักแสดงแต่ละนางเจ๋งมากๆ หลายคนเนี้ยบ บางคนอย่างกับนางพญา แถมบทพูดก็สอดรับกับมุกตลกยิงกันรัวๆ ไม่มียั้ง ปล่อยออกแต่ละทีขำกร๊ากเป็นระยะ โบ๊ะบ๊ะกันให้สุดไปเลยจ้า จุดเดียวที่ไม่ชอบในภาคนี้คือหนังหักดิบเกินไปหน่อยในช่วงท้ายไม่งั้นหนังจะครบเครื่องมากๆ ในความรู้สึกเรา

การเล่าเรื่องสนุกสนานแล้ว มีบทหนังที่ดีแล้ว ถ้าหากขาดนักแสดงนำที่ดีก็คงไม่ทำให้เราเอนจอยได้มากขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกใจว่าทำไมนักแสดงเรื่องนี้อัดแน่นดาราบิ๊กเนมเต็มไปหมด แต่ละคนไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลย Daniel Craig เมื่อสลัดคราบ James Bond 007 มาเล่นบทนักสืบเต็มตัวมาดเท่ห์มากๆ สำเนียงวิธีการพูดแบบเคนทักกี้ที่แอบล้อเลียนหนังแนวฆาตกรรมยุค 70 เป็นไฮไลต์เป็นสีสัน เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายของคนอังกฤษที่ต้องมาพูดในสไตล์อเมริกัน ส่วนตัวแล้วค่อนข้างชอบตัวละคร Benoit Blanc ที่เอกลักษณ์ ช่างสังเกต กล้าพูด กล้าท้าทายทุกตัวละครในเรื่อง ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าตัวติดใจกับบทบาทนี้ ส่วนตัวละครสมบทคนอื่นๆ อาทิเช่น Edward Norton นักธุรกิจหนุ่มดูก็รู้เลยว่าได้รับอิทธิพลมาจาก Elon Musk การแสดงของเขานี่คุณภาพของจริงๆ ส่วนอีกคนที่ทำออกมาได้น่าทึ่งคือ Janelle Monáe นางปล่อยของได้สุดพลังที่เพี้ยนสุดคือ Jessica Henwick นางใส่เต็มที่มาก ส่วนจะเป็นอย่างไรไปชมในหนังเองดีที่สุดจ้า

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • คาแรกเตอร์ Edward Norton ได้แรงบันดาลใจมาจาก Elon Musk
  • Jessica Henwick โทรไปขอ Rian Johnson เพื่อเล่นหนัง Knives Out 2
  • Dave Bautista ตอบรับเล่นเรื่องนี้โดยไม่อ่านบท เพราะอยากกลับมาแสดงร่วมกับ Daniel Criag
  • Netflix ทุ่มเงินกว่า 700 ล้านเหรียญ เพื่อคว้าสิทธิ์หนังเรื่องนี้ลงสตรีมมิ่ง
  • Rian Johnson และ Daniel Craig ได้ค่าตัวไปคนละ 100 ล้านเหรียญ กับสัญญาหนังอีก 2 ภาค
  • นักแสดงทุกคนที่เล่นเรื่องนี้ผ่านการแคสติ้งใน Zoom
  • Ethan Hawke ออกจากกองถ่าย Moon Knight เพื่อมารับเชิญหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ
  • หนังเรื่องนี้ใช้เวลาถ่ายทำหนัง 2 เดือนเต็ม ในช่วงปลายเดือนกรกฏาคมถึงกันยายน 2021
  • ผู้กำกับใช้เวลาคิดพล็อตหนังในช่วงล็อคดาวน์โควิด 19 พอดี
  • ชื่อหนัง Glass Onion มาจากเพลงของวงระดับตำนาน The Beatles