Dazed and Confused (1993)
ปาร์ตี้เกรียนๆ ของวันเกรียนๆ
คะแนน
โกดังหนัง
วีถีชีวิตวัยรุ่นไฮสคูลสุดมันส์ ในยุค 70s ที่เติมใจให้อิ่มเอมกับการใช้ชีวิต และการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า
หมวดหมู่ : | Comedy |
สัญชาติ : | American |
กำกับโดย : | Richard Linklater |
ความยาว : | 1 ชั่วโมง 42 นาที |
นักแสดงนำ : | Jason London, Wiley Wiggins, Matthew McConaughey |
คำคมจากภาพยนตร์
"The older you get, the more rules they will make you follow, That’s when you just gotta keep livin man."
“ยิ่งเราแก่ขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งมีกฏระเบียบที่ต้องทำตามมากขึ้นเท่านั้น
เราก็ทำได้แค่มีชีวิตอยู่กับมันต่อไปนั่นแหละ”
เรื่องย่อ
ย้อนไปในปี 1976 วันสุดท้ายของการเรียนที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเท็กซัส ที่กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง กำลังจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ผ่านการไปปาร์ตี้ กิจกรรมรับน้อง การเสพกัญชา และการแสดงออกถึงความอิสระเสรีในแบบที่ไม่มีใครห้ามพวกเขาได้ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นเหตุการณ์เพียง 1 วันของพวกเขา ที่จะถ่ายทอด ความรู้สึกนึกคิด วัฒนธรรม และการเติบโต ผ่านทางตัวละครต่างๆ มากมาย ออกมาได้อย่างเต็มอิ่ม
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Dazed and Confused เป็นหนังของคนที่ชอบสไตล์เล่าไปเรื่อยอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้กำกับ Richard Linklater อยู่แล้ว โดยพล็อตหนังมันก็มีแค่ 1 วันของกลุ่มวันรุ่นที่กำลังจะปิดเทอม แล้วไปปาร์ตี้ ส่วนที่เหลือมันก็คือการแสดงออกด้วยพฤติกรรม และบทสนทนาที่สื่อถึงความนึกคิดของพวกเขาในวัยนั้น โดยที่ไม่ได้มีจุดพีคหรืออะไรมากมาย เพราะหนังก็ถ่ายทอดของมันไปเรื่อยๆ ดังนั้นถ้าหากคุณเป็นคนที่ชอบผลงาน Richard Linklater อย่างตระกูลเดินไปพูดไปอย่าง Bofore Sunset/Sunrsie/Midnight หรือ ชอบหนังวัยรุ่นแบบ Everybody wants some ของเขามาก่อนอยู่แล้ว นี่ก็คือหนังสไตล์เดียวกันแท้ๆ เลย
- สายหนังตลกวัยรุ่น
- สายหนังก้าวข้ามผ่านวัย
- สายหนังชีวิตวัยรุ่นมหาลัย
รีวิว / สรุปเนื้อหา
Dazed and Confused หากจะว่าไปก็เหมือนหนังเรื่องอื่นๆ ของผู้กำกับ Richard Linklater เนี่ยล่ะ ที่พล็อตเรื่องก็เหมือนจะไม่มีอะไร แถมบทสนทนาก็ดูเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย แต่จริงๆ แล้ว ไอความเรื่อยเปื่อยของผู้กำกับนี่แหละ ที่ทำให้คนดูล้วนแต่เห็นประเด็น และสัจธรรมชีวิตบางอย่าง ผ่านการเล่าเรื่องแบบธรรมดาๆ ของเขา ซึ่งในเรื่องนี้ ก็อุดมไปด้วยตัวละครหลายตัว มากหน้าหลายตามากๆ ชนิดที่ว่าถ้าดูสมัยก่อนก็คงจำไม่ได้หรอกว่าใครเป็นใคร แต่ด้วยความที่เกือบทุกคนในนั้นมันคือดาราที่ดังๆ ทั้งหลายในยุคนี้ ทั้ง Matthew McConaughey, Ben Affleck, Milla Jovovich ในวัยใสๆ กันทั้งนั้น ก็น่าจะทำให้คนที่เพิ่งหยิบมันมาดู ก็คงคุ้นหน้าคุ้นตากับเหล่าดารากลุ่มนี้เป็นอย่างดี และก็ต้องบอกว่าพวกเขาเล่นหนังกันได้เป็นธรรมชาติตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วล่ะ
ด้วยความที่ตัวละครของหนังหลากหลาย ในขณะที่เรื่องเกิดขึ้นแค่ 1 วัน ผู้กำกับควบตำแหน่งเขียนบทก็เลยพยายามใส่คาแรคเตอร์ที่มีปูมหลัง มีความต่างช่วงวัย และความนึกคิดที่ต่างกันเข้าไปในตัวละคร เพื่อให้คนดูนั้นมีโอกาสเห็นภาพของวัยรุ่นหลายๆ แบบ (และอาจจะเจอตัวเองเป็นหนึ่งในนั้น) แต่ละตัวแม้จะออกมาแค่เวลาสั้นๆ แต่บางคนก็มอบข้อคิดให้กับคนดูได้เป็นอย่างดี ทำให้บนความสาระ หรือเรื่องไม่เป็นเรื่องในสมัยวัยรุ่นนั้น ก็อาจเป็นความทรงจำหนึ่งที่วันหนึ่งถ้าพวกเขาได้เติบโตขึ้นมา ก็อาจจะยังจำวันวานเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี (ถ้าไม่ได้เมากันเละเกินไปอะนะ)
ด้วยโทนของหนังที่ดูไปเรื่อย จริงๆ แล้วบางคนเลยอาจจะรู้สึกว่าไม่เหมือนดูหนังเท่าไรนัก แต่เหมือนนั่งดูชีวิตของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่ใช้ชีวิตไปตามปกติมากกว่า ไม่ต่างอะไรจากการนั่งดู Boyhood ที่ได้เห็นเด็กคนหนึ่งค่อยๆ เติบโตขึ้นมา โดยมีประสบการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาในชีวิตเป็นตัวหล่อหลอมตัวตน และทัศนคติให้เขากลายเป็นวัยรุ่นในตอนท้าย ซึ่งแน่นอนว่ามันเลยไม่มีอะไรที่ดูหวือหวา แต่ในขณะเดียวกันด้วยความที่มันเรียลก็เลยดูใกล้ตัวและอินไปกับหนังได้อยู่มากเลย หากใครที่ชอบหนังสไตล์เรียบๆ เรื่อยๆ ดูเพลินๆ แล้ว หนังของ Richard Linklater นี่แหละคืออะไรที่ตอบโจทย์มากจริงๆ
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- ผู้กำกับสุดเดือด อย่างเควินติน ทารันติโน เอง ก็ยังถึงกับเอ่ยปากว่าหนังเรื่องนี้อยู่ใน 1 ใน 20 หนังโปรดตลอดกาลของเขา เพราะเป็นจดหมายเหตุของยุคสมัย ที่แสดงถึงไลฟ์สไตล์ ความรู้สึกนึกคิด และวัฒนธรรมในยุค 70 เอาไว้ได้เป็นอย่างดี
- บริษัทโปรดักชั่นของ Matthew McConaughey ที่มีชื่อว่า JKL Productions มาจาก บทพูดของตัวละครที่เข้าแสดงในเรื่องนี้ว่า “Just Keep Livin!”
- 1 ใน 6 ของต้นทุนในการสร้างหนัง 6 ล้านเหรียญเรื่องนี้ หมดไปกับการหาเพลงป๊อปฮิตในยุคนั้นมาประกอบหนัง