Easy A (2010)

อีนี่...แร๊งงงส์

Easy A Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังวัยรุ่นชั้นดีที่มีมากกว่าเรื่องราวรักๆ จะจิกกัดชีวิตวัยรุ่นได้แบบแสบๆ คัน การได้ Emma Stone มานั้นเป็นตัวเลือกที่ลงตัวมากๆ และมีเสน่ห์เหลือล้นจริงๆ

หมวดหมู่ : Comedy Drama Romantic
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Will Gluck
ความยาว : 1 ชั่วโมง 32 นาที
นักแสดงนำ : Emma Stone, Amanda Bynes, Penn Badgley

คำคมจากภาพยนตร์

“Let me just begin by saying that there are two sides to every story. This is my side, the right one.”
"ให้ฉันเริ่มจากการบอกว่าทุกเรื่องราวนั้นมี 2 ด้าน นี่ก็คือด้านของฉัน ด้านที่ถูกต้อง”

เรื่องย่อ

โอลีฟ เด็กสาวไฮสคูลที่ไม่มีน่าจดจำ แต่วันหนึ่งเมื่อเธอได้โกหกเพื่อนสนิทของเธอว่า เธอนั้นเสียบริสุทธิ์ให้กับหนุ่ม (ที่ไม่มีตัวตน) เพราะรำคาญการคาดคั้น แต่ดันมีคนได้ยินข่าวนี้เข้า จนทำให้ข่าวการเสียตัวของเธอนั้นแพร่กระจายไปทั่วในโรงเรียน อย่างรวดเร็ว แถมไม่นานนักเพื่อนที่เป็นเกย์ของเธอก็ยังอยากที่จะแอ๊บแมน เลยขอร้อง โอลีฟ ให้มาแกล้งทำเป็นมีอะไรกัน ก็ยิ่งทำให้ข่าวการเป็นผู้หญิงใจง่ายของเธอหนักขึ้นไปอีก จนสุดท้ายแล้วเรื่องโกหกเหล่านี้ก็กลายเป็นเรื่องวุ่นวายในชีวิตในทันที

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Easy A เป็นหนังวัยรุ่นชั้นดีอีกเรื่อง ที่ตัวบทนั้นมีความน่าสนใจมากกว่าหนังแนวรักๆ ฮาๆ ของวัยรุ่นทั่วๆ ไปมาก อีกทั้งตัวเรื่องราวเองก็ยังมีเสน่ห์เหลือล้น จนดูเอาบันเทิงก็ยังสนุกได้อยู่มากๆ จากเรื่องราวของ “การโกหก” จากการช่วยเหลือคน แต่กลับกลายเป็นปัญหาของชีวิต ซึ่งหนังก็เสียดสีประเด็นเหล่านี้ออกมาได้แสบสันดีเหลือเกิน ใครที่ชอบหนังวัยรุ่นที่มีประเด็นดีๆ แต่มีความแซ่บเยอะๆ อย่าง Mean Girls หรือชอบดาราอย่าง Emma Stone แล้ว ขอแนะนำให้จัดเลย

  • สายหนังชีวิตวัยรุ่น
  • สายหนังรักวัยรุ่น
  • สายหนังวัยรุ่นเสียดสีสังคม

รีวิว / สรุปเนื้อหา

เรียกได้ว่าในตอนที่หนังออกฉายนั้น ดูแทบไม่มีอะไรน่าดึงดูดมากนัก ทั้งตัวผู้กำกับอย่าง Will Gluck เอง ก็ดูเป็นผู้กำกับที่คนไทยก็ยังไม่เคยเห็นผลงานของเขามาก่อน อีกทั้งในส่วนของดารานำอย่าง Emma Stones ก็ดูเป็นดาราสาวที่เพิ่งได้รับบทนำแบบเต็มๆ คนเดียวเป็นเรื่องแรก เพราะในเรื่องที่ผ่านมาอย่าง Superbad, The House Bunny และ Zombieland ก็ยังไม่ทำให้เราได้จดจำเธอสักเท่าไรนัก อาจเพราะดาราดังๆ คนอื่นๆ ที่กลบรัศมีเธออยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายสิ่งทีี่ทำให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ และทำให้ทั้งคู่นั้นแจ้งเกิดมาได้พร้อมๆ กันนั้น คงหนีไม่พ้นในเรื่องของบท และการเล่าที่แสนสนุกเหลือเกิน

แม้ว่าฉากหลังของหนังจะอยู่ในไฮสคูล แต่มันก็ไม่ได้เล่าเรื่องที่เป็นสูตรสำเร็จในแบบหนังวัยรุ่นทั่วไป แต่มันกลับลงไปเสียดสีในประเด็นต่างๆ ของสังคมที่มักตัดสินคนจากแค่เพียงลมปาก และสิ่งที่เห็นจากภายนอกเพียงอย่างเดียว โดยที่ไม่ได้คิดถึงสภาพจิตใจหรือเหตุผลที่พวกเขาต้องทำอย่างนั้นเลย ซึ่งตัวนางเอกในเรื่องเองก็อยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกตั้งแต่การโกหกครั้งแรก จนลากยาวมาถึงการโกหกให้ครั้งต่อๆ ไป จนทำให้ข่าวลือก็ดูจะกลายเป็นเรื่องจริงในสายตาของคนอื่นๆ ทั้งๆ ที่ตัวนางเอกเองก็ยินดีที่จะช่วยเหลือใครหลายๆ คน แต่สุดท้ายมันก็กลายมาเป็นปัญหา เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตที่คนตีตราเธอไปแล้ว จนยากที่จะลบล้างคำครหาเหล่านี้ได้ 

อีกทั้งในการเล่าเรื่องของหนังก็ทำออกมาได้สนุกมาก มีอะไรที่ชวนติดตามได้อยู่ตลอด การหาทางลงให้กับตัวละครของหนังก็อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและอบอุ่นหัวใจดี นอกจากนี้หนังยังมีองค์ประกอบดีๆ ที่เสริมความโรแมนติค คอเมดี้ให้กับหนังได้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบเพราะๆ เนื้อหาเข้ากับเนื้อเรื่อง ซึ่งการที่ได้ดาราอย่าง Emma Stone ก็นับว่าเป็นดาราที่สร้างสีสันได้เป็นอย่างดี ด้วยเสน่ห์ความน่ารักที่เปี่ยมล้นของเธอ ประกอบกับคาแรคเตอร์สุดแสบ ก็ทำให้ตัวละครนี้เป็นที่น่าสนใจจริงๆ จนไม่แปลกใจนักที่ความดีงามของเธอนั้น จะพาเธอได้เข้าไปได้ชิงรางวัลลูกโลกทองคำในสาขา ดารานำหญิงยอดเยี่ยมสำหรับหนังตลกหนังเพลง ได้ด้วย นับเป็นอีกหนึ่งหนังวัยรุ่นดีๆ อีกเรื่องที่เชียร์มากๆ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ในปี 2018 นั้น ดาราอย่าง Amanda Bynes ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เธอตัดสินใจออกจากวงการแสดงหลังจากได้เห็นตัวเองในหนังเรื่องนี้ (ซึ่งจริงๆ แล้วเธอออกมาบอกตั้งแต่ก่อนหน้าแล้วว่า การเป็นนักแสดงเป็นอะไรที่ไม่สนุกเอาซะเลย และเธอไม่ได้รักการแสดงอีกต่อไปแล้ว)
  • ในบทดั้งเดิมนั้น มีคำว่า Fuck ถึง 41 ครั้ง มีคำว่า Shit 13 ครั้ง และคำว่า Cunt ถึง 3 ครั้ง ซึ่งทีมงานต้องปรับลดการใช้คำเหล่านี้ลง เพื่อให้สุดท้ายหนังได้ Rate PG-13 ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายแทนที่จะเป็น Rate R
  • Emma Stone นั้นถึงกับอาการหอบหืดกำเริบในตอนที่เล่นฉากเซ็กส์แบบปลอมๆ